โรคต่อมทอนซิลอักเสบ สาเหตุ อาการ และวิธีรักษาป้องกันอย่างตรงจุด

โรคต่อมทอนซิลอักเสบ อาการ การป้องกัน

หลายคนคงเคยมีอาการเจ็บคอมาก จนแทบจะกลืนอาหารไม่ได้ ทำให้พูดจาไม่สะดวก

นอกจากนี้ยังอาจมีอาการไข้ร่วมด้วย แต่นี้อาจจะไม่ใช่เป็นอาการไข้หวัดธรรมดา แต่หากตรวจสอบให้ดี

อาจจะเป็นอาการ ต่อมทอนซิลอักเสบเฉียบพลัน ซึ่งเป็นโรคชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อย ในช่วงที่อากาศเกิดการเปลี่ยนแปลง

และหากป่วยแล้วไม่รีบรักษาอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ ดังนั้นหลายคนที่เป็นมักจะมองข้ามไม่ใส่ใจรักษา

วันนี้เรามีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ ต่อมทอนซิลอักเสบ มาฝากกัน รู้แล้วจะได้ใส่ใจรับมือกับโรคนี้กันมากขึ้น

ต่อมทอนซิล คืออะไร ทำหน้าที่อะไร

ต่อมทอนซิล (Tonsillitis) เป็นกลุ่มของเนื้อเยื้อประเภทต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ในปาก มีหน้าที่สำคัญที่ช่วยจับ

และกำจัดเชื้อโรคที่จะเข้าสู่ร่างกาย เนื่องจากภายในต่อมมีเม็ดเลือดขาวอยู่หลายชนิด

จึงช่วยดักจับเชื้อโรคบางชนิดได้ด้วยตัวของมันเอง ต่อมทอนซิลในลำคอมีอยู่ 3 ตำแหน่งคือ

  • พาลาทีนทอนซิน จะอยู่บริเวณด้านข้างของช่องปาก
  • ต่อมทอนซิลที่โคนลิ้น
  • ต่อมอดีนอยด์ เป็นต่อมทอนซิลที่อยู่ช่องหลังโพรงจมูก

โดยต่อมทั้ง 3 จุดจะทำงานร่วมกัน เพื่อคอยต่อสู้กับเชื้อโรคที่ผ่านเข้ามาทางจมูกและลำคอ ต่อมทอนซิลช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน

ให้กับร่างกายในวัยเด็ก ในช่วงอายุประมาณ 1 – 10 ขวบ หากพ้นช่วงวัยนั้นไปแล้ว จะทำให้ต่อมทอนซิลมีขนาดเล็กลง

สาเหตุที่ทำให้เกิดต่อมทอนซิลอักเสบ

ต่อมทอนซิลอักเสบ ภาษาอังกฤษเรียกว่า Tonsillitis โดยสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดไข้หวัด

ไข้หวัดใหญ่ รวมถึงไวรัสชนิดอื่น ๆ ที่เข้าสู่ร่างกาย ในบางกรณีอาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย เป็นโรคที่ติดต่อกันได้ง่าย

ผ่านการหายใจเอาละอองเสมหะของผู้ป่วยเข้าไป รวมถึงการสัมผัสถูกสิ่งของที่มีการแปดเปื้อนของเชื้อโรค

ที่ออกมากับน้ำลายและเสมหะของผู้ป่วย เมื่อเชื้อนี้เข้าไปในคอหอยและทอนซิล

จะทำให้เกิดการอักเสบของของระบบหายใจตอนบน ในบางกรณีจะมีทอนซิลชนิดเป็นหนอง

ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย บีตาฮีโมไลติกสเตรปโตค็อกคัส กลุ่มเอ จะมีระยะเวลาในการฟักตัวประมาณ 2 – 7 วัน

อาการของต่อมทอนซิลอักเสบแบบเฉียบพลัน

ต่อมทอนซิลอักเสบจากเชื้อไวรัส

ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บคอเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยจะมีน้ำมูกใส ไอ เสียงแหบ มีไข้ ปวดศีรษะ ตาแดง

อาจทำให้เกิดอาการท้องเดิน ถ่ายเหลวร่วมด้วย ผนังคอหอยจะมีแดงเพียงเล็กน้อย ทอนซิลโตมีลักษณะแดงเพียงเล็กน้อยไม่ชัดเจน

ต่อมทอนซิลอักเสบชนิดเป็นหนอง

อาการนี้พบได้บ่อยในเด็กที่มีอายุ 5 – 15 อาจพบได้ในผู้ใหญ่บ้างแต่ไม่บ่อย เป็นโรคติดต่อระหว่างคนที่อยู่ร่วมกันอย่างใกล้ชิดเป็นเวลานาน

เช่น ที่โรงเรียน ที่บ้าน ที่ทำงาน แต่พบว่ามีการแพร่เชื้อในเด็กมากกว่า อย่างไรก็ตาม ทอนซิลอักเสบชนิดเป็นหนอง

จะมีความรุนแรงมากกว่า ทอนซิลที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ผู้ป่วยจะมีไข้สูงเฉียบพลัน มีอาการหนาวสั่นปวดศีรษะ

รู้สึกปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร กลืนน้ำลายลำบาก มีอาการปวดร้าวขึ้นไปจนถึงใบหู มีน้ำมูกใส ตาแดง ไอ

เมื่อตรวจดูจะพบว่า ผนังคอหอยมีลักษณะแดงจัดและบวม ทอนซิลโตอย่างเห็นได้ชัด มีแผ่นหรือจุดหนองสีขาว ๆ เหลือง ๆ

ติดอยู่บนทอนซิล นอกจากนี้ยังอาจตรวจพบ ต่อมน้ำเหลืองที่ใต้ขากรรไกรบวมโต

อาการแบบไหนที่ต้องไปพบแพทย์

หากมีอาการไม่มาก ให้รอดูอาการประมาณ 2 – 3 วัน ในช่วงนี้ให้ดื่มน้ำมาก ๆ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ อาการจะเริ่มดีขึ้น

แต่หากผ่านไป 2 – 3 วันแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น แสดงว่าทอนซิลอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย หากมีอาการเหล่านี้ควรไปพบแพทย์

  • มีไข้สูงเกิน 4 วัน
  • มีอาการเจ็บคอมาก กลืนอาหารและน้ำลำบาก พูดลำบาก
  • หายใจหอบ หายใจลำบาก
  • ทอนซิลมีอาการบวมแดง
  • มีแผ่นหรือจุดหนองที่ต่อมทอนซิล
  • ต่อมน้ำเหลืองโต เวลากดจะรู้สึกเจ็บ
  • ต่อมทอนซิลโตข้างเดียว
  • การรักษาต่อมทอนซิล

วิธีรักษาโดยการใช้ยา

ต่อมทอนซิลอักเสบที่เกิดจากเชื้อไวรัส หากมีอาการไม่รุนแรงแพทย์จะให้ยาลดไข้ ยาแก้ไอ ยาแก้อักเสบ

โดยส่วนใหญ่แล้วอาการจะหายไปภายใน 1 สัปดาห์ แต่หากเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะ

อาการจะทุเลาลงภายใน 2 – 3 วัน แต่จำเป็นต้องทานยาให้ครบตามที่แพทย์สั่งคือ 7 – 10 วัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อน

วิธีรักษาโดยการผ่าตัด

การรักษาต่อมทอนซิลด้วยการผ่าตัดเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก การผ่าตัดทอนซิลไม่ใช่การผ่าตัดใหญ่ โดยแพทย์จะให้ยาสลบกับคนไข้

จากนั้นจึงลงมือทำการผ่าตัด ใช้เวลาในการผ่าตัดไม่นาน หลังจากนั้นจึงนอนพักที่โรงพยาบาล 1 คืน เพื่อรอดูอาการ

หลังการผ่าตัดจะต้องทานอาหารเหลวในช่วง 4 – 5 วันแรก เมื่อครบสองสัปดาห์จึงสามารถกลับไปทานอาหารได้ตามปกติ

ต่อมทอนซิลอักเสบ หายได้ภายในกี่วัน

ถ้าหากเป็นอาการของต่อมทอนซิลอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส โดยทั่วไปแล้วจะหายไปได้ภายใน 1 สัปดาห์

แต่หากเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย แล้วได้ทานยาปฏิชีวนะ อาการจะดีขึ้นหลังการทานยาไปแล้ว 2 – 3 วัน

หากไม่ได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ จะทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนได้

วิธีดูแลตนเองเมื่อต่อมทอนซิลอักเสบ

  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • ดื่มน้ำมาก ๆ
  • อยู่ในสถานที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีฝุ่นควัน เพราะจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้ง่าย
  • ปิดปากและจมูกเวลาไอและจาม เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเกิดการแพร่กระจาย
  • หากมีไข้สูงให้ทานยาลดไข้

อาหารที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยต่อมทอนซิล

หากมีอาการต่อมทอนซิลอักเสบ ให้เลือกทานอาหารอ่อน ๆ ไม่ร้อนมาก เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก ซุป นม ผักและผลไม้ ควรดื่มน้ำมาก ๆ

วิธีป้องกันไม่ให้เกิดต่อมทอนซิลอักเสบ

  • ออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ ทานอาหารที่มีประโยชน์
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • รักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ
  • หมั่นล้างมือเพื่อชะล้างเชื้อโรคที่ติดมือมา

Credit : bangkokbiznews.com

โรคต่อมทอนซิลอักเสบ เป็นโรคที่พบได้บ่อย ในช่วงที่อากาศเกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน

จนทำให้รู้สึกเจ็บคอ มีไข้ ต่อมทอนซิลอักเสบโดยปกติสามารถหายเองได้แต่หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 4 วัน ให้รีบไปพบแพทย์

เพื่อรักษาโดยการทานยาปฏิชีวนะ การดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยป้องกันต่อมทอนซิลอักเสบได้เป็นอย่างดี