“ เสริมคาง ” ปรับโครงหน้าให้เรียวสวย เปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ที่ We Clinic

เสริมคางปรับรูปหน้า
เสริมคางปรับรูปหน้า

เสริมคาง

ก่อนหน้านี้หากพูดถึงการเสริมคางคนมักจะนึกถึงภาพผู้หญิงที่ไป เสริมคาง มาจนดูแปลก คางแหลมเหมือนแม่มดบ้างล่ะ คางงอนเป็นก้อนเหมือนหน้ามะม่วงบ้างล่ะ แต่ตอนนี้การเสริมคางกลายเป็นการปรับรูปหน้าให้หน้าดูเรียวขึ้น เป็นวีเชพ และเสริมได้อย่างถาวรโดยไม่ต้องไปฉีดฟิลเลอร์เติมบ่อยๆ

การทำคางเหมาะกับคนที่มีคางสั้น คางถอย คางบุ๋ม คางตัด คนไทยส่วนใหญ่จะมีปัญหาเหล่านี้กันมาก และพบว่าคนเอเชียจำนวนมากจะมีลักษณะกระดูกคางเจริญเติบโตน้อย คางสั้นผิดรูป ทำให้ใบหน้าดูไม่สมส่วน  การทำคางจะช่วยให้ใบหน้าสมส่วนดูเรียวยาวมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัดใหญ่

ซึ่ง We clinic คือคลินิกที่ให้บริการทำคางระดับแถวหน้าของประเทศ ที่คนที่อยากทำศัลยกรรมคางต่างนึกถึง วีคลินิก เป็นอันดับแรก ๆ เสมอ

การทำคาง มีกี่แบบ

หลายคนกำลังมีคำถามว่าการเสริมคางมีกี่แบบวิธี กี่วิธี ซึ่งปัจจุบันนี้วิธีการทำคาง จะมีหลัก ๆ อยู่ 2 คือ

เสริมคางด้วยการฉีด

  • มีให้เลือกทั้ง การฉีดด้วยฟิลเลอร์ และการดูดไขมันของตัวเองมาฉีดเพื่อเสริมคาง
  • การฉีดเสริมคางเป็นวิธีที่ไม่อยู่ถาวร คนไข้มักจะต้องเข้ามารับการฉีดเพื่อเติมเต็มซ้ำทุกๆ ปี ซึ่งแล้วแต่กรณีไป

การผ่าตัดเพื่อเสริมคาง

  • เป็นการนำซิลิโคนแท่งมาใช้เสริมคาง ถือเป็นการผ่าตัดเล็ก
  • คุณหมอสามารถออกแบบเหลาซิลิโคนปรับรูปทรงคาง ให้ได้เป็นทรงตามที่คนไข้ต้องการและเหมาะสมเข้ากับใบหน้าและมีข้อดีคือเป็นการทำคางแบบอยู่ได้ถาวร
  • ซึ่งเทคนิคเฉพาะของที่ We clinic เราจะใช้การเสริมคางด้วยซิลิโคน โดยเน้นความเป็นธรรมชาติ ให้รูปหน้าดูเรียวขึ้นโดยไม่ย้อยและไม่เป็นก้อน

ซึ่งการผ่าตัดเสริมคางมี 2 วิธี ได้แก่

1.การเสริมคางแผลนอก

             การเสริมคางในรูปแบบนี้ใช้เวลาผ่าตัดค่อนข้างสั้น ประมาณ 30 – 45 นาที ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของแต่ละเคส เป็นการผ่าตัดเสริมคางจากด้านนอกช่องปาก การผ่าตัดจะทำร่วมกับการฉีดยาชา โดยศัลยแพทย์ทำการกรีดเปิดแผลที่บริเวณใต้คาง ความยาวเฉลี่ยอยู่ที่ 1 ถึง 1.5 เซนติเมตร เพื่อทำการวางตำแหน่งซิลิโคนเข้าไปในแนวเฉียงลงล่าง เพื่อให้รูปหน้าดูเรียวขึ้น และทำการปรับแต่งรูปคางให้เหมาะสมกับโครงหน้าของคนไข้แต่ละราย

ข้อดี ของการเสริมคางแบบแผลนอก

  • ในรายที่มีเนื้อบริเวณคางที่ห้อยย้อย แพทย์สามารถช่วยตกแต่งผิวหนังส่วนเกินที่ใต้คางให้เนียนขึ้นได้
  • ลดความเสี่ยงในเรื่องการติดเชื้อ อันเกิดจากน้ำลายและเศษอาหารตกค้างในช่องปาก
  • การเปิดแผลนอก คุณหมอจะสามารถวางตำแหน่งซิลิโคนได้อย่างแม่นยำและง่ายกว่าแบบแผลใน
  • การดูแลง่ายต่อการรักษา แผลผ่าตัดหายเร็ว เนื่องจากแผลมีขนาดเล็ก
  • ป้องกันการเบี้ยวเอียงได้ เนื่องจากแพทย์จะเย็บล็อคซิลิโคน
  • มีการใช้เลเซอร์ร่วมกับการผ่าตัดในทุกๆ เคส เพื่อช่วยห้ามเลือด และช่วยลดอาการช้ำบวม
  • ควรใช้เทคนิคแก้คางแบบแผลนอกในรายที่ต้องขูดฟิลเลอร์ออก เนื่องจากขูดสารเหลวได้เกลี้ยงกว่าผ่าแบบแผลใน

ข้อควรระวัง

สำหรับคนที่มีเกิดรอยแผลเป็นได้ง่ายอาจไม่เหมาะกับการผ่าตัดเสริมคางแบบแผลนอก เพราะในบางรายอาจเกิดรอยแผลเป็นขึ้นได้  แต่ทั้งนี้หากทาครีมลดรอยแผลเป็นอย่างสม่ำเสมอ ทำการดูแลรักษาอย่างดี รอยแผลเป็นก็อาจหายได้โดยไม่เกิดแผลเป็น อาจต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควรประมาณ 1-3 เดือนโดยเฉลี่ย

2.การเสริมคางแผลใน

เป็นการผ่าตัดทำคางแบบเปิดแผลที่ด้านในช่องปาก แผลจะอยู่ตรงบริเวณเหงือกด้านในและริมฝีปากล่าง โดยกรีดแผลให้มีความยาว 2 เซนติเมตรโดยประมาณ  ทั้งนี้ขนาดของรอยแผลจะต้องพิจารณาขนาดซิลิโคนร่วมด้วย

คุณหมอจะผ่าแยกเยื่อหุ้มบริเวณขอบล่างของคางออก แล้วทำการวางแท่งซิลิโคนเข้าไปให้อยู่ในตำแหน่งพอดีกับความต้องการ จากนั้นจึงทำการเย็บปิดแผลโดยใช้ไหมละลาย

ข้อดีของการเสริมคางแบบแผลใน

  • เหมาะกับคนที่มีโอกาสเกิดแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์ได้ง่าย เนื่องจากไม่ทำให้เห็นแผลเป็นเกิดขึ้นจากการผ่าตัดที่ภายนอกช่องปาก
  • นิยมทำในแพทย์หรือทันตแพทย์ โดยต้องมีการประเมินเรื่องการสบฟันและประเมินกระดูกขากรรไกรร่วมด้วย

ข้อควรระวัง

  • ต้องมีการการดูแล ทำความสะอาดอย่างระมัดระวัง เพื่อลดภาวการณ์ติดเชื้อหรือการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ
  • ควรระวังเรื่องการรับประทานอาหารแล้วมีเศษอาหารตกค้างในช่องปาก
  • ควรระมัดระวังการเกิดคางกระแทกซึ่งอาจทำให้ซิลิโคนเคลื่อนผิดตำแหน่ง

ซิลิโคนที่ใช้เสริมคางมีกี่ประเภท เกรดไหนบ้าง ?

ที่ We clinic คุณหมอจะเลือกใช้ ซิลิโคนขายาว อันเป็นเทคนิคพิเศษเฉพาะที่ We clinic เท่านั้น เป็นท่านแรก ๆ ของประเทศที่มีการประยุกต์ใช้และเหลาซิลิโคนขายาว ทำการปรับวางซิลิโคนให้เข้ากับกรอบหน้าโดยครอบอย่างแม่นยำที่บริเวณฐานกระดูก มีการเย็บล็อคเพื่อป้องกันไม่ให้เบี้ยวเอียง ส่งผลดีคือป้องกันการเกิดคางเป็นก้อน หรือห้อยย้อย โดยจะทำให้เรียบเนียนเข้ากับผิวและรอยต่อน้อยมาก กรอบหน้าดูชัดขึ้น

การใช้ซิลิโคนแท่งในการเสริมคางเป็นวิธีที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย โดยซิลิโคนที่ใช้เป็นซิลิโคนทางการแพทย์ (Medical Grade Silicone)  ที่ได้มาตรฐาน ซึ่งมีอยู่ 2 ลักษณะหลัก ๆ  ได้แก่

1. ซิลิโคนขาสั้น

เหมาะกับคนไข้ที่ต้องการทำคางแบบเน้นเฉพาะส่วนปลายคางให้ดูยาวขึ้น โดยมีพื้นฐานโครงสร้างของคางค่อนข้างดีอยู่แล้ว และผู้ที่อยากปรับสัดส่วนบนใบหน้าให้ดูสมบูรณ์แบบมากขึ้น ให้ใบหน้าแลดูยาวขึ้น ซึ่งควรใช้ซิลิโคนที่มีความนิ่มปานกลาง

2. ซิลิโคนขายาว

ซิลิโคนขายาว เหมาะกับคนไข้ที่มีปัญหาคางถอย คางบุ๋ม คางตัด หรือคางเหลี่ยมมากๆ ตัวแท่งซิลิโคนจะต้อง ครอบคลุมถึงบริเวณรอยต่อแนวกราม และรับกับบริเวณกรอบหน้า เพื่อห้กรอบหน้าชัด รูปหน้าได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น

ซิลิโคนขายาวจะมีลักษณะขาวางโค้งครอบไปบนบริเวณกระดูกปลายคาง เพื่อจัดวางให้ซิลิโคนอยู่ในองศาเดียวกันกับกรอบหน้าอย่างพอดี เพื่อไม่ให้เกิดเป็นรอยต่อเกิดขึ้นระหว่างแก้มและคาง  ตัวขาที่ยาวของซิลิโคนจะทำหน้าที่ช่วยล็อคไว้ ไม่ให้ซิลิโคนห้อยย้อยตกลงมาที่ใต้คาง ทำหน้าที่ครอบล็อคกระดูกคาง เพื่อป้องกันคางเบี้ยวเอียง

ซึ่งนอกจากเรื่องลักษณะของซิลิโคนแล้ว ประเภทของซิลิโคน ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่จะมีส่วนช่วยให้คางดูเข้ากับรูปหน้าของคนไข้ได้มากขึ้นอีกด้วย การเลือกชนิดซิลิโคนที่เหมาะสมจะส่งผลให้รูปหน้าดูสมดุล ได้สัดส่วนที่ดีงาม ดูเรียวสวย มีมิติ คือสวยอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งซิลิโคนที่ใช้เสริมคาง มี 2 ประเภท ได้แก่

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : ซิลิโคนขาสั้น Vs ซิลิโคนขายาว แบบไหนเสริมแล้วปังกว่ากัน บทความนี้มีคำตอบ !

1. ซิลิโคนเกรดเกาหลี ข้อดีซิลิโคนแบบนี้คือ มีความนุ่มเมื่อเสริมออกมาแล้วจะดูเป็นธรรมชาติ การทำคางด้วยซิลิโคนเกาหลีจะได้คางที่ดูพุ่ง งอนมาทางด้านหน้า และได้รูปสวย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณเนื้อคางเดิมของคนไข้แต่ละคนด้วย

2. ซิลิโคน USA มีข้อดีในการทำคางคือ ซิลิโคนอเมริกา มีความน่าเชื่อถือเนื่องจากเป็นซิลิโคนที่เน้นมาตรฐานเป็นพิเศษ และเป็นเกรดทางการแพทย์ ที่ได้รับการรับรอง US FDA approved เนื่องจากมีค่าความบริสุทธิ์ของเนื้อซิลิโคนสูงมาก ง่ายในการเหลาขึ้นรูป ปลอดภัยต่อร่างกาย มีความยืดหยุ่น และเข้ากับโครงหน้าของคนไข้แต่ละรายได้ดี

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : 4 คำถามยอดฮิต ก่อนเสริมคาง ด้วยซิลิโคน บอกเลยถ้าอ่านเสร็จสามารถตัดสินใจทำได้ทันที!

ใครบ้างเหมาะกับ การเสริมคาง?

การเสริมคางนั้น ปกติแล้วสามารถทำได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาคางสั้น คางถอย คาดเหลี่ยม คางตัด คางยุบ ช่วยปรับแก้ปัญหาคางให้ได้รูป ดูสวยขึ้น แก้ไขใบหน้าให้ดูกลมน้อยลง และปรับรูปหน้าให้ดูเรียวงามยิ่งขึ้น

ส่วนผู้ที่มีโครงหน้าค่อนข้างดีอยู่แล้ว การเสริมคางยังช่วยปรับรูปหน้าให้ดูมีมิติมากยิ่งขึ้น ปรับรูปหน้าให้ได้เป็นวีเชพ (V-Shape) นับได้ว่าการเสริมคางเป็นอีกตัวช่วยที่จะส่งเสริมและปรับบุคลิกภาพให้ดีขึ้นได้ด้วย

การเสริมคางผู้ชายจะมีลักษณะที่ต่างจากที่ทำในผู้หญิง โดยการเสริมคางผู้ชายจะนิยมทำคางให้ดูแมน ๆ โดยทำคางให้ป้านขึ้น เหลี่ยมมากขึ้น โดยไม่นิยมทำให้แหลมเกินไปเพราะจะทำให้หน้าดูหวานจนเกินไป  ต่างจากการทำคางในผู้หญิงนิยมทำให้ใบหน้าดูยาวขึ้น เรียวขึ้น ให้หน้าหวานดูละมุนและได้รูปวีเชพ

การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนผ่าตัดเสริมคาง

การจะเลือกได้ว่า ควรเลือกทำคางที่ไหนดี จะต้องมีการศึกษาข้อมูลรายละเอียดมาให้มากพอ และสิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดเสริมคาง มีดังนี้

  • ควรแจ้งข้อมูลทางด้านสุขภาพให้แพทย์ทราบโดยละเอียด เช่น โรคประจำตัว และประวัติการแพ้ยาในอดีต
  • ควรงบสูบบุหรี่ และงดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้ารับการผ่าตัดทำคางอย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • งดรับประทานยาตระกูลแอสไพริน วิตามิน และอาหารเสริม ยกตัวอย่างเช่น น้ำมันตับปลา ก่อนเข้ารับการผ่าตัดเสริมคางอย่างน้อย 1 สัปดาห์ 
  • ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อนเข้าผ่าตัดเสริมคาง เตรียมรูปตัวอย่างทรงคางที่อยากได้ เพื่อประเมินรูปทรงก่อนว่าสามารถทำได้หรือไม่ และเข้ากับรูปหน้าหรือไม่
  • ควรทำความสะอาดร่างกายให้เรียบร้อย อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน บ้วนปาก ก่อนเข้าผ่าตัดทำคาง
  • และไม่ควรสวมเสื้อผ้าที่มีโลหะนำไฟฟ้าเป็นส่วนประกอบหรือตกแต่ง
  • ไม่จำเป็นต้องงดน้ำ หรืองดอาหาร ควรรับประทานอาหารให้พออิ่ม ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
  • ไม่ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่มีโลหะนำไฟฟ้าเป็นส่วนประกอบ ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่เป็นแบบติดกระดุมผ่าหน้า เพื่อความสะดวกต่อการสวมใส่หลังจากการผ่าตัดทำคาง

หรือ กดเข้ามาดูรีวิวเสริมคางได้โดยตรงนะจากที่นี่  รีวิวเสริมคาง ทรงวีมน น้อง ANUN_SSN NET IDOL คนสวย BY คุณหมอแซม

การปฏิบัติตัว/การดูแลตัวเอง หลังการผ่าตัดเสริมคาง

หลังผ่าตัดเสริมคางมักจะมีเรื่องอาการบวม ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่ร่างกายต้องใช้เวลาฟื้นตัว  แต่ที่ We clinic มีเทคนิคพิเศษ ที่ช่วยให้หลังผ่าตัดมีอาการบวมช้ำที่น้อยมาก ๆ ซึ่งการดูแลตัวเองหลังทำคางมีข้อควรปฏิบัติ ดังข้อมูลด้านล่างนี้

การดูแลหลังทำคาง ควรปฏิบัติตัวดังนี้

  • หลังจากเข้ารับการผ่าตัดเสริมคาง 1-3 วันแรก อาจเกิดอาการบวมช้ำ สามารถใช้วิธีประคบเย็นเพื่อช่วยให้เลือดหยุดไหล ลดอาการบวมให้ดีขึ้นได้ แล้วเปลี่ยนมาเป็นประคบอุ่น จนกว่ารอยช้ำจะดีขึ้น
  • หลังผ่าตัดเสริมคาง ควรนอนยกศีรษะสูงอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดคั่ง และไม่ควรนอนตะแคง เพราะจะทำให้คางเกิดอาการเสียรูปทรงได้
  • งดรับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ และอาหารแสลง อาหารเผ็ด ร้อน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ เป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน
  • ควรงดการทำกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดมากและการออกกำลังกายอย่างหนัก จนกว่าอาการบวมจะยุบลง เป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน
  • ควรรับประทานยาลดบวม ยาฆ่าเชื้อ ที่แพทย์จ่ายให้อย่างครบถ้วน
  • หากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น ยกตัวอย่างเช่น รู้สึกปวดบริเวณแผลมากกว่าปกติ หรือหากมีข้อสงสัยต่าง ๆ ควรไปพบแพทย์ทันที ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้หรือแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง

แนวทางการรับประทานอาหาร หลังผ่าตัดทำคาง

หลักจากผ่าตัดศัลยกรรมเสริมคาง คุณหมอแนะนำว่าควรรับประทานอาหารอ่อน ๆ ที่ไม่ต้องใช้แรงเคี้ยวมาก ไม่รับประทานอาหารร้อนจัด  ควรทานอาหารรสชาติอ่อน ๆ งดอาหารเผ็ดหรือเค็มในช่วงระยะเวลาหลังผ่าตัดคาง  1 เดือนแรก และงดอาหารทะเล อาหารแสลง อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ เพราะมีโอกาสเสี่ยงต่ออาการแผลบวมช้ำนานกว่าปกติ

FAQ รวมคำถามยอดฮิต ก่อนการทำคาง

Q : เสริมคางเจ็บไหม ?

A : การเสริมคาง เป็นการผ่าตัดศัลยกรรมขนาดเล็ก หลังผ่าตัดเสร็จสามารถเดินทางกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ โดยไม่ต้องพักฟื้นที่คลินิก  การผ่าตัดมีการฉีดยาชาร่วมด้วย ซึ่งจะรู้สึกเจ็บในขณะที่ฉีดยาชาเท่านั้น และเมื่อยาชาออกฤทธิ์แล้วคนไข้จะไม่มีความรู้สึกเจ็บในระหว่างผ่าตัดจนถึงผ่าตัดเสร็จ อาจมีอาการตึง ๆ หรือเจ็บเล็กน้อยหลังจากยาชาหมดฤทธิ์ ซึ่งแพทย์แนะนำให้รับประทานยาแก้ปวดได้ และสามารถใช้ประคบเย็นเพื่อช่วยอาการปวดและบวมให้ลดน้อยลง

Q : ต้องพักฟื้นนานแค่ไหน หลังเสริมคาง?

A: การพักฟื้นหลังจากการผ่าตัดเสริมคาง เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 7 วัน แต่สามารถไปไหนมาไหนได้ ใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยไม่กระทบกิจวัตรประจำวัน 7 วัน จะนัดเข้ามาเพื่อเช็คแผล หรือตัดไหม ทรงคางจะเข้าที่ใช้เวลาประมาณ 1-3 เดือน

โดยเฉลี่ยแล้วการผ่าตัดทำคางจะใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 7 วัน ระหว่างนี้สามารถเดินทางออกไปทำงานได้ตามปกติ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อกิจวัตรประจำวัน และหลังจากผ่าตัด 7 วัน แพทย์จะนัดให้เข้ามาเช็คแผล หรือเข้ารับการตัดไหม และทรงคางจะเข้าที่สวยงามเข้ากับรูปหน้า ภายในระยะเวลาประมาณ 1-3 เดือน

Q : การทำคางมีผลข้างเคียง / อันตรายหรือไม่? 

A: การเลือกสถานที่ คลินิกเสริมคาง เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ไม่ใช่เสริมคางที่ไหนก้ได้ ต้องศึกษาข้อมูลให้ดี รวมถึงคุณหมอ ที่มีประสบการณ์สูงและมีความเชี่ยวชาญ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน  เครื่องมือผ่าตัดที่ทันสมัย ผ่านการฆ่าเชื้อทุกกระบวนการ จึงหมดกังวลเรื่องผลข้างเคียง และอันตรายไปได้เลย

A: ขึ้นชื่อว่าการทำศัลยกรรมควรมีการศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อน เพราะไม่ใช่จะเสริมคางที่ไหนก็ได้ การพิจารณาเลือกสถานที่ คลินิกเสริมคาง เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก รวมถึงควรพิจารณาคุณหมอที่จะทำการผ่าตัดด้วย ว่าต้องเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูง เครื่องมือที่ใช้ผ่าตัดมีความทันสมัย ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อ มีความปลอดภัยและได้มาตรฐาน เพื่อความมั่นใจได้ว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องผลข้างเคียงหรืออันตรายใดๆ เกิดขึ้น

Q : การเสริมคางจะมีแผลเป็นหรือไม่

A: แผลเป็นหลังการผ่าตัดขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล คนไข้บางรายอาจมีสภาพผิวที่เกิดแผลเป็นนูน หรือคีลอยด์ได้ง่ายกว่าคนปกติ ซึ่งควรดูแลตัวเองหลังผ่าตัดอย่างเคร่งครัด หมั่นทายาป้องกันการเกิดแผลเป็นทุกเช้า – เย็นอย่างสม่ำเสมอ แต่โดยทั่วไปแล้วโอกาสจะเกิดแผลเป็นนูนมีน้อยมาก เพราะการผ่าตัดเสริมคางจะเกิดแผลขนาดเล็ก และรอยแผลจะค่อย ๆ จางลงภายในเวลา 1-3 เดือนโดยประมาณ ถ้าไม่รู้ว่าจะทําคาง ที่ไหนดี แนะนำเลยที่นี่ ปรึกษาฟรี โดยคุณหมอ 

ขอบคุณบทความจาก

Medistar

https://www.vsquareclinic.com/