ฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรรู้อะไรบ้าง

ฟิลเลอร์ใต้ตา 

ฟิลเลอร์ใต้ตา

ปัญหาใต้ตา ทั้งริ้วรอย ร่องน้ำตา ใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ ฯลฯ เป็นปัญหาที่พบได้ในเกือบจะทุกคน ยิ่งอายุมากขึ้น ปัญหาเหล่านี้ก็ยิ่งชัดเจนขึ้น ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อย โทรม แก่กว่าวัย ซึ่งวิธีรักษาปัญหาใต้ตาก็มีหลายวิธี ทั้งการทาครีม การดูแลตัวเองแบบต่าง ๆ แต่ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่เป็นวิธีรักษาปัญหาใต้ตาที่เห็นผลชัดเจนและตรงจุดที่สุด

ฟิลเลอร์ใต้ตา ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม ?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือการเติมเต็มบริเวณใต้ตาที่มีริ้วรอย เป็นร่องน้ำตา หรือมีความหย่อนคล้อย ด้วยสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิค แอซิด Hyaluronic Acid ซึ่งเป็นสารที่ถูกผลิตขึ้นมาเลียนแบบ Hyaluronic Acid ที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ ช่วยทดแทนส่วนที่เสื่อมสลายไปเมื่ออายุมากขึ้น จึงเป็นสารเติมเต็มที่มีความปลอดภัย ได้รับการรับรองจาก FDA และมีการใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก

 

ซึ่งหากพูดถึงสารเติมเต็ม (Filler) ในต่างประเทศก็มีหลายประเภท ไม่ใช้แค่ Hyaluronic Acid เท่านั้น ยังมีการใช้คอลลาเจนจากสัตว์ การเติมไขมัน หรือการใช้ซิลิโคนเหลวประเภทต่าง ๆ แต่ในไทยการเรียก Filler จะหมายถึง Hyaluronic Acid ที่สามารถสลายได้ และผ่านอย.เท่านั้น ปัจจุบันอย.ยังไม่รับรองสารเติมเต็มที่ฉีดแล้วไม่สลายหรืออยู่ได้ถาวร เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการแพ้ ผลข้างเคียง หรืออันตรายอื่น ๆ ตามมา

 

ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาด้วย Hyaluronic Acid จึงเป็นหัตถการที่ปลอดภัย สามารถสลายได้หมด ไม่มีสารตกค้าง แต่ทั้งนี้ก็ต้องเลือกฉีดในคลินิกที่ได้มาตรฐาน ตรวจสอบได้ว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ และฉีดใต้ตากับแพทย์ที่มีประสบการณ์

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ทำให้ตาบอดจริงหรือ ?

ใต้ตาเป็นจุดที่หลายคนกังวลเวลาที่จะทำหัตถการใด ๆ เพราะอยู่ใกล้ลูกตามาก กลัวว่าหากผิดพลาดแล้วอาจทำให้เกิดอันตรายร้ายแรง ถ้าถามว่าการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ทำให้ตาบอดได้จริงมั้ย? ก็ต้องตอบว่าจริง เพียงแต่การที่จะเกิดกรณีแบบนี้ได้ถือว่ายากมาก แทบจะไม่เกิดขึ้นเลย เพราะอะไร อธิบายได้ดังนี้

 

การที่ฉีดฟิลเลอร์แล้วทำให้ตาบอด เกิดจากการฉีดเนื้อฟิลเลอร์ (มีลักษณะเป็นเนื้อเจลใส ๆ) เข้าไปโดนหลอดเลือดแดง ทำให้มีฟิลเลอร์หลุดเข้าไปภายในเส้นเลือดนั้น และเกิดการอุดตัน ทำให้เลือดไม่สามารถไปหล่อเลี้ยงเซลล์ หากไม้รีบแก้ไขก็จะเกิดภาวะเนื้อตายได้

 

และที่บอกว่าหากฉีดฟิลเลอร์แท้แล้วมีความปลอดภัย เนื่องจาก Hyaluronic Acid สามารถฉีดสลายได้ โดยใช้เอมไซน์ Hyaluronidase แปลว่าหากมีอุบัติเหตุระหว่างฉีด โดนเส้นเลือด หรือมีการอุดตัน แพทย์สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ทันที รักษาให้เนื้อกลับคืนมาได้ 100% กรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วตาบอด หรือมีอันตรายร้ายแรงในปัจจุบันจึงแทบไม่มีให้เห็นแล้ว มั่นใจได้ว่าเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง

ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นก้อนเกิดจากอะไร? แก้ไขได้ไหม ?

ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นก้อน

นอกจากเรื่องความปลอดภัยในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้ว ความสวยงามหรือผลลัพธ์หลังฉีดก็เป็นสิ่งที่หลายคนกังวล ต้องบอกก่อนว่าใต้ตาเป็นจุดที่ผิวค่อนข้างบางกว่าจุดอื่น หากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ ไม่รู้จักเนื้อฟิลเลอร์แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ ก็อาจทำให้ผลลัพธ์การฉีดใต้ตาไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง 

 

เช่น ใช้ฟิลเลอร์เนื้อแข็งฉีดในผิวชั้นตื้น ใช้ฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับจุดที่ฉีด เมื่อฉีดไปแล้วก็อาจทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อนได้ จากที่หวังจะรักษาให้ดีขึ้น กลับกลายเป็นต้องมาฉีดแก้ไขในจุดที่เป็นก้อน คนไข้ก็จะรู้สึกเสียความมั่นใจ เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา

 

ดังนั้นประสบการณ์ของแพทย์จึงเป็นสิ่งสำคัญ ควรดูรีวิวและประวัติของแพทย์คนที่เราจะไปฉีดเยอะ ๆ แล้วค่อยตัดสินใจ ส่วนใครที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาแล้วเป็นก้อน สามารถแก้ไขด้วยการใช้ เอมไซน์ Hyaluronidase ฉีดสลายฟิลเลอร์แล้วฉีดใหม่ได้ โดยไม่เป็นอันตราย

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใคร ?

ฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะกับคนที่ต้องการแก้ปัญหาใต้ตาโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่อยากมีแผล ไม่อยากพักฟื้น เช่น ริ้วรอยใต้ตา หย่อนคล้อย ถุงใต้ตา ขอบตาดำ ตาลึก ตาโหล หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

Hyaluronic Acid

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาก็ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษ อาจงดวิตามิน งดยา แอสไพริน NSAIDs งดยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว งดการแว็ก หลังจากปรึกษาหมอและตรวจประเมินแล้วก็สามารถทำหัตถการได้เลย 

ฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้กี่ cc ถึงเห็นผล ?

ฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้กี่ cc ถึงเห็นผล? ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้แต่ละคน หากมีร่องลึกมาก หรือมีปัญหาเยอะ ๆ ก็อาจต้องใช้ฟิลเลอร์หลาย cc เพื่อเติมส่วนที่ยุบหรือเป็นร่องให้เต็มขึ้น แต่โดยส่วนใหญ่จะใช้ข้างละ 1-2 cc ก็เห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนแล้ว

ฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้กี่ cc

ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ไม่จำเป็นต้องใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อเดียว รุ่นเดียว เพื่อฉีดเติมทั้งหมด เพราะใต้ตาแบ่งเป็นปัญหาในหลายชั้นผิว บางคนอาจต้องใช้ฟิลเลอร์เนื้อแข็งฉีดชิดกระดูกในชั้นลึก และใช้ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มฉีดเก็บรายละเอียดผิวชั้นบน ซึ่งการจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม เป็นธรรมชาติ ขึ้นอยู่กับเทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์แต่ละคน ว่ามีความละเอียด พิถีพิถันมากแค่ไหน

ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ?

ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี

ฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการฉีดใต้ตา ควรเป็นฟิลเลอร์เนื้อที่ฉีดแล้วไม่ฟูมาก เนื้อละเอียด หลังฉีดจะเรียบเนียนไปกับผิวอย่างเป็นธรรมชาติ รุ่นที่แนะนำได้แก่

  • ฟิลเลอร์ใต้ตา Restylane Perlane Lyft สวีเดน อยู่ได้ 12 เดือน
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา Restylane Defyne สวีเดน อยู่ได้ 18 เดือน
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา Restylane Vital light สวีเดน อยู่ได้ 6 -12 เดือน
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา Restylane Classic สวีเดน อยู่ได้ 12 เดือน
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา Restylane Vital สวีเดน อยู่ได้ 12 เดือน
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา Juvederm Volite อเมริกา อยู่ได้ 8-12 เดือน
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา Juvederm Voluma อเมริกา อยู่ได้ 18 เดือน
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา Juvederm Volux อเมริกา อยู่ได้ 18-24 เดือน
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา Belotero Volume สวิตเซอร์แลนด์ อยู่ได้ 18 เดือน
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา Belotero soft สวิตเซอร์แลนด์ อยู่ได้  6-12  เดือน

ฟิลเลอร์แต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ มีความแตกต่างกันไปตามคุณสมบัติ เนื้อ ความคงตัว การอุ้มน้ำ ซึ่งแพทย์จะประเมินสภาพผิวและปัญหาของแต่ละเคส เพื่อเลือกฟิลเลอร์รุ่นที่เหมาะสมที่สุด 

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บวมกี่วัน ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อาจมีอาการบวมได้หลังฉีด เนื่องจากบวมเข็มและเนื้อฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่เต็ม 100% แต่จะหายไปเองใน 2-3 วัน สามารถใช้ชีวิตประจำวัน แต่งหน้า ล้างหน้า ได้ตามปกติ โดยหลีกเลี่ยงการกด เกา บีบ นวด ในจุดที่เพิ่งฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามา ฟิลเลอร์ใต้ตาจะยุบบวม และเข้าที่ใน 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นคลินิกจะมีการนัดติดตามผลหลังฉีด

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน ?

ฟิลเลอร์ใต้ตา อยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับรุ่นฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ โดยปกติจะอยู่ได้นานประมาณ 6 – 18 เดือน นอกจากนี้การดูแลตัวเองก็เป็นอีกปัจจัยที่จะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น เช่น ดื่มน้ำมาก ๆ เพราะฟิลเลอร์เป็นสารอุ้มน้ำ ควรลดการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และปัจจัยอื่น ๆ ที่เป็นการทำร้ายผิว

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ?

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี

  1. เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข มีความน่าเชื่อถือ
  2. แพทยท์ผู้ทำการฉีดเป็นแพทย์ที่มีมีประสบการณ์ มีความชำนาญในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
  3. ใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น โดยควรให้แพทย์แกะกล่องใหม่ให้ดูต่อหน้า ตรวจสอบเลข lot กับบริษัทนำเข้าได้
  4. มีรีวิวจากแหล่งที่เป็นกลาง คลินิกไม่สามารถลบหรือแก้ไขได้ เช่น Facebook Fanpage, Pantip

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรเลือกจากความปลอดภัยเป็นสำคัญ ไม่ควรดูจากราคาถูก ๆ เป็นหลัก เพราะอาจเจอคลินิกเถื่อน หมอปลอม ฟิลเลอร์ปลอม ฉีดแล้วเกิดอันตรายตามมาได้