7 วิธีจัดการไมเกรน ด้วยวิธีธรรมชาติ

วิธีรักษาไมเกรน ด้วยวิธีธรรมชาติ

เชื่อหรือไม่ว่า อาการปวดหัวแบบไมเกรน (ภาษาอังกฤษ – Migraine) ถึงแม้จะดูเป็นโรคทั่วไป ที่ไม่อันตรายร้ายแรงถึงขั้นคุกคามชีวิตของเรา เหมือนโรคเรื้อรังอื่น ๆ

แต่ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ ยามเมื่อมีสิ่งกระตุ้นเพียงเล็กน้อยนั้น ก็สร้างความรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจ

จนกระทั่ง มีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของเราได้ ไม่น้อยเลยทีเดียว

ทุก ๆ ชั่วโมงจะมีคนหลายล้านคน ต้องทนเจ็บปวดทรมานจาก อาการกำเริบของไมเกรน อาการปวดหัวรุนแรง หรือปวดตุ๊บ ๆ

ร่วมกับมีอาการคลื่นไส้อาเจียน และความรู้สึกไวต่อแสง เหล่านี้ล้วนทำให้หลายคนมีคุณภาพชีวิตที่แย่ลง

การปวดหัวแบบไมเกรน เป็นสภาวะที่เกิดได้ทุกเพศทุกวัย และมักจะเป็นเรื้อรังยาวนาน นับเป็นโรคประจำตัวของเราไปแล้ว

และแทบทุกครั้ง คุณไม่สามารถหายเองได้ สุดท้ายก็จำเป็นต้องหันไปพึ่งยาเพื่อบรรเทาอาการให้หายปวดหัว

การรับประทานยาเพื่อบรรเทาอาการปวดเพียงอย่างเดียว อาจไม่เพียงพอ หากคุณมีอาการรุนแรงขึ้น หรือเจอกับสิ่งกระตุ้นอยู่ตลอดเวลา

รวมทั้ง ถ้ารับประทานยาต่อเนื่องนาน ๆ คุณก็อาจได้ของแถมเป็นผลข้างเคียงจากยาตามมาด้วย

การหันมาใช้แพทย์ทางเลือก จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยรักษาไมเกรนในแบบที่ปลอดภัยแ ละนับได้ว่ามีประสิทธิภาพอยู่ไม่น้อย

ถ้าคุณกำลังมองหา วิธีจัดการกับอาการปวดหัวไมเกรน ในวิธีแบบธรรมชาติแล้วหละก็ ลองวิธีต่อไปนี้ดูค่ะ

7 วิธีจัดการไมเกรน ด้วยวิธีธรรมชาติ ดังนี้

บำบัดรักษา ไมเกรน

1. ฟีเวอร์ฟิว (feverfew)

ฟีเวอร์ฟิว (Tanacetum parthenium) เป็นพืชสมุนไพร ที่มีการนำมาใช้ในการรักษาโรคมากมาย เป็นระยะเวลานานตั้งแต่ยุคกรีกโบราณ

สรรพคุณทางยาของพืชชนิดนี้ มาจากสารสำคัญที่มีชื่อว่า parthenolide กลไกการออกฤทธิ์ยังไม่ทราบแน่ชัf แต่พิสูจน์ได้ว่า…

สารสำคัญชนิดนี้มีประสิทธิภาพในการต่อต้านอาการปวดไมเกรนได้

คุณสามารถนำมาทำชาชงดื่ม หรือเคี้ยวใบ หรือหาซื้อรับประทานในแบบของอาหารเสริมก็ได้เช่นกัน

2. น้ำมันเปปเปอร์มิ้นท์ หรือ น้ำมันดอกลาเวนเดอร์

โดยปกติแล้ว เมื่อเรารู้สึกปวดไมเกรน หลายคนจะมีความไวต่อการรับกลิ่น ซึ่งทำให้อาการปวดไมเกรนแย่ลงได้

แนะนำให้คุณใช้น้ำมันหอมระเหย เช่น น้ำมันกลิ่นเปปเปอร์มิ้นท์ หรือ น้ำมันดอกลาเวนเดอร์

ถ้าใครที่รู้สึกว่ากลิ่นฉุนเกินไป อาจทำให้เจือจางก่อนใช้ โดยทาตรงบริเวณขมับและหน้าผาก จะช่วยบรรเทาอาการปวดไมเกรนให้คุณได้

นอกจากนี้ กลิ่นหอมของ น้ำมันหอมระเหย จะช่วยกลบกลิ่นไม่พึงประสงค์ ที่อาจทำให้คุณรู้สึกคลื่นไส้อาเจียนได้ด้วย

3. ขิง

นอกจากจะเป็นเครื่องปรุงรสในห้องครัวแล้ว ขิงยังมีสรรพคุณทางยาด้วย มีการนำขิงมาใช้ในทางการแพทย์ของอินเดียและแถบอาหรับ

ในการรักษาปัญหาทางระบบประสาท และปัจจุบัน แพทย์ได้แนะนำให้ใช้ในการบรรเทาอาการปวดไมเกรน ด้วยเช่นกัน

คุณสามารถรับประทานขิงสด หรือขิงแห้ง หรือในแบบที่สกัดสารสำคัญออกมา รวมทั้งอาหารเสริมที่วางจำหน่ายตามท้องตลาดก็ได้

4. วาเลอเรียน (Valerian)

วาเลอเรียน เป็นสมุนไพรอีกชนิดหนึ่ง ที่ใช้ในการรักษาอาการปวดหัวมาตั้งแต่โบราณ จนกระทั่งถึงปัจจุบัน

วาเลอเรียน มีฤทธิ์กดประสาทจึงช่วยบรรเทาอาการตึงเครียด และช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว ซึ่งเป็นอาการที่มักจะเกิดกับผู้ที่เป็นไมเกรน นั่นเอง

สมุนไพรชนิดนี้ จะช่วยให้คุณได้นอนหลับพักผ่อนได้ง่ายขึ้น หลังจากที่คุณต้องเผชิญกับอาการปวดหัวมาทั้งวัน

คุณสามารถเลือกรับประทานในรูปแบบชาชง หรือหาซื้อในแบบอาหารเสริมบรรจุแคปซูลมารับประทานก็ได้

5. คาเฟอีน

อาการปวดหัวไมเกรน เกิดจากภาวะที่หลอดเลือดสมอง มีการขยายขนาดอย่างกะทันหัน

การได้รับสารคาเฟอีนเข้าไป จะช่วยบรรเทาอาการปวดไมเกรนได้ โดยคาเฟอีนมีฤทธิ์ทำให้หลอดเลือดหดตัวกลับสู่ขนาดปกติ

การดื่มกาแฟหรือชาดำสักแก้ว เมื่อคุณรู้สึกปวดไมเกรน จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจเพราะทำได้ง่ายและได้ผลดี

6. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

การที่ร่างกายขาดน้ำอาจนำไปสู่อาการปวดไมเกรนได้ ดังนั้น การดื่มน้ำอย่างเพียงพอจึงเป็นสิ่งสำคัญ

โดยเฉพาะ เมื่อคุณมีแนวโน้มที่จะปวดไมเกรนได้ง่าย ลองดื่มน้ำ 2-3 แก้วทันที ที่คุณเริ่มรู้สึกปวด

จะช่วยบรรเทาอาการปวดไมเกรน หรืออาจจะช่วยหยุดอาการปวดไว้ได้

7. ปรับอุณหภูมิบริเวณศีรษะให้เย็นลง

หลายคนที่มี อาการปวดไมเกรน มักจะรู้สึกร้อนและรู้สึกเหมือนหัวจะระเบิดออกมา

นี่อาจจะเป็นเพราะเลือดกำลังไหลมาที่หลอดเลือดในหัวของคุณมากกว่าปกติ คุณสามารถหาทางบรรเทาอาการนี้ได้

โดยทำให้ร่างกายตั้งแต่คอลงมาอุ่นขึ้น เช่น แช่ตัวในน้ำอุ่น เพื่อให้หลอดเลือดบริเวณร่างกายขยายตัว

ในขณะเดียวกัน ให้ประคบน้ำแข็งที่บริเวณส่วนหัว เพื่อทำให้หลอดเลือดหดตัว

วิธีนี้ จะกระตุ้นให้เลือดไหลไปยังส่วนล่างของร่างกายมากขึ้น และลดอาการปวดได้

ด้วย 7 วิธีธรรมชาติบำบัดข้างต้น เป็นวิธีจัดการกับอาการปวดไมเกรนง่าย ๆ ที่หลายคนอาจจะมองข้ามไป

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่ง ที่ต้องเจอกับปัญหาปวดไมเกรนบ่อย ๆ ลองนำเทคนิคนี้ไปปรับใช้ดูบ้าง ก็จะมีประโยชน์กับคุณเยอะเลยทีเดียว