อาการ คันเพดานปาก เป็นโรคที่หลายคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยนัก และไม่เข้าใจว่าต้องคันอย่างไรจึงจะเรียกว่าคันเพดานปาก
มีอันตรายหรือไม่ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่คนทั่วไปอาจจะไม่ค่อยเข้าใจโรคนี้ เพราะอาการคันเพดานปาก
สามารถเกิดขึ้นได้เฉพาะกับบางคนเท่านั้น ซึ่งมีความสัมพันธ์กับการเป็นโรคภูมิแพ้ แม้จะไม่มีอาการรุนแรงมาก
แต่ก็สร้างความน่ารำคาญใจให้กับผู้ป่วยได้ตลอดเวลา จนกว่าจะได้รับการรักษาที่ถูกต้อง หรือรักษาตามอาการจนหายไปเอง
ภาวะ คันเพดานปาก คืออะไร มีสาเหตุมาจากไหน ?
ภาวะ คันเพดานปาก เป็นภาวะที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งเป็นภาวะหนึ่งของผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้อากาศ
ชนิดของโรคภูมิแพ้ที่คนไทยป่วยมากที่สุดในปัจจุบัน และแม้จะเรียกว่าเป็นโรคภูมิแพ้อากาศ
ก็ไม่ได้หมายถึงความเปลี่ยนแปลงของอากาศที่ผลต่อการเกิดโรค เช่น เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวฝน เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
แต่ยังมีเรื่องของความ “ไว” ต่อสิ่งก่อภูมิแพ้ของร่างกายที่ลอยมากับอากาศด้วย เช่น ควันบุหรี่ ควันไฟ ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ ขนสัตว์ และสารเคมี เป็นต้น
และด้วยชนิดของสิ่งที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน อาการตอบสนองหรืออาการที่แสดงออกก็ย่อมไม่เหมือนกันตามไปด้วย
บางคนอาจมีอาการที่ตา เช่น เยื่อบุตาอักเสบ บางคนอาจมีอาการที่ผิวหนัง เช่น มีลมพิษ หรือผื่นคัน
และบางรายอาจมีอาการที่บริเวณทางเดินหายใจส่วนบน เช่น คันจมูก คันหู คันคอ และคันเพดาน เป็นต้น
ภาวะ คันเพดานปาก มีอาการอย่างไร?
ผู้ที่มีอาการของภาวะคันเพดานปาก จะเริ่มแสดงอาการเมื่ออากาศเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง เช่น อากาศหนาวเย็นจากความกดอากาศ
ที่มาจากประเทศอื่นแบบฉับพลัน พายุฝนฟ้าคะนองที่มาแบบฉับพลัน เป็นต้น หรือเมื่อเข้าไปในสถานที่ที่เต็มไปด้วยสิ่งก่อภูมิแพ้
จึงทำให้ร่างกายแสดงอาการออกมา โดยจะมีลักษณะคันเพดานปากมากจนต้องเอามือล้วงเข้าไปเกา หรือเอาลิ้นดุนเป็นเวลานาน
ทำอย่างไรก็ไม่หาย ยิ่งถ้าหากเอามือเข้าไปเกาแล้วมือสกปรก หรือมีอาการรุนแรงมากกว่าเดิม
ก็จะเริ่มมีอาการจาม คัดจมูก ไปจนถึงเจ็บคอ ซึ่งจะเป็นอาการของโรคภูมิแพ้โดยตรงต่อไป
สำหรับอาการแทรกซ้อนของภาวะคันเพดานปากนี้ จะเลื่อนเข้าไปเกิดกับในโพรงจมูก หรือระบบทางเดินหายใจส่วนบนในส่วนอื่นๆ มากกว่า
เช่น การเป็นโรคไซนัสอักเสบ การเป็นโรคหูชั้นกลางอักเสบ (หากปล่อยทิ้งไว้นาน จะทำให้เป็นโรคหูน้ำหนวก) เป็นต้น
วิธีรักษาภาวะคันเพดานปาก
ดังที่ได้กล่าวไปแล้วนั้น ว่าการเกิดภาวะคันเพดานปาก มีความเกี่ยวข้องกับการเป็นโรคภูมิแพ้อากาศ
เพราะฉะนั้น จึงต้องทำการรักษาโรคภูมิแพ้อย่างโดยตรง อาการจะหายไปเอง ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
1.เมื่อพบอาการคันเพดานปาก ร่วมกับอาการอื่นซึ่งเป็นสัญญาณนำของโรคภูมิแพ้ ควรรีบไปหาหมอ หรือไปร้านขายยาที่มีเภสัชกร
เพื่อรักษาอย่างถูกต้องโดยทันที ในกรณีที่ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลนั้น แพทย์อาจจะเลือกใช้วิธีให้ยาทาน ยาพ่น หรือยาฉีดก็ได้ ตามแต่อาการว่ามีความรุนแรงมากน้อยเพียงใด
2.ควรทานยาหรือทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
เนื่องจากโรคนี้อาจก่อให้เกิดการดื้อยาได้ เนื่องจากเป็นโรคเรื้อรังที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาด
ซึ่งถ้าหากต้องมีการเปลี่ยนยา ผลข้างเคียงของยาอาจจะมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
วิธีป้องกันภาวะคันเพดานปาก
การป้องกันภาวะคันเพดานปากที่ดีที่สุด ก็คือการหลีกเลี่ยงสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ และดูแลสุขภาพตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ เช่น
หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในสถานที่ที่เต็มไปด้วยสิ่งก่อให้เกิดภูมิแพ้ เช่น สถานที่ก่อสร้างที่ยังไม่แล้วเสร็จ
ผับ บาร์ ร้านอาหารที่มีควันบุหรี่ แหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยขนสัตว์และเกสรดอกไม้ เป็นต้น
หมั่นดูแลสุขอนามัยภายในบ้านให้สะอาด โดยเฉพาะภายในห้องนอน ควรมีการซักทำความสะอาดปลอกหมอน
ผ้าปูที่นอน และผ้าห่มทุกสัปดาห์ และควรทำความสะอาดภายในบ้านทุกวัน เพื่อไม่ให้มีฝุ่นละอองและไรฝุ่นตกค้างมากที่สุด
ไม่ควรเลี้ยงสัตว์ที่มีขน เช่น สุนัข แมว เพราะจะทำให้เกิดอาการมากยิ่งขึ้น หากจำเป็นต้องเลี้ยง
แนะนำให้เลี้ยงสัตว์ในบริเวณภายนอกตัวบ้านจะดีกว่า ไม่ควรนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาไว้ภายในบ้านด้วยจะดีที่สุด ก็จะช่วยหลีกเลี่ยงอาการแพ้ลงได้
ควรหาเครื่องฟอกอากาศมาติดตั้งภายในบ้าน เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะจะช่วยกรองฝุ่นละอองต่าง ๆ ก่อนที่เราจะหายใจเข้าไปได้พอสมควร
พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะนอนพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นวิธีช่วยให้ร่างกายสามารถซ่อมแซมตัวเองได้เป็นอย่างดี ช่วยให้ภูมิต้านทานแข็งแรงขึ้นด้วยนั่นเอง
ออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยให้ภูมิต้านทานในร่างกายแข็งแรงขึ้น ไม่เจ็บป่วยได้ง่ายด้วยเช่นเดียวกัน
Credit : clinicadentalmontane.com
ภาวะคันเพดานปาก อาจจะดูเป็นภาวะเล็กๆ ที่ไม่มีความน่ากลัว เมื่อเทียบกับอาการอื่นที่เกิดขึ้นเมื่อเป็นโรคภูมิแพ้
แต่ก็สร้างความทรมานให้กับผู้ป่วยพอสมควร บางคนจะรู้สึกคันตลอดเวลา บางคนอาจต้องถูกรบกวนจากการนอน
เพราะอยู่ดี ๆ ก็คันแบบไม่ทราบสาเหตุ และไม่มีวิธีการรักษาเฉกเช่นอาการเจ็บคอแบบทั่วไปอีกด้วย ต้องรอให้หายไปเอง
เพราะฉะนั้น หากไม่อยากเป็นภาวะนี้อีก ควรดูแลตัวเองให้ดีที่สุดก็จะช่วยป้องกันได้เป็นอย่างมาก