การทำศัลยกรรมเสริมหน้าผาก เป็นอีกหนึ่งวิธีปรับแก้จุดบกพร่องบนใบหน้าให้ออกมาสวยงาม รับกับรูปหน้ามากขึ้น ซึ่งการทำ ศัลยกรรมหน้าผาก นั้นก็สามารถเลือกทำได้ด้วยกันหลายกรณี สาวๆ บางคนอาจจะอยากทำ
เพราะเพื่อต้องการแก้ไขรูปลักษณ์หน้าผากให้มีลักษณะโค้งนูน ช่วยเพิ่มใบหน้าให้ออกมามี 3 มิติสวย หรืออาจจะอยากทำ
เพื่อเสริมโหง่วเฮ้งรับโชคลาภวาสนา แต่อย่างไรก็ดี ก่อนคิดทำศัลยกรรม สาวๆ จะต้องใส่ใจศึกษาหาข้อมูลก่อนทำอย่างละเอียดจะเป็นการดีที่สุด
- ก่อนตัดสินใจทำ ศัลยกรรม เสริมหน้าผาก ควรรู้อะไรบ้าง?
- 1.ผู้ที่มีหน้าผากแบบไหน ควรทำศัลยกรรมหน้าผาก
- 2.ควรเลือกทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
- 3.วิธีทำศัลยกรรมเสริมหน้าผาก สามารถทำได้ด้วยวิธีใดบ้าง?
- 3.1 วิธีศัลยกรรมด้วยการฉีดไขมัน
- 3.2 วิธีศัลยกรรมด้วยการผ่าตัดเสริมซิลิโคน
- 3.3 วิธีศัลยกรรมด้วยการฉีดฟิลเลอร์
- 4.การทำศัลยกรรมหน้าผากเพื่อเสริมโหง่วเฮ้ง
- 5.ก่อนทำศัลยกรรมเสริมหน้าผาก ควรเตรียมตัวอย่างไร?
- 6.วิธีดูแลตัวเองหลังทำศัลยกรรมเสริมหน้าผาก
- 7.หลังทำศัลยกรรมเสริมหน้าผาก อาจมีผลข้างเคียงใดเกิดขึ้นบ้าง?
ก่อนตัดสินใจทำ ศัลยกรรม เสริมหน้าผาก ควรรู้อะไรบ้าง?
สำหรับสาวคนไหนที่กำลังคิดตัดสินใจทำ เรามาลองศึกษาข้อมูลดังนี้ กับ 7 เรื่องน่ารู้ก่อนตัดสินใจ ทำศัลยกรรมเสริมหน้าผาก กันก่อนดีกว่า
1.ผู้ที่มีหน้าผากแบบไหน ควรทำศัลยกรรมหน้าผาก
โดยปกติแล้ว การที่ใบหน้าของเราเรียวสวยได้รูปไข่อย่างงดงามลงตัว สาวๆ อาจไม่จำเป็นต้องทำศัลยกรรมก็ได้
แต่หากมีส่วนใดส่วนหนึ่งบกพร่องไม่สมส่วนเข้ากับรูปหน้า อย่างเช่น หน้าผาก ก็เหมาะสมกับการพิจารณาทำศัลยกรรมหน้าผากได้ค่ะ
ซึ่งการทำศัลยกรรมเสริมหน้าผากให้สวยเข้ากับรูปหน้านั้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าผากไม่เรียบเนียน หน้าผากกว้าง แบนหรือแคบเกินไป
ซึ่งการศัลยกรรมจะช่วยปรับรูปหน้าโดยรวมให้สวยสมดุลมีมิติมากขึ้นได้ นอกจากนี้ ผู้ที่อายุมากซึ่งมักมีปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่นบนหน้าผาก
ก็ยังสามารถเข้ารับการทำศัลยกรรมหน้าผาก เพื่อทำให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ขึ้นได้เช่นกัน
2.ควรเลือกทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
สำหรับสาวๆ ที่ต้องการทำศัลยกรรมเสริมหน้าผาก แนะนำให้เลือกทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
โดยก่อนอื่นคุณจะต้องปรึกษากับแพทย์ศัลยกรรมก่อน เพื่อที่แพทย์จะได้ทำการวิเคราะห์รูปหน้า ตรวจสอบว่า
ควรให้การแก้ไขลักษณะรูปลักษณ์หน้าผากด้วยวิธีแบบใด และผู้ทำศัลยกรรมควรมีการเตรียมตัวก่อนทำอย่างไรบ้าง
ตลอดจนถึงค่าใช้จ่ายในการทำ ทั้งหมดนี้ สาวๆ ควรสอบถามข้อมูลโดยละเอียด และควรแจ้งประวัติของตัวคุณเองด้วยเช่นกันค่ะว่า
มีปัญหาสุขภาพหรือโรคใดบ้างหรือไม่ รวมถึงการแพ้ยาหรือการแพ้สารชนิดใด (ถ้ามี)
3.วิธีทำศัลยกรรมเสริมหน้าผาก สามารถทำได้ด้วยวิธีใดบ้าง?
แท้จริงแล้ว การทำศัลยกรรมเสริมหน้าผากนั้น มีให้เลือกทำได้ด้วยกันหลายวิธี แต่วิธีที่เรานำเสนอนี้ ล้วนเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมกันเป็นอย่างดี ซึ่งได้แก่..
3.1 วิธีศัลยกรรมด้วยการฉีดไขมัน
เป็นวิธีการนำไขมันจากในร่างกายของตัวผู้ทำ มาฉีดเสริมเข้าไปยังบริเวณหน้าผาก เช่น ไขมันจากต้นขา ต้นแขน
หน้าท้อง ก่อนนำมาแยกเซลล์ไขมันแล้วฉีดเสริมเข้าไป ซึ่งการฉีดไขมันเข้าหน้าผากนี้จะไม่ก่อให้เกิดบาดแผล
ไม่มีรอยแผลเป็นบนผิวตามมา และยังออกมาสวยเป็นธรรมชาติอย่างมาก หากแต่ก็มีข้อเสียคือ
ภายหลังจากการฉีดไขมันเข้าหน้าผากแล้วจะมีระยะเวลาอยู่ได้เพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น
3.2 วิธีศัลยกรรมด้วยการผ่าตัดเสริมซิลิโคน
เป็นวิธีการผ่าตัดเพื่อเสริมซิลิโคนเข้าไปยังหน้าผาก ทำให้เกิดความพอดีเข้ากันกับรูปหน้า ซึ่งข้อดีจากการผ่าตัดเสริมหน้าผากด้วยการใส่ซิลิโคนนั้น
จะทำให้ผู้ทำมีหน้าผากที่สวย รับกับใบหน้าได้อย่างพอดี และที่สำคัญระยะเวลายังอยู่ได้ยาวนานกว่าการฉีดไขมันเข้าไปอีกด้วย
3.3 วิธีศัลยกรรมด้วยการฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์ ถือเป็นการศัลยกรรมโดยการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปบริเวณหน้าผากตามจุดต่างๆ โดยวิธีนี้จะช่วยเสริมตำแหน่งของหน้าผากที่มีส่วนบกพร่อง ไม่สวยงามให้ดูดีขึ้น
เพราะสามารถฉีดเพื่อช่วยเติมแต่งหน้าผากให้นูนสวยได้รูปมากขึ้น และยังช่วยให้ริ้วรอยบนหน้าผากลดลง ผิวส่วนดังกล่าวก็จะเต่งตึงขึ้น
4.การทำศัลยกรรมหน้าผากเพื่อเสริมโหง่วเฮ้ง
หลายคนมักเชื่อกันว่า ลักษณะหน้าผากที่โหนกนูน มักเป็นหน้าผากของคนโหง่วเฮ้งดี ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จรุ่งเรือง
มีแต่ความโชคดี บังเกิดโชคลาภ และการได้รับทรัพย์ และหากสาวๆ คนไหนต้องการทำศัลยกรรมหน้าผากเพื่อเปิดรับโหง่วเฮ้งดี
ควรทำแบบที่ให้ลักษณะความโค้งนูนแบบพอประมาณ โดยจะต้องรับกับจมูกและใบหน้า ซึ่งองค์ประกอบโดยรวมทั้งหมด
จะต้องออกมาสวยสมดุลกัน แบบนี้ก็จะได้ครบครันทั้งความสวยและได้โหง่วเฮ้งดีในตัวแล้วค่ะ
5.ก่อนทำศัลยกรรมเสริมหน้าผาก ควรเตรียมตัวอย่างไร?
ผู้ที่ต้องการทำศัลยกรรมเสริมหน้าผาก ควรเตรียมตัวเป็นอย่างดี โดยแพทย์จะให้การตรวจเช็กร่างกายก่อนอย่างละเอียด
และก่อนวันไปทำศัลยกรรมประมาณ 1-3 วัน ควรงดรับประทานยาในกลุ่มพวกแอสไพรนิน อาหารเสริมวิตามินอี
หลีกเลี่ยงพฤติกรรมการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ หันมารับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และนอนพักผ่อนให้เพียงพออยู่เสมอจะดีที่สุด
6.วิธีดูแลตัวเองหลังทำศัลยกรรมเสริมหน้าผาก
– ผู้ที่ฉีดไขมันหรือสารเติมเต็ม
หลังจากฉีดแล้วจะมีเพียงแค่รอยเข็มเท่านั้น และมักไม่มีอาการปวดบวมมากเท่าไรนัก แต่ทั้งนี้ก็ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์
– ผู้ที่ผ่าตัด ในช่วง 1-2 วันแรกที่ผ่าตัด
ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดบวม แต่สามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อช่วยบรรเทาอาการได้
และควรใส่ใจรับประทานยาที่แพทย์จัดให้อย่างเคร่งครัดเช่นกัน นอกจากนี้ หากมีอาการบวมภายหลังจากผ่าตัด 1-2 วันแรก
แนะนำให้ประคบเย็น แต่หลังจากนั้นเมื่อเข้าสู่วันที่ 3 ก็ให้ประคบร้อน วิธีนี้จะช่วยให้อาการปวดบวมลดลงได้
ที่สำคัญคือ ผู้ป่วยจะต้องงดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิดเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน และควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายรูปแบบหนักๆ
เป็นเวลาประมาณ 2-3 เดือน เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการกระทบกระเทือน เพราะไม่เช่นนั้น อาจจะทำให้หน้าผากผิดรูปทรงได้
7.หลังทำศัลยกรรมเสริมหน้าผาก อาจมีผลข้างเคียงใดเกิดขึ้นบ้าง?
การทำศัลยกรรมทุกรูปแบบ ล้วนมีความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงตามมาเสมอ ซึ่งการทำศัลยกรรมเสริมหน้าผากก็เช่นเดียวกัน
สำหรับผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นนั้น ส่วนใหญ่มักเกิดอาการปวดบวมช้ำจากแผลผ่าตัดนั่นเอง หากทั้งนี้ก็ไม่ต้องเป็นกังวลเกินไป
และควรพักฟื้นประมาณ 5-7 วัน อาการเหล่านี้ก็จะค่อยๆ ดีขึ้นได้เองตามลำดับ นอกจากนี้ ผู้ป่วยอาจยังสามารถพบอาการข้างเคียงอื่นๆ อีกได้
เช่น เรื่องความไม่สมส่วน ไม่รับกันกับรูปหน้า หน้าผากไม่เท่ากัน หรืออาจมีอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อบนใบหน้าได้
และหากผู้ป่วยพบว่ามีอาการเหล่านี้ แนะนำให้พบแพทย์เพื่อทำการปรึกษาและรับการแก้ไขใหม่จะดีที่สุด
Credit : alux.com
ข้อมูลเหล่านี้ล้วนคือ ข้อมูลน่ารู้ก่อนตัดสินใจ ทำศัลยกรรมเสริมหน้าผาก สาวๆ คนไหนที่อยาก ทำศัลยกรรม ไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม
การหันมาทำความเข้าใจ ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนทำ จะทำให้คุณทำศัลยกรรมออกมา เสี่ยงต่อการพบเจอความผิดพลาดได้น้อยที่สุด และยังได้รูปหน้าและหน้าผากใหม่ที่สวยดั่งใจมากขึ้นอีกด้วย