โรคตาแห้ง ภาวะตาแห้ง สามารถพบเจอได้ง่ายจากการที่ผู้คนจำนวนมากใช้ชีวิตอยู่หน้าจอกันมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นจอคอมพิวเตอร์ จอโทรศัพท์หรือจอทีวี เมื่อนานไปก็จะเกิดการรู้สึกเจ็บตา รู้สึกตาแข็ง เมื่อหลับตาแล้วก็ยังเจ็บภายใน
ต้องรอสักพักใหญ่ ถึงจะกลับมาเป็นปกติ ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนของโรคตาแห้ง ที่อาจเป็นอันตรายต่อดวงตาในอนาคตได้
และไม่ใช่แค่เพียงผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่หน้าจอเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่จะเป็นโรคนี้ได้ ยังมีปัจจัยประกอบอีกหลายอย่าง ซึ่งเราได้รวบรวมมาไว้ให้อ่านในบทความนี้กันแล้ว
โรคตาแห้ง ภาวะตาแห้ง คืออะไร?
โรคตาแห้ง ภาวะตาแห้ง (Dry eyes) เป็นโรคที่เกิดจากการที่น้ำตาหรือฟิล์มน้ำตา ที่มักจะอยู่บนเนื้อเยื่อส่วนหน้าของลูกตา
มีปริมาณไม่เพียงพอที่จะนำมาหล่อเลี้ยงภายในลูกตา จึงอาจทำให้เกิดการระคายเคือง แสบตา และรู้สึกว่าดวงตาขาดความชุ่มชื้นได้
โรคนี้สามารถพบได้กับผู้ป่วยทุกเพศทุกวัยแบบไม่มีข้อจำกัด แต่อาจจะพบมากเป็นพิเศษในผู้หญิงที่หมดประจำเดือนไปแล้ว
การที่น้ำตาจะเกิดขึ้นภายในดวงตา สามารถแบ่งการผลิตน้ำตาได้เป็น 2 ประเภท คือ
1.เกิดจากต่อมน้ำตา ต่อมนี้จะเป็นเซลล์เล็กๆ ที่อยู่ภายในเปลือกตา จะมีหน้าที่สร้างน้ำตาขึ้นมาหล่อเลี้ยงลูกตาตลอดเวลา ซึ่งปัญหาของโรคตาแห้งจะเกิดการต่อมน้ำตาชนิดนี้
2.เกิดจากต่อมน้ำตาขนาดใหญ่ ต่อมนี้จะอยู่ภายใต้โพรงกระดูกเบ้าตาช่วงหางคิ้ว จะผลิตน้ำตาขึ้นโดยสัมพันธ์กับอารมณ์
เช่น ความรู้สึกเสียใจ ความรู้สึกดีใจ บางครั้งอาจผลิตน้ำตาขึ้น จากการปวดและระคายเคืองตา ซึ่งเป็นปฏิกิริยา Reflex ของร่างกายประเภทหนึ่ง
สาเหตุของโรคตาแห้ง ภาวะตาแห้ง
สำหรับสาเหตุของโรคตาแห้ง ภาวะตาแห้ง พบได้จากปัจจัยดังต่อไปนี้
1.ต่อมน้ำตา มีการสร้างน้ำตาน้อยกว่าปกติ ซึ่งอาจเกิดจากการทานยารักษาโรคบางชนิด เช่น ยากลุ่มแอนตี้ฮิสตามีน
ที่เป็นยารักษาโรคภูมิแพ้และโรคไข้หวัด นอกจากนี้ยากล่อมประสาท และยารักษาอาการทางจิตเวชบางชนิด
ก็มีส่วนทำให้ต่อมน้ำตาทำงานอย่างไม่ปกติอีกด้วย แพทย์จึงมักจะสั่งยารักษาโรคตาแห้งควบคู่อยู่เสมอ
2.ความเสื่อมสภาพจากอายุที่มากขึ้น เมื่อมีอายุมากขึ้น เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายก็จะเสื่อมสภาพลง
เช่นเดียวกับต่อมน้ำตา ที่จะผลิตน้ำตาน้อยลงจากเดิม จึงเป็นสาเหตุให้พบโรคนี้ได้ในผู้สูงอายุเป็นส่วนใหญ่
3.ความผิดปกติในผู้ป่วยบางคน โดยแพทย์อาจพบว่าส่วนประกอบที่นำมาใช้ในการสร้างน้ำตานั้น มีความผิดปกติจากน้ำตาทั่วไป
เช่น มีความเข้มข้น หรือมีความเค็มผิดปกติ จึงเป็นเหตุให้น้ำตาประเภทนี้มีความระเหยเร็ว
และทำลายปลายประสาทภายในดวงตา ซึ่งเป็นผลให้เกิดการสร้างน้ำตาขึ้นมาหล่อเลี้ยงใหม่น้อยลงตาม
4.การใช้คอนแท็กเลนส์ที่มาก หรือบ่อยจนเกินไปทั้งที่ไม่จำเป็น ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตาแห้ง
เนื่องจากคอนแท็คเลนส์นั้น จะไปดึงน้ำตาที่อยู่บริเวณรอบ ๆ ส่วนหน้าของลูกตามาหล่อเลี้ยงให้แผ่นคอนแท็คฯ มีความใสอยู่เสมอ
5.การทำเลสิกในการรักษาปัญหาสายตาสั้น มักจะต้องใช้วิธีตัดเส้นประสาทบางเส้นที่มาเลี้ยงกระจกตา ซึ่งเป็นเหตุให้ไม่มีการสร้างน้ำตาเกิดขึ้น
6.ผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคตา เช่น เยื่อบุตาอักเสบ ต้อหิน มีโอกาสที่จะเป็นโรคตาแห้งได้
7.สภาวะแวดล้อมต่างๆ เช่น อากาศแห้ง ชื้น หรือแม้กระทั่งการนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็สามารถทำให้เกิดอาการตาแห้งได้
อาการของโรคตาแห้ง ภาวะตาแห้ง
อาการของผู้ป่วยโรคตาแห้ง ที่สามารถพบเจอได้บ่อยคือ
1.รู้สึกระคายเคืองในดวงตา เมื่อหลับตาจะรู้สึกฝืดและแสบตา บางครั้งอาจรู้สึกว่ามีสิ่งสกปรกตกค้างอยู่ภายในลูกตา
2.รู้สึกถึงความแพ้แสง ตาพร่ามัวเมื่อเจอแสงแดดแรง
3.อาจพบขี้ตาที่มีลักษณะเป็นเมือกเหนียวสีขาว หรือสีเหลืองนวล ยืดออกเป็นเส้นได้
4.หากระคายเคือง หรือแสบตามาก อาจเกิดการน้ำตาไหลได้เอง (เกิดจากต่อมน้ำตาใหญ่)
เมื่อน้ำตาไหลจะรู้สึกดีขึ้น แต่เมื่อใดก็ตามที่น้ำตาหยุดไหล ก็จะกลับมาระคายเคืองเหมือนเดิม
5.ถ้าหากไม่ทำการรักษา จนมีความรุนแรงมากขึ้น อาจถึงขั้นทำให้กระจกตาเป็นแผล หรือมีผิวถลอกได้
ซึ่งจะทำให้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อต่างๆ มากกว่าเดิม และอาจถึงขั้นกระจกตาทะลุซึ่งทำให้ตาบอดได้
วิธีรักษาโรคตาแห้ง ภาวะตาแห้ง
การรักษาโรคตาแห้ง ภาวะตาแห้งนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กรณี คือรักษาด้วยตัวเอง และรักษาโดยแพทย์ โดยมีวิธี คือ
การรักษาด้วยตัวเอง
กระพริบตาถี่ – เพื่อให้เปลือกตากระตุ้นให้น้ำตามาหล่อเลี้ยงดวงตามากยิ่งขึ้น พยายามอย่าจ้อง
หรืออย่าเพ่งสิ่งใดสิ่งหนึ่งนานเกินไป เพราะจะทำให้น้ำตามีการระเหยออกไป เนื่องจากไม่มีการกระพริบตาเลย
เปลี่ยนมาใส่แว่นตาบ้าง – อย่าใช้แต่คอนแท็คเลนส์เพียงอย่างเดียว
ใช้น้ำตาเทียม – เป็นตัวเลือกสำคัญ ซึ่งปัจจุบันนี้มีให้เลือกหลายประเภท แล้วแต่ความต้องการและความสะดวก
การรักษาทางการแพทย์
รักษาสาเหตุของโรคที่แท้จริงก่อน – เนื่องจากผู้ป่วยบางคนอาจมีอาการตาแห้ง จากการเป็นโรคต่างๆ เช่น เยื่อบุตาอักเสบ โรคต้อหิน โรคเบาหวาน โรคภูมิแพ้ เป็นต้น
ใช้ยาหยอดตา – เพื่อกระตุ้นให้ต่อมน้ำตาทำงานมากกว่าเดิม
การผ่าตัดอุดรูระบายน้ำตา – เพื่อให้น้ำตาขังอยู่ภายในดวงตาเป็นจำนวนมาก วิธีนี้จะใช้กับผู้ที่มีอาการตาแห้งรุนแรงเท่านั้น
วิธีป้องกันโรคตาแห้ง ภาวะตาแห้ง
สำหรับวิธีป้องกัน ก็จะคล้ายกับวิธีการรักษา ก็คือการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคตาแห้ง เช่น
พักผ่อนให้เพียงพอ – เพื่อให้ร่างกายทำงานตามปกติ
ไม่ใช้สายตามากจนเกินไป – พักหลับตาหรือกระพริบตาบ่อยๆ บ้าง เพื่อให้น้ำตามาหล่อเลี้ยงมากยิ่งขึ้น
ควรใช้คอนแท็คเลนส์เฉพาะเวลาจำเป็นเท่านั้น – เพราะการใส่คอนแท็คเลนส์มากๆ อาจทำให้เกิดโรคตาแห้งได้เช่นกัน
Credit : maestrouzy.com
โรคตาแห้ง ภาวะตาแห้ง เป็นโรคที่กำลังคุกคามชีวิตของผู้คนจำนวนมากในขณะนี้ อาจจะดูเหมือนไม่น่ากลัวมากนัก แต่ถ้าปล่อยปละละเลยไว้โดยไม่ทำการรักษา ก็อาจจะมีความรุนแรงถึงขั้นกระจกตาทะลุได้
ซึ่งจะต้องทำการรักษาที่ยากขึ้น และมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นกว่าการรักษาโรคตาแห้งธรรมดา ยิ่งถ้าหากมีการติดเชื้อก็อาจถึงขั้นทำให้ตาบอดได้