- เสริมจมูก
- เสริมจมูกมีกี่แบบ ?
- แก้จมูกชมพู่ ให้เรียวเล็ก ต้องทำยังไง?
- การเสริมจมูก ตอกฐานจมูก คืออะไร? ทำแล้วดีอย่างไร?
- ซิลิโคนเสริมจมูกทั้งหมดมีกี่ประเภท
- การเสริมจมูกด้วยการใช้กระดูกอ่อนของตัวเอง
- จะเลือกทรงจมูกแบบไหน ให้เหมาะกับใบหน้า
- การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเสริมจมูก
- การดูแลตัวเองหลังเข้ารับการผ่าตัดเสริมจมูก
- อาการที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในช่วง 7 วันแรก หลังการแก้จมูก
เสริมจมูก
การเสริมจมูก หรือ การเสริมดั้ง เป็นการทำศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมทำกันมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน จนทุกวันนี้เทคนิคในเรื่องการทำจมูกพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด จนสามารถช่วยเนรมิตให้ใบหน้าดูมีมิติโดดเด่น และสวยสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
จนใครหลายคนมองว่าการเสริมจมูกเป็นเรื่องเล็กนิดเดียวที่สามารถตัดสินใจทำได้เลย แต่ความจริงแล้วก่อนจะตัดสินใจเสริมดั้งควรมีการศึกษาข้อมูลให้ครบทุกด้านให้เข้าใจเป็นอย่างดีก่อน เพื่อเลือกรูปทรงจมูกที่เหมาะกับใบหน้า สวยงาม และปลอดภัยมากที่สุด
เสริมจมูกมีกี่แบบ ?
เสริมจมูก ในวงการแพทย์ผ่าตัดศัลยกรรม จะแบ่งออกเป็น 2 วิธี ได้แก่
1.การเสริมจมูกแบบเปิด (Open Technique)
2.การเสริมจมูกแบบปิด (Closed Technique)
- เสริมจมูก แบบเทคนิคเปิด / แก้จมูก ปรับโครงสร้างจมูก โดยตรง
(Open Structural Reconstructive Rhinoplasty / Open technique)
เป็นวิธีการเสริมจมูกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในวงศัลยแพทย์ทั่วโลก โดยเฉพาะในฝรั่งเช่นชาวยุโรป ที่จะมีลักษณะจมูกที่โด่งกว่าคนแถบเอเชีย และมักพบว่ามีจมูกงุ้ม มีกระดูกฮัมพ์นูนที่จมูก มีความคดเอียงที่ฐานจมูก หรือบางรายปลายจมูกโด่งมากเกินไป อีกทั้งในเกาหลีก็นิยมวิธีปรับโครงสร้างจมูกด้วยเทคนิคเปิดเช่นกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์จมูกที่เข้าทรงสวยงามตามความต้องการ
โดยการแก้จมูกตามปัญหาต่างๆ ข้างต้นนี้นิยมใช้วิธีแก้จมูกแบบโอเพ่น หรือเทคนิคเปิด เพื่อทำการปรับโครงสร้างจมูกโดยตรง การผ่าตัดจะเปิดแผลเพียงขีดเล็กๆ ประมาณ ½ เซนติเมตรภายในรูจมูกทั้ง 2 ข้าง และตรงกึ่งกลางรูจมูก
การทำจมูกเทคนิคเปิดจะมีความยากและซับซ้อนกว่า ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้หลังผ่าตัด ทั้งนี้คนไข้ควรพิจารณาเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในเทคนิคนี้โดยตรง
หรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติม : ข้อดี ของการเสริมจมูกแบบเปิด ที่หลายคนยังไม่รู้
- เสริมจมูก แบบเทคนิคปิด ด้วยซิลิโคน หรือวัสดุอื่นที่คล้ายกัน
(Augmentation Rhinoplasty / Closed technique)
แบบที่สองคือ การเสริมจมูกแบบปิด เป็นวิธีการเสริมดั้งที่เหมาะกับจมูกไม่มีปัญหาโครงสร้างพื้นฐาน และต้องการเพิ่มสันจมูกให้โด่งยิ่งขึ้นและการเติมปลายจมูก ใช้เวลาผ่าตัดเพียง 30 ถึง 60 นาที และเป็นการผ่าตัดเล็กที่เรียกได้ว่าเจ็บตัวน้อย สวยไว แถมราคาถูก จึงเป็นการทำจมูกที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย ทั้งนี้มีข้อจำกัดบ้างในบางเรื่อง ได้แก่
– แก้ไขปัญหาจมูกได้ในบางกรณีเท่านั้น แต่กรณีปัญหาคนไข้ที่มีจมูกงุ้มเกินไป หรือจมูกสั้นมาก หรือกรณีคนไข้เคยผ่านการผ่าตัดทำจมูกมาแล้วหลายครั้งแต่ยังไม่จบ เทคนิคแบบปิดนี้จะไม่สามารถแก้ปัญหาได้
– ต้องพิจารณาปริมาณของเนื้อเยื่อจมูกร่วมด้วยว่ามีมากแค่ไหน ซึ่งอาจจะทำทรงได้ไม่โด่งพุ่งเท่ากับการเสริมจมูกด้วยเทคนิคแบบเปิด
ทั้งนี้ การเสริมจมูกด้วยเทคนิคแบบปิด มักจะนิยมนำเอากระดูกอ่อนหลังหู หรือเนื้อเยื่อไขมันของตัวคนไข้เอง มารองตรงบริเวณปลายจมูก เพื่อลดความเสี่ยงจมูกทะลุ โดยช่วยเพิ่มความหนาของเนื้อเยื่อจมูกได้ จึงเป็นวิธีที่สวยอย่างปลอดภัย
หรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติม : ข้อดี ของการเสริมจมูกแบบปิด ที่ใครหลายคนยังไม่ทราบ !
3 เรื่องที่ต้องรู้ ! แก้จมูกอย่างไรให้ปัง ครั้งเดียวจบ
ปัจจุบันนี้สาว ๆ จำนวนมากกำลังมองหา คลินิกแก้จมูกที่สามารถทำทรงได้สวยถูกใจ
แต่รู้หรือไม่ว่าจะแก้จมูกอย่างไร ถึงจะจบ ไม่มีคำว่าแก้รอบหน้าอีกต่อไป !?
“แก้จมูกให้จบ ต้องแก้ให้ตรงจุด”
แก้จมูก / เสริมจมูก ทรงสโลปปลายพุ่ง ด้วยเทคนิคเปิด ให้ดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ และปลอดภัย
หรือเข้ารับคำปรึกษา โดยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงด้านศัลยกรรมได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
แก้จมูกชมพู่ ให้เรียวเล็ก ต้องทำยังไง?
จมูกชมพู่ / ปลายจมูกใหญ่ (จมูกใหญ่จากโครงสร้างเดิม)
แก้ไขโดย ผ่าตัดแบบเปิด เพื่อทำให้จมูกเรียวเล็กขึ้น ด้วยการตัดแต่ง เล็มกระดูกอ่อนส่วนปลายที่ใหญ่เกินไปโดยตรง + ร่วมกับการเลาะพังผืดออก
การเสริมจมูก ตอกฐานจมูก คืออะไร? ทำแล้วดีอย่างไร?
การผ่าตัดแก้จมูกเพื่อ ตอกฐานจมูก ด้วยเทคนิคเฉพาะของ We clinic
จมูกฮัมพ์ (Hump nose)
จมูกฮัมพ์ คืออะไร ? : การสังเกตว่าเป็นจมูกฮัมพ์หรือไม่ ดูได้จากบริเวณสันจมูก จะมีกระดูกนูนเป็นหลังเต่า มีความไม่เรียบ บางคนที่มีฮัมพ์นูนมาก จะทำให้จมูกยิ่งคดเอียง ซึ่งมักพบร่วมกับการมีปลายจมูกงุ้ม ส่งผลให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย ดูมีอายุ หรือหน้าดุมากไป
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม : เสริมจมูก ตอกฐานจมูก คืออะไร? ทำแล้วดียังไง?
ซิลิโคนเสริมจมูกทั้งหมดมีกี่ประเภท
อีกคำถามยอดฮิตที่สาวๆ ที่อยากได้จมูกสวยแบบดารา/ไอดอลชื่อดังในดวงใจ มักจะสอบถามขอคำปรึกษาจากคุณหมอก่อนจะตัดสินใจทำก็คือ ควรเลือกใช้ซิลิโคนแบบไหนดี ซึ่งจากที่เคยลองสอบถามกับคลินิกทำจมูกหลาย ๆ ที่ก็มักจะได้รับคำตอบที่แตกต่างกันไป ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะเชียร์ให้คนไข้เลือกใช้ซิลิโคนที่ทางคลินิกแห่งนั้นนำมาใช้
อันที่จริงในปัจจุบันนี้ซิลิโคนมีให้เลือกหลายเกรดมาก โดยหลักๆ จะนำเข้ามาจากประเทศต่าง ๆ เช่น อเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี ซึ่งซิลิโคนแต่ละแบบก็จะมีทั้งความนิ่ม ความแข็งที่แตกต่างกันไปอีก โดยในแต่ละแบบก็จะมีข้อดี – ข้อเสีย และความเหมาะสมในแต่ละคน แตกต่างกันออกไป อีกทั้งในเรื่องราคาซิลิโคนของแต่ละประเทศก็ไม่เหมือนกันอีกด้วย ดังนั้นจึงควรศึกษาหาข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบให้ดี ก่อนตัดสินใจว่าจะเลือกใช้ซิลิโคนแบบไหนดี
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม : ( ซิลิโคนแต่ละแบบ มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร อยากสวยต้องอ่าน )
การเสริมจมูกด้วยการใช้กระดูกอ่อนของตัวเอง
การเสริมจมูกนอกเหนือจากการใช้ซิลิโคนเสริมเข้าไปแล้ว ในยุคนี้วิวัฒนาการได้ก้าวหน้าไปมากจนเกิดความนิยมที่จะทำดั้งโดยการใช้กระดูกอ่อนของตัวคนไข้เองมาเสริมจมูกมากขึ้น ซึ่งกระดูกอ่อนจาก 3 ตำแหน่งดังต่อไปนี้ คือบริเวณที่ศัลยแพทย์นิยมนำมาใช้ในการตกแต่งเสริมจมูก
1.กระดูกอ่อนหลังใบหู
กระดูกอ่อนหลังใบหูเป็นตำแหน่งที่นิยมนำมาใช้ในการเสริมจมูกมากที่สุด เนื่องจากช่วยเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงที่ซิลิโคนจะทะลุจมูก โดยนำกระดูกอ่อนหลังใบหูมาใส่รองไว้บริเวณปลายจมูก เพิ่มความหนาของเนื้อเยื่อบริเวณจมูก และป้องกันไม่ให้ซิลิโคนไปสัมผัสโดยตรงกับผิวที่ปลายจมูก
ซึ่งคุณหมอจะทำการผ่าตัดนำกระดูกอ่อนออกมาจากเบ้าในใบหูของคนไข้ โดยไม่ให้รูปทรงใบหูของคนไข้ผิดเพี้ยนไปจากเดิม โดยสามารถนำกระดูกอ่อนจากหลังหูมาใช้ได้ทั้ง 2 ข้าง ซึ่งกระดูกอ่อนจะมีความโค้งงอเล็กน้อยเหมาะกับการนำมาใช้ประกอบกับการเสริมจมูกด้วยซิลิโคน
2.กระดูกอ่อนผนังกั้นจมูก (Septum)
ในการผ่าตัดของฝรั่งและชาวต่างชาติ ถือว่าหากต้องการผ่าตัดเพื่อปรับโครงสร้างจมูก ควรเลือกใช้กระดูกอ่อนบริเวณผนังกั้นจมูกเป็นมาตรฐานอย่างแรก ซึ่งขั้นตอนการผ่าตัดทั้งหมดจะรวมอยู่ในการเปิดจมูกเพียงครั้งเดียว โดยไม่ต้องผ่าตัดเปิดแผลในตำแหน่งอื่นอีก จึงถือเป็นข้อดีมาก ๆ วิธีนี้เหมาะกับคนไข้ที่มีปลายจมูกงุ้ม โครงสร้างจมูกไม่แข็งแรง จมูกไม่พุ่ง ไม่โด่ง
วิธีนี้ใช้ในการแก้จมูกเทคนิคเปิด ซึ่งเป็นการยืดผนังกั้นจมูก แพทย์จะผ่าตัดนำกระดูกอ่อน septum ซึ่งอยู่ตรงบริเวณกึ่งกลางระหว่างรูจมูกทั้ง 2 ข้างออกมาเพียงบางส่วน แล้วนำมาวางในตำแหน่งที่จะเสริมเพื่อต่อเติมโครงสร้างจมูกให้ดูยาวและแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ปลายจมูกจึงพุ่งสวยงามมากขึ้น
3.กระดูกอ่อนซี่โครง
เทคนิคการทำดั้งด้วยกระดูกอ่อนซี่โครง เป็นวิธีการที่หลายคนต่างเคยได้ยินกันมานานมากแล้ว ขั้นตอนคือคุณหมอจะทำการผ่าตัดเปิดแผลที่ใต้ราวนม ความยาวประมาณ 2-3 เซนติเมตร ผ่าเลาะเพื่อนำเอาชิ้นส่วนกระดูกซี่โครงอ่อนขนาด 3-5 เซนติเมตรโดยประมาณ มาใช้การเสริมจมูกให้โด่งมากขึ้น โดยการเสริมจมูกด้วยเทคนิคนี้ต้องมีการดมยาสลบร่วมด้วย และต้องทำโดยแพทย์ผู้ซึ่งมีความชำนาญสูง จึงใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดค่อนข้างนาน
จะเลือกทรงจมูกแบบไหน ให้เหมาะกับใบหน้า
“ทรงหยดน้ำ” คือ ทรงจมูกสวยที่ได้รับความนิยมแบบสุด ๆ เป็นการตกแต่งโดยเสริมปลายของจมูกให้ยาวเพิ่มขึ้น โดยมีรูปทรงคล้าย ๆ กับหยดน้ำ จมูกรูปทรงนี้เหมาะกับคนที่มีเนื้อจมูกอยู่พอสมควรแล้วและมีรูปจมูกยาวอยู่แล้วเป็นทุนเดิม
ส่วนทรงจมูกยอดนิยมอีกทรงหนึ่งที่ฮิตพอ ๆ กันก็คือ “ทรงสโลปปลายพุ่ง” ซึ่งเหมาะกับคนที่มีปัญหาดั้งจมูกไม่สมส่วนหรือดั้งไม่โด่ง เป็นทรงที่ฮิตมากในบรรดาดาราไทยและเกาหลี เมื่อทำออกแล้วจมูกทรงปลายพุ่งจะทำให้ดูมีสันจมูกที่สวยคมได้รูป และปลายจมูกที่พุ่งจะช่วยให้ปลายจมูกดูเรียวเล็กลง ทำให้ใบหน้าสวยหวานขึ้น และช่วยให้หน้าดูเด็กลงได้อีกหลายปี
อ่านเพิ่มเติม : 7 ทรงจมูกสุดฮิตที่สาว ๆ นิยมทำมากที่สุด 2020 |
อ่านเพิ่มเติม : ทำจมูกทรงไหนดี รวมทรงจมูกปัง ๆ ทั้งหยดน้ำ ปลายพุ่ง ปลายเชิ่ด เริ่ดๆ เซฟไว้ให้คุณหมอ
ทั้งนี้การจะเลือกทรงจมูกเพื่อให้คุณหมอทำให้ ไม่ใช่แค่เลือกทำตามแบบดารานักร้องที่ตัวเราชื่นชอบแต่เพียงอย่างเดียว ควรพิจารณาถึงปริมาณเนื้อจมูกเดิมและรูปหน้าของตัวเราเองด้วยว่าจะเหมาะกับการทำจมูกแบบไหน รูปทรงไหน เนื่องจากทรงจมูกเดียวกัน ไม่ใช่ว่าทุกคนทำออกมาจะสวยเหมือนกันหมด
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเสริมจมูก
ข้อสำคัญที่จะลืมไปไม่ได้เลยก็คือ ควรเข้าพบศัลยแพทย์พร้อมแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพอย่างครบถ้วน เช่น กำลังรับประทานยาตัวไหนอยู่บ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาในกลุ่มแอสไพริน และไอบิวโพรเฟน ประวัติแพ้ยาและโรคประจำตัว เพื่อให้คุณหมอทราบข้อมูลประวัติและนำไปใช้ในการวางแผนผ่าตัดได้อย่างปลอดภัยมากที่สุด ส่วนตัวคนไข้เองควรดูแลสุขภาพให้พร้อมก่อนเข้ารับการผ่าตัดเสริมจมูก เช่น
- ควรงดสูบบุหรี่ และงดดื่มเครื่องดื่มจำพวกแอลกอฮอล์
- ควรงดกินอาหารประเภทของหมักดอง ซึ่งเป็นของแสลง
- ควรงดกินอาหารทะเล
- ควรงดรับประทานวิตามินอาหารเสริมทุกชนิด
- ควรสระผมก่อนให้เรียบร้อยก่อนเข้ารับการผ่าตัด และงดการแต่งหน้า
- รับประทานอาหารก่อนเดินทางมาผ่าตัดได้ โดยไม่ต้องงดน้ำ หรืองดอาหาร
การดูแลตัวเองหลังเข้ารับการผ่าตัดเสริมจมูก
เมื่อเข้ารับการผ่าตัดทำจมูกเรียบร้อยแล้ว การปฏิบัติตัวในช่วงพักฟื้นหลักการผ่าตัดเสริมหรือแก้จมูกนั้นมีความสำคัญมาก ซึ่งคนไข้ควรศึกษาข้อมูลรายละเอียดให้ดีก่อนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง
- ให้ประคบเย็นบริเวณหน้าแต่ไม่ใช่ตรงบริเวณแผล ในช่วงหลังผ่าตัด 72 ชั่วโมงแรก เพื่อช่วยทำให้เลือดหยุดไหลเร็วขึ้น และช่วยให้อาการบวมยุบไวขึ้น และควรนอนยกศีรษะสูงเพื่อป้องกันการเกิดเลือดคั่งในโพรงจมูก
- หากมีเลือดไหลออกมานั้นภายใน 1-2 วันหลังจากที่ได้เข้ารับการผ่าตัด ให้ใช้ไม้พันสำสีชุบน้ำเกลือเช็ดออกเบาๆ พร้อมป้ายยาฆ่าเชื้อตามที่คลินิกจัดให้
- เมื่อแผลเริ่มจะสนิท หลังผ่าตัด 72 ชั่วโมง สามารถทำการประคบอุ่นเพื่อลดรอยช้ำที่มักเกิดเป็นสีเขียวหรือม่วง
- ควรงดการสูบบุหรี่ และงดการดื่มเครื่องดื่มจำพวกแอลกอฮอล์ ในช่วงระยะเวลา 1 เดือนหลังผ่าตัด เนื่องจากมีผลต่อการสมานแผลที่อาจทำให้แผลหายช้าลง
- หลีกเลี่ยงการขยี้บริเวณจมูก หรือการแคะ แกะ เกา งดเว้นการเล่นกีฬาแบบหนัก ๆ เพราะเนื้อบริเวณจมูกยังคงไม่แข็งแรง
ช่วงระยะเวลา 1 เดือนแรกหลังเข้ารับผ่าตัดเสริมจมูกถือเป็นช่วงเวลาที่คนไข้ต้องดูแลตนเองให้ดีที่สุด ซึ่งที่ We clinic จะมีเอกสารใบคำแนะนำการปฏิบัติตัว เช่น ควรระวังเรื่องการกดทับ และการกระทบกระแทกบริเวณจมูก
อาการที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในช่วง 7 วันแรก หลังการแก้จมูก
- บ้วนปากแล้วอาจรู้สึกว่ามีเลือดลงคอ รวมถึงเลือดออกจมูก อาจเป็นลักษณะเลือดสีแดงซึมๆ หรือเป็นก้อนเลือดแข็งติด
- ใต้ตาช้ำบวม หรือใบหน้าอาจบวมขึ้นได้
- การยุบบวมของทั้งสองข้างอาจจะไม่เท่ากัน ซึ่งอาจทำให้จมูกดูเบี้ยว แต่ไม่ต้องกังวลเพราะจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ
- บริเวณหัวตาอาจมีอาการบวม จนทำให้บริเวณสันจมูกดูสูงกว่าที่คาดไว้ แต่ไม่ต้องกังวล เพราะอาการบวมจะค่อยๆยุบลง จนสวยอย่างเป็นธรรมชาติ
- ในบางรายอาจจะรู้สึกอึดอัดจมูก และรู้สึกตึงๆ บริเวณแผลผ่าตัด นานกว่า 3 เดือน อันเนื่องมาจากเนื้อเยื่อในบริเวณโพรงจมูกยังบวมอยู่
- ระยะเวลาที่จมูกจะเข้าที่ ใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน
ส่วนสาว ๆ คนไหนที่ยังไม่รู้ว่า ทำจมูกที่ไหนดี ถึงจะได้จมูกสวย อย่างปลอดภัย เราขอแนะนำที่นี่เลย We Clinic เป็นคลินิกเสริมจมูกในกรุงเทพ ที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด และมีประสบการณ์สูง อีกทั้งยังมีเทคนิคการเสริมจมูกที่เน้นทำให้สวยเข้ากับรูปหน้า ออกแบบให้รับกับสัดส่วนของใบหน้าคนไข้แต่ละท่าน ดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมทั้งเครื่องมือทางการแพทย์ที่สะอาด ทันสมัย ปลอดภัยได้มาตรฐานสูง สมกับที่เป็น We Clinic
ขอบคุณข้อมูลจาก https://kellyplasticsurgery.com/ | https://weclinicbkk.com/