สูตรสำเร็จ 8 ข้อ ของ Dr.Heidi Halvorson

Dr.Heidi Halvorson ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาการทำงาน ทั้งนั่งนึกและเดินนึก จนคิดตกผลึกว่า อย่ามัวแต่สงสัย เราควรจะทำการวิจัยเป็นเรื่องเป็นราว ว่าคนเหล่านี้เขามีอะไรดีหนอ จะได้ขอมาใช้บ้าง

Dr.Heidi Halvorson จึงทุ่มศึกษาวิจัยผู้ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นเด็กนักเรียนที่ชนะการแข่งขันด้านวิชาการ นักกีฬานานาชาติที่พิชิตเหรียญทองโอลิมปิก มนุษย์เงินเดือนที่เป็นดาวเด่นขององค์กร ตลอดจนผู้นำที่เราคุ้นชื่อ ไม่ว่าจะเป็น Steve Jobs Bill Gates หรือ Warren Buffett

ผลการวิจัยฉบับเต็มจะถูก ตีพิมพ์เป็นหนังสือ ซึ่งจะเปิดโฉมตอนปลายปีนี้ Dr. Heidi จึงแอบสรุปประเด็นเล่าให้เราฟังในนิตยสาร Harvard Business Review ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาก่อนว่า คนที่ประสบความสำเร็จกว่ามนุษย์ทั่วไป ส่วนใหญ่มีพฤติกรรมคล้ายคลึงกันหลายข้อ พอสรุปได้ 8 ประเด็นดังนี้

1.ไม่เบลอ กล่าวคือ เขาตั้งหลักโดยรู้กระจ่างว่าเขาต้องการอะไร และตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน เฉพาะเจาะจง จะได้จินตนาการได้ชัดแจ๋วว่าความสำเร็จหน้าตาเป็นอย่างไร อาทิ การตั้งใจว่า “จะลดน้ำหนักให้ได้” ยังไม่ให้ความชัดเจน ปรับเป็น “ลดน้ำหนัก 3 กิโล ใน 6 เดือน” จะเห็นเป้าหมายได้แจ่มชัด เป็นตัวสร้างความมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึงฝันที่วาดไว้

2. ไม่มั่ว เขามีแนวทางและแผนงานชัดเจนว่าจะทำอะไร เมื่อไหร่ เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย หากจะลดน้ำหนักต้องวางแผน และจับให้มั่นคั้นให้ตายว่าจะทำอะไร เมื่อไหร่ เช่น “จะวิ่งครึ่งชั่วโมง สัปดาห์ละ 3 วัน” หากเพียงบอกว่า “จะออกกำลังกายสม่ำเสมอ” ยังอาจทำให้เผลอได้ จึงต้องจ้ำจี้จ้ำไช วาดแผนให้ชัดเจน

Dr. Heidi ฟันธงว่า การมีแผนงานที่ชัดเจนและมุ่งมั่นทำตามแผนอย่างไม่ยอมแพ้ จะเสริมเพิ่มอัตราความสำเร็จถึง 3 เท่าเลยทีเดียว

3.ไม่หลงระเริง คนกลุ่มนี้มีสติ เตือนตนตลอดว่าตอนนี้ก้าวหน้า หรือแม้แต่ถอยหลังไปถึงไหน ผู้ที่ประสบความสำเร็จ ตระหนักรู้ว่าตนเองอยู่ตรงใด จะได้รู้ว่าเหลือระยะเวลาอีกนานไหม ใกล้ถึงเป้าแล้วเหรอยัง จะได้ปรับผังปรับแผนได้ทันท่วงที

วิธีหนึ่งที่ทำง่ายๆ ในการติดตามงาน คือ การมี “หลักกิโลเมตร” วัดระหว่างทาง อาทิ หากรอชั่งน้ำหนักหลังเวลาผ่านไป 6 เดือน มีสิทธิ์เป้าสะเทือนได้ง่ายๆ

ในกรณีที่ได้เป้าก็แล้วไป หากไม่ได้ แถมน้ำหนักขึ้น สิ่งที่เรียกร้องกลับมาไม่เคยได้ คือเวลาที่ผ่านไป ผ่านแล้วผ่านเลย ไม่เคยหวนกลับคืนมา คนวัดจึงได้แต่ทำหน้าจืด วืดเป้า เพราะขาดการติดตามผลงานแบบใกล้ชิดระหว่างทาง จะกลับไปแก้ตัว ก็ไม่ได้ สายเกิน

4.ไม่หวังลมๆ แล้งๆ คนที่ประสบความสำเร็จมองโลกในแง่ดี แต่เผื่อที่เผื่อใจไว้สำหรับความจริง อีกนัยหนึ่ง คนที่ประสบความสำเร็จล้วนกล้าฝัน แต่ขณะเดียวกัน ก็มิได้ฝันเฟื่อง หวังพึ่งลม พึ่งแล้งให้แห้งเหี่ยว เปลี่ยวใจ เพราะไปไม่ถึงฝันเสียที

หวังว่าจะสวยแบบพี่อั้ม จึงตั้งใจลดน้ำหนัก 10 กิโลกรัมใน 2 เดือน เอาเข้าจริงๆ ทำไม่ได้ เลยใช้วิธีกินยาที่หาเอง นอกจากไม่ประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนัก ยังอาจต้องพักรักษาตัวจากปัญหาสารพัดที่เป็นผลพลอยเสียตามมา

คนที่ประสบความสำเร็จ จึงผสมผสานการกล้าฝันกับกล้าตื่นรู้รับความจริง ว่าสิ่งใดน่าจะทำได้ สิ่งใดไกลเกินเอื้อม การดำเนินการก้าวสู่ฝัน จึงทั้งท้าทายและเป็นไปได้ในเวลาเดียวกัน

5. ไม่เหลาะแหละ คนที่ประสบความสำเร็จ ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เพราะเป้าหมายที่อยากได้ คงไม่ใช่อะไรที่ง่ายดายเหมือนเล่นขายของ ยอมให้ท้อได้บ้าง แต่ของแท้ต้องไม่ยอมแพ้ หาทางแก้ใหม่ๆ ล้มได้ก็ลุกได้ ไหนๆ จะกัด ต้องกัดให้ติด มีชีวิตเหมือนแมว ตายแล้วเกิดใหม่ได้ 9 ครั้ง

อัตชีวประวัติของใครต่อใครที่ประสบความสำเร็จ อาจจะมีหนทางที่แตกต่าง หลากหลาย แต่จะมีสิ่งหนึ่งที่คล้ายกันมาก คือ เขาต่างสอบผ่านข้อสอบวิชา “ลุกหลังล้ม” มาแล้วทั้งสิ้น

6. ไม่ใจเสาะ คนกลุ่มนี้ใจเด็ด การที่ใครจะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ จะต้องอาศัยพลังใจที่มุ่งมั่น เด็ดเดี่ยว

Dr. Heidi เล่าว่า คนเรามิได้เกิดมาพร้อมใจที่เด็ด หรือ ไม่เด็ด แต่กลุ่มคนที่แกศึกษา ล้วนได้มาซึ่งความใจเด็ดจากการฝึก การหักห้ามใจ การมีวินัยในเรื่องเล็กๆ ในชีวิตก่อน แล้วจึงใช้ใจที่แข็งแกร่ง เป็นแรงภายใน ที่ใครไม่มี ยากที่จะประสบความสำเร็จในเรื่องสำคัญๆ

7. ไม่ประมาท คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ แม้คิดใหญ่ คิดไกล แต่ก็ไม่มุทะลุ หรือมั่นใจในตนเองจนมองไม่เห็นภัยหรืออุปสรรคที่อาจมากล้ำกราย

เขาคงเรียนรู้จากแมวคราว 9 ชีวิตเจ้าเก่าว่า 4 เท้ายังรู้พลาด จึงมีแผนสำรอง แผนฉุกเฉินไว้เตรียมรับมือกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น อย่างไม่ประมาท

8. ไม่หยุดอยู่กับที่ คนกลุ่มนี้รักที่จะก้าวไปข้างหน้า กล้าฝัน ไม่หยุดนิ่ง เขามองเห็นการพัฒนาตนเอง เป็นเสมือน “การเดินทาง” มิใช่ “จุดหมายปลายทาง”

ยิ่งในภาวะปัจจุบันที่โลกแปรผันตลอด การพัฒนาจึงเป็นการเดินทางที่มิได้เน้นจุดหมาย แต่เน้นการขยับขับเคลื่อนไปข้างหน้า อย่างไม่เคยยอมล้าหลัง

Dr. Heidi สรุปอย่างเป็นกำลังใจให้เราทุกคนว่า คนที่ประสบความสำเร็จที่เราเห็นโลดแล่นไปมา เขาประสบความสำเร็จได้ เป็นเพราะ What they do, not who they are สำเร็จเพราะเขาทำอะไร มิใช่สำเร็จเพราะเขาคือใคร

เราเป็นใคร จะยาก ดี มี จน ก็ประสบความสำเร็จได้

ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ