ผู้ชายหลายคนคงคุ้นเคยกับ โรคต่อมลูกหมากโต เพราะเป็นโรคร้ายอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในผู้ชายสูงวัย
ซึ่งอาการต่อมลูกหมากจะโตมากผิดปกติ จนทำให้ระบบทางเดินของปัสสาวะถูกรบกวน จนทำให้ปัสสาวะไม่สะดวก
ปัสสาวะขัด จนก่อให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะได้ วันนี้เราลองมาทำความเข้าใจ
ถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดโรค การรักษา รวมถึงวิธีการป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงจากโรค ลองมาดูกันเลยดีกว่า
ทำความรู้จัก “ต่อมลูกหมาก” กันก่อน
ต่อมลูกหมาก (prostate gland) เป็นต่อมอย่างหนึ่งที่อยู่ภายในร่างกาย โดยอยู่ภายในระบบสืบพันธุ์ของเพศชาย
มีรูปร่างเหมือนกับผลวอลนัท ต่อมลูกหมากจะอยู่บริเวณระหว่าง กระเพาะปัสสาวะและอวัยวะเพศชาย
ด้านหน้าของทวารหนัก จะมีท่อปัสสาวะผ่านตรงกลางของต่อม ต่อมชนิดนี้มีอยู่เฉพาะในเพศชายเท่านั้น
โดยมีหน้าที่หลักที่ช่วยในการสร้างของเหลว เพื่อคอยหล่อเลี้ยงอสุจิ การมีขนาดต่อมลูกหมากผิดปกติ
จะทำให้ปัสสาวะติดขัด นอกจากนี้ยังทำให้อสุจิที่ถูกหลังออกมาไหลกลับเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะได้
หากปล่อยทิ้งไว้นานแล้วไม่ได้รับการรักษา จะทำให้เกิดปัญหากับกระเพาะปัสสาวะได้ ส่งผลเสียต่อไตได้ในอนาคต
อาการของต่อมลูกหมากโต
อาการของต่อมลูกหมากโต มีสาเหตุเกิดจากขนาดของต่อมลูกหมากที่มีขนาดใหญ่ จนก่อให้เกิดแรงดันที่กระเพาะปัสสาวะ
และท่อปัสสาวะ จึงส่งผลเสียต่อการปัสสาวะ มีผู้ชายจำนวนมากที่ละเลยอาการต่อมลูกหมากโต โดยมีอาการดังต่อไปนี้
- ปัสสาวะลำบาก
- มีปัญหาเกี่ยวกับการไหลของปัสสาวะ
- ปัสสาวะบ่อย
- ปัสสาวะน้อย ปัสสาวะไม่สุด
- ตื่นตอนกลางคืนบ่อย เพราะปัสสาวะบ่อย
- เกิดอาการปัสสาวะเล็ด เพราะไม่สามารถควบคุมการปัสสาวะได้
โรคต่อลูกหมากโตยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ปัสสาวะไม่ออก ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ เช่น นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
การติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ไตเกิดความเสียหาย หากมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย ควรต้องรีบปรึกษาแพทย์
ได้แก่ หนาวสั่น ปวดสีข้าง ปวดบริเวณหลังหรือท้อง ปัสสาวะมีหนองหรือเลือดปน
สาเหตุของต่อมลูกหมากโต
ต่อมลูกหมากโตอาจเกิดจากความเสื่อมสภาพของร่างกายตามวัยของผู้ชาย การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย
นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากพันธุกรรม สำหรับผู้ที่มีอาการแทรกซ้อนรุนแรง ในกลุ่มอายุน้อยกว่า 60 ปี จะต้องทำการรักษาโดยการผ่าตัด
ต่อมลูกหมากโตมักพบได้บ่อยในคนที่มีอายุมากกว่า 50 ปี สำหรับคนที่มีประวัติว่าคนในครอบครัวมีปัญหาเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก
รวมถึงมีความผิดปกติของอัณฑะ จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคต่อมลูกหมากโต
แนวทางของการรักษาต่อมลูกหมาก
การรักษาต่อมลูกหมากจะต้องใช้หลาย ๆ วิธีรวมกัน แต่โดยทั่วไปแล้ว จะต้องเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิต
การใช้ยาในการรักษา รวมถึงการผ่าตัด แต่สำหรับในกรณีที่ต่อมลูกหมากโต ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วย
ก็ไม่มีความจำเป็นต้องทำการรักษา เพื่อแต่ต้องเฝ้าระวังไม่ให้อาการมีความรุนแรงขึ้น
แต่อย่างไรก็ตามผู้ป่วยก็ควรดูแลตนเอง ด้วยการปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิต ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
1.งดการดื่มเครื่องดื่มก่อนเข้านอนอย่างน้อย 2 ชั่วโมง วิธีนี้จะช่วยลดการปวดปัสสาวะในช่วงตอนกลางคืน
ทำให้ไม่ต้องตื่นมาปัสสาวะกลางดึกบ่อย ๆ แต่ในระหว่างวันจะต้องดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม
2.งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีน การลดปริมาณเครื่องดื่มเหล่านี้ลง จะช่วยลดการระคายเคืองที่กระเพาะปัสสาวะ
3.ออกกำลังกาย จากผลการวิจัยพบว่าการเดินออกกำลังกายวันละ 30 – 60 นาทีต่อวัน จะทำให้อาการของโรคดีขึ้นได้
4.ลดการทานยาแก้แพ้ ยาลดน้ำมูก การใช้ยาทั้งสองชนิดนี้จะทำให้ปัสสาวะลำบาก
เพราะยาจะเข้าไปทำให้กล้ามเนื้อบริเวณท่อปัสสาวะที่ควบคุมการไหลของปัสสาวะ เกิดการหดตัว
5.อย่าอั้นปัสสาวะ การอั้นปัสสาวะนานเกินไป จะทำให้กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะ เกิดความเสียหายได้
6.ทานอาหารที่มีประโยชน์ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ จะทำให้น้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
ทำให้ลดความเสี่ยงต่อโรคอ้วน ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับโรคต่อมลูกหมากโต
7.ฝึกการเข้าห้องน้ำ ให้ฝึกเข้าห้องน้ำทุก ๆ 4 – 6 ชั่วโมง เป็นวิธีการอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ที่ปัสสาวะบ่อย ไม่สามารถกลั่นปัสสาวะได้ มีอาการดีขึ้น
วิธีรักษาต่อมลูกหมากโตด้วยยา
เป็นการรักษาที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการต่อมลูกหมากโตไม่รุนแรง โดยแพทย์จะนิยมใช้ยาดังต่อไปนี้
แอลฟา – บล็อกเกอร์ (Alpha Blockers) เป็นยาสำหรับคลายกล้ามเนื้อ บริเวณคอของกระเพาะปัสสาวะ
ทำให้ปัสสาวะได้ง่าย แต่ยาชนิดนี้มีผลข้างเคียงที่ทำให้เกิดอาการวิงเวียน อาจทำให้อสุจิไหลกลับเข้าไปในท่อปัสสาวะ
5 แอลฟา รีดักเตส ฮินฮิบิเตอร์ (5 Alpha Reductase Inhibitor) เป็นยาที่ทำให้ต่อมลูกหมากหดตัว
ลดการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนที่ทำให้ต่อมลูกหมากขยายตัว แต่ยาชนิดนี้ก็ส่งผลเสียต่ออสุจิ
ยาทาดาลาฟิล (Tadalafil) การใช้ยาชนิดนี้จะช่วยแก้ปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
ช่วยรักษาต่อมลูกหมากโต แต่ยาชนิดนี้จะใช้กับผู้ป่วยที่เสื่อมสมรรถภาพทางเพศเท่านั้น
วิธีรักษาต่อมลูกหมากด้วยการผ่าตัด
การผ่าตัดจะใช้สำหรับผู้ที่มีอาการรุนแรงเท่านั้น เหมาะสำหรับผู้ที่รักษาด้วยยาแล้วไม่ได้ผล
การผ่าตัดต่อมลูกหมากทำได้หลากหลายวิธี เช่น การผ่าตัดโดยการขยายท่อปัสสาวะ การผ่าตัดโดยการใช้คลื่นไมโครเวฟ
การผ่าตัดส่องกล้องด้วยเข็ม การรักษาด้วยเลเซอร์ แต่ละวิธีก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป
วิธีป้องกันต่อมลูกหมากโต
จริงๆ แล้วยังไม่มีวิธีไหนที่จะสามารถช่วยป้องกันต่อมลูกหมากโตได้ แต่ก็ยังมีวิธีที่ดีที่สุดคือ
ผู้ชายที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ควรตรวจลูกหมากเป็นประจำทุกปี หมั่นสังเกตความผิดปกติของระบบปัสสาวะ
หากพบความผิดปกติดังต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัย ก็จะสามารถรู้เท่าทันโรคและรักษาเพื่อควบคุมไม่ให้โรคบานปลายได้
1.ปัสสาวะบ่อย
2.ปัสสาวะเป็นเลือด
3.รู้สึกเจ็บเวลาปัสสาวะ
4.ปัสสาวะกะปริบกะปรอย
5.ปัสสาวะลำบาก
Credit : medthai.com
ต่อมลูกหมากโต พบได้บ่อยสำหรับผู้ชายที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป สาเหตุอาจเกิดจากความเสื่อมสภาพของร่างกาย
รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย ส่งผลทำให้ต่อมลูกหมากโต ทำให้ปัสสาวะลำบาก ส่งผลเสียต่อกระเพาะปัสสาวะ
การรักษาจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิต ร่วมกับการใช้ยา หากมีอาการรุนแรงจะต้องทำการรักษาด้วยการผ่าตัด
นอกจากนี้ในปัจจุบันก็ยังไม่พบวิธีการป้องกันต่อมลูกหมากโตอย่างได้ผลชัดเจน มีก็แต่วิธีการดูแลสุขภาพ
โดยการตรวจสุขภาพอยู่เป็นประจำเพื่อหาความผิดปกติของโรคดังกล่าว เพื่อจะได้ทำการรักษาให้หายขาดได้ทันท่วงทีนั่นเอง