มะเร็งผิวหนังเมลาโนมา หรือมะเร็งไฝ ภาวะอันตรายของผิวหนังที่ต้องใส่ใจ

มะเร็งผิวหนังเมลาโนมา มะเร็งไฝ

แสงแดดที่ร้อนแรงในเมืองไทย นับวันจะทวีความร้อนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และรู้หรือไม่ว่าแสงแดดร้อนๆ นี่แหละ

คือตัวการที่ทำให้เกิด โรคมะเร็งผิวหนัง ได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะ มะเร็งผิวหนังเมลาโนมา หากพูดถึงโรคนี้แล้ว

เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่คุ้นหูกันเท่าไร วันนี้เราเลยจะพาไปดูกันว่า โรคมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา คืออะไร รักษาได้หรือไม่? ไปทำความรู้จักกับโรคนี้พร้อมๆ กันเลย

มะเร็งผิวหนังเมลาโนมา คืออะไร?

มะเร็งผิวหนังเมลาโนมา (melanoma skin cancer) หรือ มะเร็งไฝ ถือเป็นโรคมะเร็วผิวชนิดหนึ่งที่เกิดความผิดปกติของผิวหนัง

จนทำให้เซลล์ผิวหนังส่วนนั้นกลายเป็นมะเร็ง โรคมะเร็งผิวหนังชนิดนี้ถือว่าเป็นโรคที่พบได้น้อยในบ้านเรา แม้ว่าจะสามารถพบได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง

แต่กลับพบได้เพียงแค่ 3,925 คน แต่ก็ถือว่าเป็นโรคมะเร็งผิวหนังชนิดหนึ่งที่ควรเฝ้าระวังและให้ความสนใจไม่แพ้โรคมะเร็งอื่นๆ เช่นกัน

มะเร็งผิวหนังเมลาโนมานั้นถูกพัฒนาขึ้นมาจากเซลล์ Melanocyte ซึ่งทำหน้าที่สร้างเม็ดสีของผิวหนังเกิดความผิดปกติขึ้น

จนกลายมาเป็นเซลล์ผิวที่มีความผิดปกติดังกล่าว โดยสามารถพบเจอได้ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย

เช่น หนังศีรษะ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และอวัยวะเพศ แต่จะพบเจอได้มากที่สุด ในส่วนที่สัมผัสกับแสงแดดเป็นระยะเวลานาน

โรคมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา แบ่งออกได้กี่ชนิด?

สำหรับโรคมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา สามารถแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ตามสาเหตุและลักษณะของอาการ ได้แก่

  • โรคมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา เป็นอาการมะเร็งไฝที่เกิดขึ้นบริเวณผิวหนัง
  • โรคมะเร็งเยื่อเมือกเมลาโนมา (Mucosal melanoma) สามารถพบเจอได้ที่บริเวณเยื่อเมือก
  • โรคมะเร็งลูกตาเมลาโนมา (Ocular melanoma) พบได้ที่บริเวณดวงตา

สาเหตุของโรคมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา

สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังเมลาโนมานั้น จะประกอบไปด้วยปัจจัยเสี่ยงหลายชนิด ดังนี้

  • ผิวหนังบางจนทำให้เกิดอาการแพ้แสงแดด ซึ่งจะมีลักษณะอาการแพ้ที่แตกต่างกันออกไป เช่น มีผื่นและตุ่มพอง
  • สัมผัสกับแสงแดดเป็นระยะนาน
  • พบไฝหรือขี้แมลงวันจำนวนมากตามตัวหรือมีไฝขนาดใหญ่บนร่างกาย รวมไปถึงไฝบางชนิด เช่น ไฝนอกแบบ (Atypical nervi ไฝที่มีลักษณะคล้ายกับก้อนเนื้อมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา)
  • ผิวหนังที่ตกกระมาก
  • เชื้อชาติ คนที่มีผิวขาวจะมีโอกาสเกิดโรคมะเร็งผิวหนังเมลาโนมาได้สูงกว่าคนเอเชียและคนผิวดำ
  • กรรมพันธุ์ หากพบมะเร็งผิวหนังเมลาโนมาจากคนในครอบครัว เช่น พ่อ แม่ พี่ น้อง พ่อแม่เดียวกัน มีสิทธิ์ที่จะได้รับเชื้อผ่านทางโครโมโซม
  • มีประวัติผ่านการเข้ารับปลูกถ่ายอวัยวะ
  • มีระบบภูมิคุ้มกันร่างกายที่ไม่แข็งแรง

อาการของโรคมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา

มะเร็งผิวหนังเมลาโนมา จะมีลักษณะอาการโดยเป็นไปตามแต่ละระยะ ซึ่งเริ่มแรกนั้นอาการของโรคมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา

จะอยู่ระยะที่เรียกว่ายังไม่แพร่กระจาย โดยจะมีการเปลี่ยนของไฝหรือกระที่มักจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น เช่น ไฝจะมีรูปทรงเปลี่ยนไป

โดยอาจจะมีขนาดที่ไม่เท่ากันในแต่ละข้าง มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ขอบไม่เรียบและไม่สม่ำเสมอ สีของไฝไม่เหมือนกันสามารถเปลี่ยนเป็นสีดำ

สีน้ำตาล หรือ สีเนื้อ และเกิดแผล หรือมีเลือดออก เป็นต้น ระยะต่อมามะเร็งจะลุกลามมากยิ่งขึ้นจนทำให้เกิดไฝที่เพิ่มขึ้น

รวมไปถึง อาการผิดปกติของต่อมน้ำเหลือง ซึ่งอาจพบได้ตามจุดต่างๆ ของร่างกาย เช่น เท้า ใต้คาง หรือขาหนีบ เป็นต้น

จนมาถึงระยะสุดท้ายที่เชื้อมะเร็งจะแพร่กระจายสู่อวัยวะอื่นๆ จนทำให้มีอาการแทรกซ้อน

เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหลัง ปวดข้อ ร่างกายอ่อนแรง หรือรุนแรงถึงเซลล์สมองได้

การวินิจฉัยมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา

ในส่วนของการวินิจฉัยนั้นจำเป็นที่แพทย์จะต้องทราบถึงประวัติต่างๆ ของผู้ป่วย โดยผู้ป่วยจะได้รับการตรวจร่างกาย

ตรวจลักษณะของไฝ และตรวจคลำต่อมน้ำเหลือง เพื่อแต่ที่ได้ผลแน่นอนคือ การตัดไฝ หรือตัดชิ้นเนื้อจากไฝ

เพื่อช่วยให้สามารถหาสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงที่ถูกต้องได้ หากวินิจฉัยแล้วพบว่ามีเสี่ยงที่จะพบเชื้อมะเร็งจริง

ก็จะทำการตรวจเพื่อหาอาการแทรกซ้อน เช่น เอกซเรย์ปอด อัลตราซาวด์ตับ หรือการสแกนกระดูก (Bone scan) เป็นต้น

วิธีรักษาโรคมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา

สำหรับวิธีรักษาที่ดีและปลอดภัยที่สุดคือ การผ่าตัด เพื่อกำจัดก้อนไฝและเชื้อมะเร็งออกไปก่อนที่จะลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ

แต่หากตรวจพบว่ามีเชื้อมะเร็งที่อยู่ในระยะลุกลามหรือระยะแพร่กระจายแล้ว จำเป็นที่ต้องรักษาด้วยวิธีเคมีบำบัด รังสีรักษา

และการรักษาด้วยยาที่ตรงจุด และนำชิ้นเนื้อหลังผ่าตัดจากการตรวจทางพยาธิวิทยา

นอกจากนี้ ผู้ป่วยจะต้องมีการดูแลสุขภาพของตนเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้อาการต่างๆ ดีขึ้นตามลำดับมากยิ่งขึ้น

วิธีป้องกันโรคมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา

วิธีป้องกันและลดความเสี่ยงไม่ให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังเมลาโนมาคือ หลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวหนังสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง

ควรสวมเสื้อแขนยาว ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้าน สวมหมวก และสวมแว่นกันแดดหรือกางร่ม

หากเป็นไปได้ก็พยายามหลบเลี่ยงแสงแดดไปเลยจะดีที่สุด ซึ่งก็ถือว่าเป็นวิธีการป้องกันโรคที่ดีที่สุดนั่นเอง

นอกจากนี้ หมั่นดูแลสุขภาพผิวด้วยครีมบำรุงเป็นประจำ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องออกแดดบ่อยๆ ควรเลือกทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไป

และควรหมั่นทาซ้ำทุก 1-2 ชั่วโมงจะดีที่สุด เพียงเท่านี้ก็จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนังเมลาโนมาได้มากยิ่งขึ้น

Credit : pinterest.co.uk

แม้ว่า มะเร็งผิวหนังเมลาโนมา ถือเป็นโรคร้ายที่พบได้น้อยในบ้านเรา แต่เราควรจะต้องระมัดระวังและดูแลตัวเองอยู่เสมอ

เนื่องจากประเทศเรานั้นมีอากาศร้อนและแสงแดดที่แรง เพราะเมื่อเกิดตรวจพบเชื้อมะเร็งขึ้นมาแล้วอาจจะทำให้เกิดการลุกลาม

และแพร่กระจายสู่กระแสเลือดจนทำให้การรักษาเป็นไปได้ด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา

จะมีอาการดื้อยาค่อนข้างสูง จนทำให้การรักษาเบื้องต้นใช้ไม่ได้ผลเท่าไรนัก สำหรับผลข้างเคียงในการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด

รังสีวิทยา หรือใช้เคมีบำบัดอาจจะพบเจอได้อยู่บ้าง แต่หากได้รับการตรวจสุขภาพอย่างเป็นประจำ

และได้รับการวินิจฉัยอย่างถูกต้อง ก็จะช่วยทำให้อาการของมะเร็งผิวหนังเมลาโนมาดีขึ้นตามลำดับอย่างแน่นอน