- ฟิลเลอร์ปาก
- 1. ฟิลเลอร์ปาก Restylane Kysse
- 2. ฟิลเลอร์ปาก Restylane Vital Light
- 3. ฟิลเลอร์ปาก Restylane Volyme
- 4. ฟิลเลอร์ปาก Restylane Refyne
- 5. ฟิลเลอร์ปาก Juvederm Ultra Plus
- 6. ฟิลเลอร์ปาก Juvederm Voluma
- 7. ฟิลเลอร์ปาก Juvederm Volift
- 8. ฟิลเลอร์ปาก Juvederm Volite
- 9. ฟิลเลอร์ปาก Belotero Volume
- ฉีดฟิลเลอร์ปากที่ไหนดี?
- สรุป
ฟิลเลอร์ปาก
เทรนด์ฉีดฟิลเลอร์ปากถือว่ามาแรงสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นในหมู่ดารา เซเลป อินฟลูเอ็นเซอร์ หรือคนทั่วไป โดยทรงปากที่นิยมก็คือการเติมเนื้อปากให้ริมฝีปากอวบอิ่มขึ้น เซ็กซี่มากขึ้น เป็นกระจับ เวลาพูดหรือยิ้มก็จะดูมีเสน่ห์ และยังทำให้ใบหน้าพุ่ง ดูมีมิติมากขึ้นอีกด้วย
สำหรับใครที่สนใจการฉีดฟิลเลอร์ปาก และยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ยังไม่รู้ว่าแต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร ในบทความนี้เรามี 9 รุ่นฟิลเลอร์ปาก มาแนะนำ รุ่นไหนจะเหมาะกับทรงปากแบบไหน อยู่ได้นานเท่าไหร่ ไปดูกันเลย
1. ฟิลเลอร์ปาก Restylane Kysse
มาที่ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อแรกที่ไม่รู้จักไม่ได้ กับฟิลเลอร์ปาก Restylane Kysse โดยบริษัทกัลเดอร์มา เป็นฟิลเลอร์สัญชาติสวีเดนที่เพิ่งมีการเปิดตัวใหม่ล่าสุด มีคุณสมบัติเด่นคือเป็นฟิลเลอร์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับฉีดปากโดยเฉพาะ
ลักษณะเนื้อฟิลเลอร์ Restylane Kysse คือเป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ฉีดแล้วเนียนกลืนไปกับริมฝีปาก มีความคงตัว สามารถช่วยสร้างขอบริมฝีปากให้ชัดเจนขึ้น เพิ่มความความชุ่มชื้น เติมความอวบอิ่ม และปรับสีปากให้ดูสดใสอมชมพูขึ้นได้ สามารถตอบโจทย์ 3 ทรงปากยอดนิยมของผู้หญิงไทย ได้แก่ Sexy KYSSE, Cherry KYSSE และ Classy KYSSE อยู่ได้นาน 12 เดือน
2. ฟิลเลอร์ปาก Restylane Vital Light
ฟิลเลอร์ปาก Restylane Vital Light เป็นรุ่นที่เนื้อมีความละเอียดสูง ไม่แข็ง ฉีดแล้วจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแก้ไขปัญหาริมฝีปากแห้ง ปากเป็นร่อง ทาลิปแล้วตกร่อง โดยที่ไม่ต้องเพิ่มความหนาของริมฝีปากมาก หลังฉีดปากจะดูมีน้ำมีนวล ฉ่ำวาว อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
3. ฟิลเลอร์ปาก Restylane Volyme
ฟิลเลอร์ปาก Restylane Volyme เป็นรุ่นที่มีเนื้อนิ่มปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง สามารถอุ้มน้ำได้ดี ฉีดแล้วฟูสวยดูเป็นธรรมชาติ ไม่บวม ไม่เป็นก้อน เหมาะกับการฉีดเพื่อช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยลึกที่เกิดจากการยิ้ม ฉีดมุมปาก อยู่ได้นาน 18 เดือน
4. ฟิลเลอร์ปาก Restylane Refyne
ฟิลเลอร์ปาก Restylane Refyne เป็นรุ่นเนื้อนิ่ม โดยเนื้อเจลมีลักษณะยืดหยุ่น สามารถเติมเต็มให้ปากอวบอิ่ม เหมาะกับผู้ที่มีผิวบาง ฉีดแล้วเนียนกลืนไปกับริมฝีปาก ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 12 เดือน
5. ฟิลเลอร์ปาก Juvederm Ultra Plus
ฟิลเลอร์ปาก Juvederm Ultra Plus เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ฉีดแล้วเนื้อเจลจะฟูมาก เหมาะกับคนที่ต้องการปากอวบอิ่มแบบฝรั่ง สายฝอ. ที่มีริมฝีปากหนา ๆ และเหมาะกับคนที่ต้องการแก้ปัญหาร่องลึก เนื้อปากน้อย จะช่วยให้ริมฝีปากเต็มสวยมากขึ้น เป็นทรง อยู่ได้นาน 12 เดือน
6. ฟิลเลอร์ปาก Juvederm Voluma
ฟิลเลอร์ปาก Juvederm Voluma เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง เนื้อเจลแน่น ฉีดแล้วฟูปานกลาง คงตัว เรียบเนียน ไม่ไหล ปั้นทรงได้ง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปากอวบอิ่มและอยู่ได้นาน โดยหลังฉีดจะอยู่ได้นาน 18 เดือน
7. ฟิลเลอร์ปาก Juvederm Volift
ฟิลเลอร์ปาก Juvederm Volift เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความละเอียดและยืดหยุ่นสูง ช่วยเติมเต็มร่องลึก ฉีดปากให้ได้รูปทรงแบบต่าง ๆ เหมาะกับคนผิวบาง หลังฉีดจะให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน อยู่ได้นาน 12 เดือน
8. ฟิลเลอร์ปาก Juvederm Volite
ฟิลเลอร์ปาก Juvederm Volite เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ใช้สำหรับฉีดในผิวชั้นตื้น ฉีดปากเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาปากแห้ง ลอก เป็นขุย พร้อมเพิ่มอวบอิ่มของริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
9. ฟิลเลอร์ปาก Belotero Volume
ฟิลเลอร์ปาก Belotero Volume เป็นฟิลเลอร์เนื้อแน่น มีความคงตัว ฉีดแล้วอยู่ทรง สามารถช่วยเพิ่ม Volume หรือเนื้อปากให้หนาขึ้นได้ เหมาะสำหรับทรงปากสายฝอ เพิ่มความอวบอิ่ม ทรงเซ็กซี่ อยู่ได้นาน 12-18 เดือน
ฉีดฟิลเลอร์ปากที่ไหนดี?
ในการฉีดฟิลเลอร์ปากให้ได้ทรงที่สวยงาม อยู่ได้นาน นอกจากการเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับทรงปากที่ต้องการ รวมไปถึงเหมาะกับผิวปากของแต่ละคน การเลือกคลินิกและแพทย์ที่ทำหัตถการก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยควรเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ปากที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข มีป้ายชื่อติดชัดเจน อยู่ในแหล่งที่คนพลุกพล่าน น่าเชื่อถือ
ส่วนการเลือกแพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์ ควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ สามารถออกแบบทรงปากที่เข้ากับใบหน้า รวมไปถึงเลือกรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะกับความต้องการ ฉีดแล้วเป็นทรง เนื้อฟิลเลอร์เรียบเนียนไปกับผิว ไม่เป็นก้อน ดูเป็นธรรมชาติ โดยสามารถเลือกแพทย์ได้จากการดูรีวิวของแพทย์คนนั้น ๆ ว่าฉีดมาแล้วผลลัพธ์เป็นอย่างไร ใช้เทคนิคอะไรบ้าง และไม่ควรดูแต่รีวิวที่เป็นรูปภาพเพียงอย่างเดียว เพราะตกแต่งได้ง่าย ควรดูรีวิวที่เป็นคลิปวิดีโอประกอบกัน เพื่อให้เห็นขั้นตอนการฉีด รวมไปถึงผลลัพธ์หลังทำอย่างชัดเจน
นอกจากนี้อีกปัจจัยที่จะทำให้ฟิลเลอร์ปากที่ฉีดมาอยู่ได้นานขึ้น คือการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงดกด บีบ นวด หรือพยายามจะปั้นทรงปากด้วยตัวเอง โดยเฉพาะในช่วงแรก ๆ หลังฉีดปาก เนื่องจากฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ดี อาจทำให้เนื้อฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง และปากเสียรูปทรงได้ ส่วนการดื่มน้ำเยอะ ๆ ก็จะช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์ฟูสวย อยู่ได้นานขึ้น
สรุป
เพื่อให้การฉีดฟิลเลอร์ปากออกมาแล้วได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ปลอดภัย ปากเป็นทรงอย่างที่ต้องการ ควรพิถีพิถันในการเลือกคลินิก เลือกหมอ อย่าเห็นแก่ราคาถูกเป็นสำคัญ เพราะอาจทำให้เจอฟิลเลอร์ปลอม คลินิกเถื่อน หมอกระเป๋า ที่หากฉีดฟิลเลอร์แล้วทำให้เกิดอันตราย จากที่จะสวยกลายเป็นต้องแก้ไข เสียทั้งเงิน ทั้งเวลา แถมยังเสียความมั่นใจอีกด้วย