- เลือกฉีดฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี ? ปลอดภัย คุ้มค่า ใบหน้าสวยสมใจ
- เลือกฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? Filler คาง แก้มตอบ ปาก มุมปาก ร่องแก้ม ใต้ตา ต้องเลือกรุ่นให้เหมาะสมอย่างไร
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ? เติมใต้ตาเต็มสวย ช่วยลดริ้วรอย ดูเป็นธรรมชาติ
- เลือกฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อไหนดี ? ที่จะเหมาะกับคนที่มีริ้วรอย หรือร่องแก้มลึก
- เลือกฉีดฟิลเลอร์มุมปาก รุ่นไหนดี ? ช่วยลดริ้วรอย/ร่องลึกบริเวณมุมปากได้อย่างเห็นผล
- เลือกฉีดฟิลเลอร์คาง ยี่ห้อไหนดี ? ให้คางยาวขึ้น ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวย
- เลือกฉีดฟิลเลอร์จมูก ยี่ห้อไหนดี ?
- อยากฉีดปากให้อิ่มสวย หรือปรับรูปทรงปากกระจับ ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี ?
- เลือกฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ยี่ห้อไหนดี ?
เลือกฉีดฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี ? ปลอดภัย คุ้มค่า ใบหน้าสวยสมใจ
ฉีดฟิลเลอร์ มีคนนิยมทำกันมากในทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเติมริมฝีปาก ร่องแก้ม คาง หน้าผาก จมูก ใต้ตา เพื่อลดริ้วรอย ปรับแต่งรูปหน้าให้เข้ารูป ดูสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม และไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นนานหลังทำอีกด้วย
แต่ก็มิใช่ว่าจะฉีดฟิลเลอร์รุ่นไหนหรือยี่ห้ออะไรก็ได้ เราต้องเข้าไปให้คุณหมอตรวจใบหน้าก่อนเพื่อประเมินถึงปัญหาที่ควรแก้ไข แล้วจึงเลือกฟิลเลอร์รุ่น/ยี่ห้อที่เหมาะสมกับจุดที่จะฉีดมากที่สุดค่ะ
นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ในคลินิกบางแห่งก็มิได้มีครบครันให้แพทย์เลือกใช้ทุกยี่ห้อหรือทุกรุ่น เราเองก็ควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจในเบื้องต้นไว้ก่อนล่วงหน้า จะได้มั่นใจในการตัดสินใจเลือกฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ที่จะเหมาะกับบริเวณที่เราต้องการฉีด
ฟิลเลอร์แต่ละรุ่นเหมาะกับการใช้ฉีดในจุดต่างๆของใบหน้าไม่เหมือนกัน
เลือกฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? Filler คาง แก้มตอบ ปาก มุมปาก ร่องแก้ม ใต้ตา ต้องเลือกรุ่นให้เหมาะสมอย่างไร
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ? เติมใต้ตาเต็มสวย ช่วยลดริ้วรอย ดูเป็นธรรมชาติ
วัยที่เพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไปจะเริ่มเห็นถึงความไม่สดชื่น ริ้วรอยแห่งวัยค่อย ๆ เพิ่มขึ้นจากบริเวณที่เนื้อรวมถึงกระดูกมีการยุบตัวลงเป็นส่วนแรก เกิดเป็นร่องใต้ตาที่ชัดเจนขึ้น อีกทั้งอาจมีถุงใต้ตาเกิดขึ้นตามมาได้อีกด้วยหากทิ้งไว้โดยมิได้หาทางรักษา
ฟิลเลอร์ประเภทที่ 1.) ในเคสที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อไปช่วยทดแทนกระดูกซึ่งอยู่ในผิวชั้นลึกที่เกิดการยุบตัวลง แพทย์จะแนะนำให้เลือกใช้ตัวใดตัวหนึ่งในบรรดา 3 ยี่ห้อของฟิลเลอร์ ดังต่อไปนี้
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane รุ่น perlane lyft หลังฉีดสามารถอยู่ได้นาน 1 ปี
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm รุ่น voluma หลังฉีดสามารถอยู่ได้นาน 1 ปีครึ่
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero รุ่น volume หลังฉีดสามารถอยู่ได้นาน 1 ปีครึ่ง
ถัดไปคือฟิลเลอร์ประเภทที่ 2.) เหมาะสำหรับผู้ที่ผิวบาง, ผิวแห้งมาก ถึงแม้ว่าผลลัพธ์จะอยู่ได้สั้นเมื่อเทียบกับฟิลเลอร์รุ่นอื่น แต่ข้อดีคือหลังฉีดจะไม่เกิดเป็นก้อน (ส่วนฟิลเลอร์ประเภทที่ 1 ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานกว่า โดยจะเหมาะกับผู้ที่มีผิวชุ่มชื้น)
ตัวอย่างรีวิวผลการรักษาฟิลเลอร์ใต้ตา
เลือกฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อไหนดี ? ที่จะเหมาะกับคนที่มีริ้วรอย หรือร่องแก้มลึก
ในคนที่มีปัญหาร่องแก้มลึกอันเกิดจากกระดูกและเนื้อแถว ๆ ใต้ตายุบตัวลง จนทำให้เกิดการหย่อนตัวลงของเนื้อแก้มและเกิดเป็นร่องแก้มให้เห็นได้ชัด เคสนี้หากแพทย์ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเพียงอย่างเดียวผลที่ได้จะไม่ค่อยสวย ร่องแก้มเต็มแต่หน้ากลับดูอูม ไม่เป็นธรรมชาติ แนะนำว่าเพื่อความเป็นธรรมชาติควรฉีดเติมใต้ตา จะช่วยดึงให้เนื้อบางส่วนขึ้นไปด้านบนก่อน เมื่อฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มก็จะใช้ปริมาณที่ไม่เยอะแล้วค่ะ
สำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มลึกอันเกิดจากกระดูกบริเวณใต้ปีกจมูกเกิดการยุบตัว แนะนำการฉีด filler ลึกในชั้นติดกระดูก (ช่วยทดแทนกระดูกที่ยุบตัวลง) โดยเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่สามารถทนต่อการขยับเขยื้อนบริเวณร่องแก้ม มีค่าความยืดหยุ่นสูง ประกอบไปด้วย 3 รุ่นที่เหมาะสม ก็คือ
- ฟิลเลอร์ Juvederm Ultra Plus (สามารถคงอยู่ได้นาน 1 ปี)
- ฟิลเลอร์ Juvederm voluma (สามารถคงอยู่ได้นาน 1 ปีครึ่ง)
- ฟิลเลอร์ Belotero intense (สามารถคงอยู่ได้นาน 1 ปีครึ่ง)
สำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยร่องแก้มอันเกิดจากกล้ามเนื้อที่ดึงบริเวณร่องแก้มทำงานมาก ถ้าได้รับการรักษาโดยการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มดังที่กล่าวไว้ในข้อ 1 & 2 ไปแล้ว พบว่าช่วยลดการดึงกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ในคนไข้บางรายที่คิดว่ายังอยากให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นไปอีกก็เสริมด้วยการฉีดโบท็อก Dermolift ได้ในทุก 3-4 1เดือนค่ะ
แต่ถ้าใครที่มีร่องแก้มจากการที่ผิวบางและแห้งมากตรงผิวชั้นบนแถว ๆ ร่องแก้ม แนะนำให้เลือกใช้ฟิลเลอร์ 2 รุ่นดังต่อไปนี้ เพื่อช่วยเติมร่องแก้มบริเวณผิวหนังชั้นตื้น จะไม่เกิดเป็นก้อนหลังทำ ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติดูเนียนเรียบกลืนไปกับผิวหนัง จากการที่ตัวยากระจายตัวได้ดี
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm volift (คงอยู่ได้นาน 1 ปี)
- หรือยี่ห้อ Restylane volyme (คงอยู่ได้นาน 1 ปีครึ่ง)
ตัวอย่างรีวิวผลการรักษาฟิลเลอร์ร่องแก้ม
เลือกฉีดฟิลเลอร์มุมปาก รุ่นไหนดี ? ช่วยลดริ้วรอย/ร่องลึกบริเวณมุมปากได้อย่างเห็นผล
คนไข้บางรายที่ร้อยไหมดึงแก้มเพื่อลดปัญหาแก้มหย่อนมากไปแล้ว แต่ร่องมุมปากก็ยังคงอยู่ให้เห็นค่อนข้างชัด การฉีดฟิลเลอร์ร่องมุมปากจะช่วยเสริมการรักษาให้เห็นผลดียิ่งขึ้นได้ ด้วยเทคนิคการเติมฟิลเลอร์คล้ายการฉีดลดร่องแก้มในแบบที่ 4.) ซึ่งแนะนำฟิลเลอร์ 2 รุ่นที่ให้ความเป็นธรรมชาติมาก ไม่เกิดเป็นก้อน เพราะตัวยาเนียนเรียบไปกับผิวหนังและยากระจายตัวได้เป็นอย่างดี ได้แก่
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm volift (12 เดือน)
- หรือ ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane volyme (18 เดือน)
ตัวอย่างรีวิวผลการรักษาฟิลเลอร่องมุมปาก 1 cc
เลือกฉีดฟิลเลอร์คาง ยี่ห้อไหนดี ? ให้คางยาวขึ้น ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวย
- Restylane perlane lyft
- Perfactha subskin
- Juvederm voluma
- Belotero Volume
ฟิลเลอร์ทั้ง 4 ยี่ห้อด้านบนนี้ คือตัวที่เหมาะกับการฉีดเติมคางให้ใบหน้าเรียวขึ้นและคางแลดูยาวขึ้น ให้ความเป็นธรรมชาติ ปั้นทรงออกมาได้รูปทรงที่ดูสวยงาม ไม่เป็นก้อนขณะยิ้ม ใช้เทคนิคการฉีดเข้าที่ชั้นใต้กล้ามเนื้อ mentalis เท่านั้นค่ะ
ผลลัพธ์ที่ได้หลังฉีดฟิลเลอร์คาง เพื่อใบหน้าเรียวสวยขึ้น
เลือกฉีดฟิลเลอร์จมูก ยี่ห้อไหนดี ?
ถ้าเลือกใช้ฟิลเลอร์รุ่นอื่น ๆ หรือยี่ห้ออื่น แม้อาจดูสวยในระยะแรก ๆ หลังทำ แต่จมูกจะบานออกและสันจมูกมีความคมชัดลดน้อยลงเมื่อเวลาผ่านไปสักช่วงหนึ่ง ดังนั้นรุ่นเดียวที่เหมาะสมสำหรับฉีดในตำแหน่งจมูกก็คือ ฟิลเลอร์ Restylane perlane lyft เท่านั้นค่ะ ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณจมูกเป็นตำแหน่งที่คุณหมอจำเป็นต้องใช้ความละเอียดในการฉีดเป็นอย่างมาก filler ที่เลือกใช้เติมจมูกต้องมีคุณสมบัติไม่อุ้มน้ำ ไม่ฟูจึงต้องเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีค่าความแข็ง (หรือ Elasticity) สูงที่สุด หากแต่ยังมีความเป็นเนื้อผิวปรกติอยู่ ไม่ได้แข็งมากเสียจนผิดธรรมชาติค่ะ
ตัวอย่างผลการรักษาฟิลเลอร์จมูก
อยากฉีดปากให้อิ่มสวย หรือปรับรูปทรงปากกระจับ ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี ?
ฟิลเลอร์แบรนด์ Juvederm เป็นยี่ห้อ filler ตัวหลักที่แพทย์ต่างแนะนำว่าเหมาะกับการเติมบริเวณปาก (เพราะเป็นบริเวณที่มีการขยับเขยื้อนบ่อยมาก) จึงต้องเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีค่าความยืดหยุ่นสูง
- Juvederm Ultra Plus อาจคลำเจอเนื้อฟิลเลอร์นิ่ม ๆ ได้ในระยะเวลา 2-3 เดือนแรกหลังฉีด เนื้อจะฟูเยอะ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปากอวบอิ่มแบบฝรั่ง และผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า
- Juvederm Volift ฉีดแล้วปากดูอิ่มสวยอย่างเป็นธรรมชาติ และไม่เป็นก้อน (คงอยู่ได้นาน 1 ปี)
- Restylane Volyme คุณสมบัติคล้ายกับ Juvederm รุ่น volift แต่อยู่ได้นานยิ่งกว่า คือสามารถอยู่ได้ 1 ปีครึ่ง
- Restylane Vital light (คงอยู่ได้นาน 6 เดือน – 1 ปี) รุ่นนี้เหมาะกับผู้ที่ไม่ได้ต้องการเติมปาก แต่อยากแก้ไขริมฝีปากแห้งโดยเฉพาะ
ฉีดฟิลเลอร์ปาก รีวิวผลลัพธ์ที่ได้หลังทำ
เลือกฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ยี่ห้อไหนดี ?
เมื่อคนเรามีอายุเพิ่มมากขึ้น หน้าจะค่อย ๆ แบนลง จากอีลาสตินและคอลลาเจนที่เสื่อมลงตามวัย ประกอบกับแรงโน้มถ่วงของโลก จนเกิดเป็นร่องใต้ตา แก้มตก เพราะกระดูกและชั้นไขมันบนใบหน้ายุบตัวลง ใบหน้าจึงขาดมิติ ดูแบนกว่าตอนสมัยเป็นหนุ่มสาว
การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม เติมบริเวณที่ไขมันเกิดยุบตัวลง (ผลลัพธ์คล้ายการเอาผลส้มมาวางไว้บนใบหน้า) ช่วยให้โหนกแก้มดูโค้งมน มีมิติ หน้าดูอ่อนเยาว์เพราะไม่หย่อนคล้อยเหมือนอย่างแต่ก่อน
แนะนำฟิลเลอร์แท้ยี่ห้อ Restylane Perlane LYFT (Sweden) เป็นรุ่นผสมยาชา สำหรับผู่ที่อยากทำแก้มส้ม ภายในระยะเวลา 12 เดือนหลังทำฟิลเลอร์จะค่อย ๆ สลายไปเองตามธรรมชาติได้ทั้งหมด ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดอันตรายแต่อย่างใดค่ะ
*ผลการรักษาแตกต่างกันแต่ละบุคคล
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะสามารถนำข้อมูลที่บทความนี้ได้แนะนำมาข้างต้น ไปช่วยในการพิจารณาตัดสินใจเกี่ยวกับ ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือการเลือกคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญเพียงพอ เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น เพื่อความปลอดภัย เห็นผลคุ้มค่าอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.vsquareclinic.com/blogs/dermal-fillers/