โรคริดสีดวงจมูก เนื้องอกในจมูก ติ่งเนื้อเมือกในจมูก เป็นโรคที่กำลังกวนใจคนจำนวนมากในปัจจุบัน
แม้ว่าจะไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต (หากไม่มีการติดเชื้อที่ทำให้ระบบอวัยวะภายในล้มเหลว) แต่ก็สามารถเกิดขึ้นซ้ำได้
ซึ่งบางครั้งอาจถึงขั้นต้องทำการผ่าตัด ที่อาจมีผลข้างเคียงต่างๆ ตามมา รวมทั้งต้องมีการรักษาความสะอาดเป็นพิเศษอีกด้วย
เราจึงได้รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับ ริดสีดวงจมูก มาให้ทำความรู้จักกันมากขึ้น เพื่อจะได้ป้องกันไม่ให้เป็นโรคนี้ และถ้าหากมีอาการเบื้องต้น จะได้รักษาได้อย่างทันท่วงที
โรคริดสีดวงจมูก เนื้องอกในจมูก คืออะไร ?
โรคริดสีดวงจมูก เนื้องอกในจมูก (Nasal Polyp) เป็นโรคเกี่ยวกับจมูก ที่มีก้อนเนื้อเจริญเติบโตผิดปกติ (แต่ไม่พบความเสี่ยง ที่จะกลายเป็นโรคมะเร็งในภายหลัง)
ภายในจมูก หรือโพรงไซนัส อาจจะมีก้อนเดียว หรือมีหลายก้อนก็ได้ เมื่อสัมผัสจะพบว่า
มีลักษณะคล้ายกับเมล็ดองุ่น ไม่สามารถกำจัดออกได้เอง ถ้าหากก้อนเนื้อมีขนาดใหญ่ ก็จะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกหายใจไม่ออก
หรือหายใจลำบาก ในบางครั้งอาจมีปัญหาเรื่องของการสูญเสียความสามารถในการรับกลิ่นอีกด้วย
และถ้าไม่ไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อ ที่เป็นสาเหตุของโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ
ซึ่งมีความอันตรายมากกว่าโรคริดสีดวงจมูกทั่วไป นอกจากนี้โรคริดสีดวงจมูก เนื้องอกในจมูก ติ่งเนื้อเมือกในจมูกนี้
สามารถพบได้กับผู้ป่วยทุกเพศ ทุกวัย แต่มักจะพบได้บ่อยในผู้ที่เป็นโรคหอบหืด ไซนัสอักเสบ และโรคภูมิแพ้ที่มีอาการ
น้ำมูกไหลตลอด นอกจากนี้ยังพบได้ในเพศชายมากกว่าเพศหญิง และมักจะไม่ค่อยพบในเด็กมากนัก
สาเหตุของโรคริดสีดวงจมูก เนื้องอกในจมูก
ถึงแม้ว่า สาเหตุของโรคริดสีดวงจมูก เนื้องอกในจมูก จะเกิดมาจากการติดเชื้อภายในโพรงจมูก แต่ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า
เชื้อโรคนั้น ๆ คือเชื้อโรคอะไร แต่คาดว่าอาจจะเกิดจากปัจจัยเหล่านี้ร่วมกัน คือ
- การเป็นโรคสืบทอดทางพันธุกรรม – เช่น บุคคลในครอบครัวเคยมีความผิดปกติเกี่ยวกับเยื่อเมือกต่าง ๆ ในร่างกาย (Cystic Fibrosis) จนทำให้เยื่อในอวัยวะต่าง ๆ มีความเหนียวข้นมากกว่าปกติ
- การแพ้ยาตระกูลแอสไพริน
- เป็นโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและระบบหลอดเลือด
- การเป็นโรคไซนัสอักเสบ
- การเป็นโรคหอบหืด
- สิ่งแวดล้อมต่างๆ ภายในบ้าน เช่น การใช้เตาถ่าน หรือเตาฟืนในการประกอบอาหาร เป็นต้น
เหตุที่ยังไม่สามารถระบุเชื้อโรคได้นั้น เนื่องจากมีการพบผู้ป่วยโรคนี้ โดยที่ไม่เคยมีปัญหาการติดเชื้อใด ๆ เกี่ยวกับจมูก และระบบทางเดินหายใจส่วนบนมาก่อน จึงเป็นที่มาของการพบผู้ป่วยได้ทุกเพศทุกวัยดังที่กล่าวมานั่นเอง
อาการของโรคริดสีดวงจมูก เนื้องอกในจมูก
โดยทั่ว ๆ ไปแล้ว อาการของโรคริดสีดวงจมูก เนื้องอกในจมูก จะมีดังต่อไปนี้
- มีติ่งเนื้อขึ้นภายในโพรงจมูก มีลักษณะคล้ายเมล็ดองุ่น หรือรูปทรงหยดน้ำ เมื่อสัมผัสจะรู้สึกถึงความอ่อนนิ่ม ไม่แข็ง มีสีขาวซีด ๆ ขุ่น ๆ คล้ายเมือก แต่สามารถเจริญเติบโตใหญ่ขึ้นอีกได้
- มีน้ำมูกไหล และรู้สึกคัดจมูกตลอดเวลา
หากก้อนเนื้อมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ก็จะพบอาการที่รุนแรงมากขึ้น คือ
- การหายใจลำบาก หายใจไม่ค่อยออก
- สูญเสียความสามารถในการรับกลิ่น
- มีอาการปวดบวมบริเวณใบหน้า
- มีอาการกรนเสียงดัง บางครั้งอาจหยุดหายใจเมื่อหลับสนิทได้
- ถ้าหากเป็นร่วมกับโรคไซนัสอักเสบ จะพบว่ามีไข้ เจ็บคอ และลมหายใจมีกลิ่นเหม็น
- ถ้าหากมีอาการรุนแรงมากขึ้น อาจถึงขั้นลืมตาไม่ขึ้น มองเห็นไม่ชัดเจน หายใจไม่ออก ไม่สามารถขยับศีรษะได้ ต้องรีบเดินทางไปพบแพทย์ในทันที
วิธีรักษาโรคริดสีดวงจมูก เนื้องอกในจมูก
โดยทั่วไปแล้ว โรคนี้สามารถรักษาได้ 2 วิธี คือการให้ยาเพื่อระงับอาการ และการผ่าตัดเพื่อเอาก้อนเนื้อออก ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
การรักษาโดยการให้ยา แบ่งออกเป็น 3 วิธีตามอาการ คือ
- การให้ยาพ่นจมูก – ยาในส่วนนี้จะเป็นสเตียรอยด์ เพื่อลดการอักเสบ และลดขนาดของติ่งเนื้อ ในกรณีที่ยังเป็นก้อนเนื้อเล็ก ๆ อยู่ ค่อนข้างได้ผลดีและปลอดภัย เพราะถ้าหากรักษาตามคำแนะนำแพทย์อย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ริดสีดวงฝ่อลงได้
- การให้ยาทาน – เป็นสเตียรอยด์อีกเช่นกัน ซึ่งจะใช้ควบคู่กันไปกับยาพ่นจมูก แต่ยาทานจะใช้รักษาในเวลาไม่นาน เพียงแค่ 3-10 วันเท่านั้น เพราะอาจมีผลข้างเคียงที่รุนแรงตามมา
- การให้ยาทานประเภทอื่น ๆ ที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ – เพื่อควบคุมอาการต่าง ๆ เพิ่มเติม เช่น ยาแอสไพริน หรือยาปฏิชีวนะทั่วไป
การรักษาด้วยการผ่าตัด แบ่งออกเป็น 2 วิธี คือ
- การผ่าตัดรูปแบบธรรมดา – แพทย์จะใช้ลวดคล้องติ่งเนื้อริดสีดวงเพื่อดึงออกมา ซึ่งเป็นวิธีการง่าย ๆ ในการรักษา แต่ไม่ได้ผลดีมากนัก เพราะมีโอกาสเกิดขึ้นซ้ำค่อนข้างสูง
- การผ่าตัดด้วยการส่องกล้องเอ็นโดสโคป – แพทย์จะใช้กล้องส่องเข้าไปเพื่อหาตำแหน่งของก้อนเนื้อ เพื่อผ่าตัดเอาก้อนเนื้อนี้ออกแบบถอนรากถอนโคน ไม่เว้นแม้กระทั่งในโพรงไซนัสที่อยู่ลึกเข้าไป ถึงแม้จะได้ผลในการรักษาสูงถึง 80% แต่ก็ต้องอาศับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการผ่าตัดพอสมควร เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงตามา อย่างเช่น การติดเชื้อ หรือการมีเลือดกำเดาไหล ทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อนได้ และเมื่อทำการผ่าตัดด้วยวิธีนี้แล้ว ผู้ป่วยจะต้องดูแลตัวเองมากยิ่งขึ้น และจะต้องทำความสะอาดจมูกอยู่เสมอจนกว่าแผลจะหายสนิทดี
วิธีป้องกันโรคริดสีดวงจมูก เนื้องอกในจมูก
เพราะยังไม่ทราบถึงปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อการเกิดโรคอย่างชัดเจน การป้องกันจึงเป็นแนวทางรวม ๆ ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการระคายเคือง หรือมลภาวะตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อไม่ให้เกิดโรคภูมิแพ้ หรือไซนัสอักเสบ
- หากเป็นโรคภูมิแพ้เรื้อรัง หรือโรคหอบหืดควรดูแลตัวเอง และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างต่อเนื่อง
- เมื่อเป็นหวัด มีน้ำมูกไหล หรือหายใจไม่ออก ควรล้างจมูกด้วยน้ำเกลือเพื่อฆ่าเชื้อโรคและลดการระคายเคือง
- พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายเป็นประจำ รวมทั้งทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับร่างกาย
Credit : unica.ro
โรคริดสีดวงจมูก เนื้องอกในจมูก ติ่งเนื้อเมือกในจมูก อาจเป็นโรคที่ดูไม่น่ากลัว เพราะไม่มีความอันตรายถึงแก่ชีวิต
แต่ก็มีการรักษาที่ยาก และมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ซึ่งก็สามารถสร้างปัญหาได้พอสมควร เพราะฉะนั้นจึงควรหมั่นสังเกต
ความผิดปกติของตัวเองอยู่เสมอ และรีบไปพบแพทย์ทันที เมื่อรู้สึกว่า ภายในจมูกมีก้อนเนื้ออะไรผิดปกติ เพื่อจะได้ทำการรักษาให้หายขาดตั้งแต่เริ่มต้น