ปากกระจับ
“ปากกระจับ” คือ รูปทรงปากที่คนจำนวนไม่น้อยต่างอยากได้ รวมทั้งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในเอเชีย
เพราะปากกระจับเป็นทรงปากที่ไม่ทำให้ปากดูบาง หรือแบนเรียบจนเกินไป ช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติมากยิ่งขึ้น คุณหมอแนะนำว่าควรศึกษาข้อมูลในบทความนี้ก่อน สำหรับใครที่อยากจะทำปากกระจับ ปรับรูปทรงปาก ให้สวยอย่างเป็นธรรมชาติครับ
การทำปากกระจับ เหมาะกับใครบ้าง?
การทำปากกระจับจะส่งผลให้ใบหน้ามีมิติ ดูหวาน และเซ็กซี่มากขึ้น ทำได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชายครับ
แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะกับการทำรูปทรงปากกระจับ ถึงแม้ปากกระจับจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากก็ตาม
หากสนใจควรปรึกษาคุณหมอก่อนว่าเหมาะที่จะทำปากกระจับหรือไม่ เพื่อตรวจวิเคราะห์ สอบถามประวัติว่าเคยผ่าตัดปากมาก่อนหน้านี้หรือไม่ ลักษณะปากเป็นอย่างไร บางเกินไปหรือปากหนาอยู่แล้ว คุณหมอจะช่วยประเมินว่าคนไข้เหมาะกับการผ่าตัดริมฝีปาก หรือฉีดฟิลเลอร์ปากอย่างเดียวก็เพียงพอ
(สำหรับคนที่ปากไม่หนามากสามารถใช้การเติมฟิลเลอร์เพื่อทำปากกระจับได้)
การทำปากกระจับ มีกี่วิธี อะไรบ้าง?
มี 2 แบบ ให้เลือก ในการทำปากกระจับ ได้แก่
- การผ่าตัดปากกระจับ
- การฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ
ซึ่งทั้ง 2 หัตถการก็จะเหมาะกับรูปปากที่แตกต่างกัน ดังต่อไปนี้
การฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ | การผ่าตัดปากกระจับ |
---|---|
แค่การเติมฟิลเลอร์เข้าไปในจุดที่ต้องการเพียงเล็กน้อย (ปกติใช้ฟิลเลอร์ 1 CC) ก็สามารถปรับทรงปาก ให้ได้รูปเป็นกระจับสวยได้ | การผ่าตัดปากกระจับ ข้อดีคือ หลังจากทำแล้วเราสามารถรักษารูปทรงปากไว้ได้อย่างถาวร
|
ฟิลเลอร์ปาก เหมาะกับผู้ที่มีปากบาง ปากไม่หนามาก
| เหมาะกับผู้ที่มีริมฝีปากหนามากๆ ไม่เป็นทรง รวมถึงต้องการตัดเนื้อที่มีเยอะเกินไปออก ให้ปากได้รูปยิ่งขึ้น
|
แม้ว่าฟิลเลอร์จะไม่สามารถอยู่ได้อย่างถาวร แต่ก็ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเจ็บตัวเยอะ ไม่ต้องพักฟื้น หลังทำไม่มีรอยแผล และเห็นผลได้ทันที
| ถึงแม้การผ่าตัดจะได้ผลลัพธ์ที่ถาวร แต่ก็มีความเสี่ยงมากเช่นกัน จึงต้องเลือกหมอที่มีความชำนาญเป็นผู้ผ่าตัดให้ เพราะต้องระมัดระวังการผ่าไม่ให้ไปโดนเนื้อเยื่อ และกล้ามเนื้อที่สำคัญ ซึ่งใช้ในการพูด การเคลื่อนไหวของปาก เพื่อคนไข้จะมั่นใจได้ว่าจะได้ทรงปากกระจับดังที่ตนเองต้องการ |
สามารถใช้ฉีดเพื่อยกมุมปากขึ้นได้ แก้มุมปากตก รวมทั้งยังช่วยปรับรูปหน้าโดยรวม ให้ดูอ่อนหวานและเยาว์วัยได้อีกด้วย
| จะไม่สามารถแก้ไขได้หลังจากผ่าตัดไปแล้ว โดยเฉพาะถ้าเป็นคนที่มีปากบางอยู่แล้ว ถ้าหมอทำให้ไม่ดี เช่น ตัดเนื้อออกมากเกินไป หรือผ่ารอยหยักให้ไม่สวย จะทำให้เวลายิ้มแล้วเห็นเหงือก จนรู้สึกเสียความมั่นใจได้ |
การฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง หลังทำเสร็จผลลัพธ์ออกมาปากจะดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ ถ้าฉีดฟิลเลอร์ปากกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจะปลอดภัย 100%
| การทำปากกระจับด้วยการผ่าตัด จำเป็นต้องมีการเตรียมตัวและการรักษาตัวหลังผ่าตัดที่ค่อนข้างยุ่งยาก
|
หากฉีดแล้วคนไข้ไม่พอใจกับรูปปาก ก็สามารถฉีดสลายได้ ไม่เป็นอันตราย | หลังจากผ่าตัดปากกระจับเสร็จแล้ว ต้องใช้เวลานานกว่า 7-9 วัน เพื่อรอให้แผลสมานตัว ซึ่งกว่าที่จะหายดีอาจต้องใช้เวลามากกว่า 2 สัปดาห์ และในระหว่างนั้นจะต้องระมัดระวังเรื่องความสะอาดเป็นพิเศษ |
(เติมฟิลเลอร์ปากเพียง 1 CC ก็สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลง)
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรเลือกใช้ยี่ห้อ และรุ่นไหน ดีที่สุด?
ปากคือตำแหน่งที่ผิวมีการขยับบ่อยมาก ฉะนั้นฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ควรเป็นรุ่นที่มีค่าความยืดหยุ่นสูง
(ควรฉีดฟิลเลอร์ปากกับแพทย์ที่มีประสบการณ์และคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น)
หากฉีดฟิลเลอร์ปลอม จะส่งผลให้ปากเป็นก้อนแข็งเกิดขึ้น ดูไม่เป็นธรรมชาติ ที่สำคัญคือไม่สามารถที่จะฉีดสลายได้ ต้องใช้วิธีผ่าตัดเอาออกเท่านั้น ทำให้เสียเงิน เสียเวลาโดยไม่จำเป็น แถมยังเจ็บตัวเพิ่มอีกครับ
การฉีดฟิลเลอร์จะมีความยืดหยุ่นมากกว่าการผ่าตัด เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปก็มักส่งผลให้รูปทรงปากที่ได้รับความนิยมเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย
ในขณะที่การผ่าตัดนั้น ถ้าตัดเอาเนื้อออกไปแล้วจะไม่สามารถแก้ไขหรือเติมเนื้อในส่วนนั้นให้กลับมาเหมือนเดิมได้อีกครับ
หลังจากฟิลเลอร์ที่ฉีดสลายออกไปหมดแล้ว คนไข้สามารถกลับมาให้หมอฉีดเติมได้ หรืออาจเปลี่ยนรูปทรงปากได้ตามความต้องการ อีกทั้งยังช่วยกลบร่องปาก และเพิ่มความชุ่มชื้นได้อีกด้วย
(รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ปาก ทรงสวย อวบอิ่ม เป็นธรรมชาติ)
การทำปากกระจับ เจ็บไหม?
อาจจะมีเจ็บบ้างถือเป็นเรื่องปกติในการเสริมความงามที่มีการผ่าตัด หรือฉีดครับ แต่จะเจ็บมากหรือน้อยนั้นย่อมขึ้นอยู่กับประเภทของหัตถการ รวมทั้งประสบการณ์ของคุณหมอที่ให้การรักษา หากเลือกหมอที่มือเบา มือนิ่ง ย่อมจะสามารถลดระดับความเจ็บ และลดโอกาสเกิดเขียวช้ำลงได้มากครับ
ทําปากกระจับ ต้องรอกี่วันจึงหายบวม?
ทำปากกระจับจะบวมนานกี่วันนั้นขึ้นอยู่กับว่าทำด้วยวิธีไหน หากเป็นการผ่าตัดตกแต่งปาก อาจต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 2 สัปดาห์ อาการถึงจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับฝีมือของคุณหมอ รวมทั้งการดูแลตัวเองด้วยครับ
ในขณะที่ถ้าเป็นการฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ หลังฉีดเสร็จมักจะมีอาการบวมเกิดขึ้นได้ แต่จะค่อยๆ หายบวมประมาณ 4-5 วัน ก็จะเริ่มเห็นทรงปากที่เข้าที่มากยิ่งขึ้น
รูปทรง ปากกระจับ ที่ได้รับความนิยมและเหมาะกับคนไทย
ปากกระจับ ทรงที่เหมาะกับโครงหน้าของคนไทยคือ ทรงปีกนกที่ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยครับ ซึ่งจะเหมาะมากกว่าทรงอวบอิ่มแบบดาราฝรั่งที่คนไข้มักจะนำรูปมาให้หมอดูเป็นตัวอย่าง เพราะโครงหน้าของฝรั่งมีความชัดเจนกว่าคนไทย ทั้งคิ้ว ตา จมูก รวมทั้งรูปหน้าที่ยาวกว่า
ถ้าคนไข้อยากได้ทรงปากที่เข้ากับใบหน้าตัวเองที่สุด แนะนำว่าควรเข้ามาให้คุณหมอช่วยตรวจประเมินดูก่อน ว่าทำทรงปากรูปแบบไหนจึงจะเข้ากับใบหน้าได้อย่างเหมาะสมมากที่สุด
(โครงหน้าคนเอเชียจะเหมาะกับการทำปากกระจับมากกว่า)
เมื่อได้ตกลงรูปปากที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว คุณหมอจะต้องประเมิน ดังต่อไปนี้ครับ
- ขนาดของริมฝีปาก บน:ล่าง สัดส่วนที่เหมาะสมคือ 1:1.68
- เมื่อมองด้านข้าง แล้วลองลากเส้นจากปลายจมูกลงมาที่คาง ริมฝีปากล่างควรจะแตะกับเส้นนี้พอดี สำหรับริมฝีปากบนควรจะห่างจากเส้นนี้ประมาณ 2 มิลลิเมตร จึงจะได้สัดส่วนพอเหมาะ
- เนื้อริมฝีปากล่างไม่ควรใหญ่จนเกินขอบเขตของยอดตัว M ของริมฝีปากบน
- มุมปากไม่ควรทิ่มลง แต่ควรยกขึ้น
- เนื้อปากควรอวบอิ่ม เรียบเนียน ปราศจากริ้วรอย
- ขอบรอยต่อระหว่างริมฝีปากกับผิวปกติ ไม่มีริ้วรอย
ทําปากกระจับ ที่ไหนดี 2020
ถ้าต้องการจะทำปากกระจับ สวย ๆ ยกมุมปาก หรือปากกระจับ ปีกนก ไม่ว่าจะทำด้วยวิธีการผ่าตัดหรือฉีดฟิลเลอร์ก็ตาม เมื่อคนไข้ได้ศึกษาข้อมูลด้วยตัวเองจนเข้าใจในเบื้องต้นแล้ว
จากนั้นควรปรึกษาคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อขอคำปรึกษาและประเมินรูปทรงปากที่เหมาะสมมากที่สุด หากเลือกวิธีฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับก็ควรใช้ฟิลเลอร์แท้ที่สลายได้เองทั้งหมดเท่านั้น สุดท้ายคือต้องเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ และมีความปลอดภัยสูงสุดครับ
ที่ V Square Clinic มี 14 สาขา ทั่วกรุงเทพ มีทีมแพทย์มากประสบการณ์ถึง 6-15 ปี สำหรับผู้ที่สนใจอยากฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ คุณหมอยินดีให้คำปรึกษา รวมทั้งช่วยประเมินรูปปากให้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.vsquareclinic.com/