การรักษารอยแผลเป็นด้วยเลเซอร์ หรือ การใช้เลเซอร์ลบรอยแผลเป็น เริ่มได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน นั่นก็เพราะเราทุกคนไม่อยากให้มีรอยแผลเป็นนูนน่าเกลียดอยู่บนร่างกายของเรา
แต่อย่างไรก็ดี เมื่อเกิดบาดแผลแล้ว ถึงเราจะรักษาบาดแผลให้หายดี ยังไงก็ตาม ก็ยังคงเหลือร่องรอยแผลเป็น ทิ้งไว้บนร่างกาย ตัดกับผิวชัดเจน
สำหรับคนที่มีรอยแผลเป็นขนาดเล็ก ก็ไม่ค่อยเป็นไร แต่สำหรับคนที่มีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่นั้น รักษาอย่างไร รอยแผลเป็นก็ไม่จางลง
ทำให้เป็นที่หนักใจอย่างมาก โดยเฉพาะผู้หญิง ดังนั้น
รอยแผลเป็นเกิดจากอะไร
เกิดจาก การรักษาของกล้ามเนื้อ เพื่อทดแทนกล้ามเนื้อที่เสียหายก่อนหน้านั้น เมื่อเซลล์ของเราทำการรักษาแล้ว ผิวหนังในจุดนั้น ก็จะมีความแข็งสีดูเข้มกว่าปกติ
ซึ่งเกิดได้จากธรรมชาติของร่างกายของมนุษย์ เพื่อไม่ให้เกิดบาดแผลในจุดนั้นอีก ทำให้เกิดเป็นรอยแผลเป็นบนร่างกายของเรา
การทำเลเซอร์ลบรอยแผลเป็น ทำอย่างไร
แสงเลเซอร์ จะทำการปล่อยคลื่นแสงความถี่สูงขนาดเล็ก ไปยังจุดที่ต้องการรักษาลบรอยแผลเป็น
การทำเลเซอร์ลบรอยแผลเป็น จะเป็นการรักษาลบรอยแผลเป็นโดยเฉพาะ ทำให้รักษาได้อย่างรวดเร็ว แต่การรักษาจะทำให้รอยแผลเป็นค่อยๆจางลง ไม่ใช้ทำแล้วรอยแผลเป็นหายเลย
ดังนั้น อาจต้องเข้ารับการรักษาอีกหลายครั้ง ประมาณ 2-3 เดือนต่อครั้ง เพื่อให้รอยแผลเป็นค่อยๆ จางลง และผิวหนังได้ฟื้นตัวจากแสงเลเซอร์
ก่อนการทำเลเซอร์ลบรอยแผลเป็น
- ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ส่วนของใบหน้าจะสามารถฟื้นตัวได้ไวกว่าส่วนอื่นๆ บนร่างกาย ทำให้ใช้เวลาในการฟื้นตัวเร็วกว่า
- เลเซอร์ลบรอยแผลเป็น จะช่วยลดรอยแผลเป็นแค่ระดับ น้อย ถึง กลางเท่านั้น ถ้าเป็นรอยแผลเป็นในระดับมาก อาจต้องใช้วิธีอื่นในการรักษา เช่น ผ่าตัดลบรอยแผลเป็น
- ศึกษาหาคลินิคหรือโรงพยาบาลที่ได้มาตราฐาน แพทย์มีความชำนาญในการรักษาอย่างมาก
- อาจสอบถามจากคนรู้จักที่เคยเข้ารับการรักษา หรือ หาอ่านจากรีวิวบนเวปไซต์ที่ได้รับความนิยม และไม่มีข่าวเสียหาย เพื่อความปลอดภัยของเราในการรักษา
- ควรปรึกษาแพทย์ว่า เราต้องรักษารอยแผลเป็นอย่างไรจะดีที่สุด ถ้าแพทย์ให้คำแนะนำอย่างถูกต้อง ไม่พยายามบอกข้อมูลผิดๆเพื่อให้เราเข้ารับการรักษา สามารถวางใจรักษากับแพทย์คนนี้ได้
- เมื่อตกลงเข้ารับ การทำเลเซอร์ลบรอยแผลเป็น แพทย์จะทำการตรวจร่างกาย ก่อนเพื่อดูความพร้อมของเรา
ขั้นตอนการทำเลเซอร์ลบรอยแผลเป็น
- แพทย์จะทำความสะอาด จุดที่เราจะลบรอยแผลเป็น ให้สะอาดที่สุด
- แพทย์จะฉีดยาชา ในจุดข้างเคียง รอยาชาออกฤทธิ์ประมาณ 20-30 นาที
- เมื่อยาชาออกฤทธิ์ แพทย์จะทำการทาเครือบผิวในจุดนั้นด้วยเจลเย็น เพื่อลดความร้อนของแสงเลเซอล์ และช่วยให้แสงเลเซลล์ไม่กระจายตัว ทำให้ง่ายแก่การกำหนดจุด ในการลบรอยแผลเป็น
- แพทย์จะทำการยิงเลเซอร์ลบรอยแผลเป็น เข้าสู่รอยแผลเป็นที่ต้องการลบระยะเวลาในการรักษา แล้วแต่ขนาดของรอยแผลเป็น และความชำนาญของแพทย์ ระยะเวลาประมาณ 20-40 นาที
- หลังการรักษาแพทย์จะรอดูอาการประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อไม่มีความผิดปกติ สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ
หลังการทำเลเซอร์ลบรอยแผลเป็น
- หลังการยิงเลเซอร์ วันแรกควรประคบเย็นรอบๆจุดที่ยิงเลเซอร์ห้ามกระทบถูกโดยตรง
- หลังการยิงเลเซอร์ 3-4 วันควรหลีกเลี่ยงการกระทบถูกจุดที่ยิงเลเซอร์ลบรอยแผลเป็น
- รอยแผลเป็นจะจางลงประมาณ 15-20 วัน และจะกลับเป็นธรรมชาติประมาณ 1-2 เดือน
- สำหรับคนที่มีรอยแผลเป็นที่ลึกมาก ทำให้ไม่สามารถรักษาให้หายในครั้งแรก ต้องเข้ารับการยิงเลเซอร์ลบรอยแผลเป็น อีกหลายครั้ง แต่จุดที่ยิงเลเซอร์ ต้องฟื้นตัวแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงมากนัก ประมาณ 2-3 เดือน
ข้อเสียของเลเซอร์ลบรอยแผลเป็น
- ถ้ายิงเลเซลล์รักษาผิวหน้า ผิวหน้าจะไวต่อแดด ผิวหน้าจะบางแพ้ง่าย
- ผิวหน้าแห้งง่ายขึ้น อาจลอกเป็นขุย
- เสียค่าใช้จ่ายเยอะมากในการรักษา สำหรับคนที่มีแผลเป็นลึก ต้องเข้ารับการยิงเลเซอร์ลบรอยแผลเป็นอีกหลายครั้ง จนกว่ารอยแผลเป็นจะหมดลง
- ถ้ายิงเลเซลล์รักษาร่างกายส่วนอื่น เวลาในการรักษาจะมากกว่า การรักษาส่วนใบหน้า ทำให้ต้องเสียค่ารักษามากกว่า การรักษารอยแผลเป็นบนใบหน้า
เมื่อเกิดรอยแผลเป็นแล้ว เป็นการยากมากที่จะลบรอยแผลเป็นด้วยวิธีปกติให้หายได้ ทำให้รอยแผลเป็นเป็นปัญหาหนักใจของใครหลายๆ คน
การศัลยกรรมลบรอยแผลเป็น ด้วยวิธีต่างๆ จึงเป็นทางเลือกที่จะลบรอยแผลเป็นให้หายไปจากร่างกายของเรา แต่ต้องเข้าใจก่อนว่า การศัลยกรรมทุกอย่างมีความเสี่ยง
จึงอยากจะแนะนำ การทำ เลเซอร์ลบรอยแผลเป็น ที่ถือว่าเป็นศัลยกรรมลบรอยแผลเป็นที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด
แต่เลเซอร์ลบรอยแผลเป็น จะลบได้ในระดับ น้อย ถึง กลาง เท่านั้น ก่อนเกิดรอยแผลเป็นควรดูแลรักษาร่างกายตนเองให้ดีที่สุด
ก่อนที่จะเกิดรอยแผลเป็น จะดีที่สุด เพราะร่างกายเป็นของเราเราควรรักษาดูแลให้ดีที่สุด