เบื่ออาการปวดเมื่อยเนื้อตัวกันมั้ยคะ จะเดิน จะนั่ง หรือจะทำอะไรก็ตาม ก็รู้สึกเมื่อยไปหมด เป็นอุปสรรคต่อการการดำเนินชีวิตประจำวันสุดๆ ยิ่งถ้าเป็นพนักงานออฟฟิศ ก็เสี่ยงที่จะเป็นออฟฟิศซินโดรมอีก ถ้าดูแลร่างกายไม่ดี ซึ่งเราสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไรบ้าง เราขอเสนอกายทำกายภาพบำบัดกับ คลินิกกายภาพบำบัด เพื่อรักษาอาการปวดเหล่านี้ให้หายเป็นปลิดทิ้ง
มาทำความรู้จักกับคำว่า กายภาพบำบัด
การทำกายภาพบำบัด หรือ Physical Therapy เป็นการรักษาทางกายภาพอย่างหนึ่ง โดยการรักษาทางกายภาพ มีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ การผ่าตัด และการทำกายภภาพบำบัด การผ่าตัดเหมาะกับการรักษาอาการที่รุนแรง แต่การทำกายภาพบำบัดจะเป็นการช่วยบำบัดความผิดปกติของร่างกาย ทั้งส่วนกระดูก และกล้ามเนื้อ เหมาะกับกรณีที่อาการยังไม่หนักร้ายแรง และเหมาะสำหรับใช้เป็นการรักษาที่ใช้ฟื้นฟูสภาพร่างกาย ซึ่งก็ต้องทำควบคู่ไปหลังจากการผ่าตัด ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการทำกายภาพบำบัดนี่สำคัญมากเลยนะคะ ถ้าให้ดีที่สุดแล้ว รักษาแต่เนิ่นๆในตอนที่อาการยังไม่รุนแรงดีกว่า
กายภาพบำบัด ทำที่จุดไหนได้บ้าง
การทำกายภาพบำบัดสามารถรักษาได้หลายจุดเลย ได้ตั้งแต่หัวจรดเท้าเลย ทั้งหัว คอ บ่า ไหล่ แขน ขา เข่าสะโพก ซึ่งที่คลินิกกายภาพบำบัด มีรูปแบบการรักษาที่หลากหลายมาก ตั้งแต่กระบวนการรักษา และอุปกรณ์ที่ใช้ควบคู่ มั่นใจได้เลย ไม่ว่าเราจะมีอาการปวดแบบไหน ตรงส่วนไหนของร่างกาย เช่น ปวดไมเกรน เจ็บหลังจาก อาการกระดูกสันหลังคอ หรือปวดตามส่วนต่างๆจากออฟฟิศซินโดรม คลินิกกายภาพบำบัดสามารถใช้การทำกายภาพบำบัด รักษาได้
อุปกรณ์ช่วยในการกายภาพบำบัดของคลินิกกายภาพบำบัด
อุปกรณ์ที่ช่วยเสริมการทำกายภาพบำบัดให้มีประสิทธิภาพ ก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้คนไข้หายได้ไวขึ้น คลินิกกายภาพบำบัดจึงมีอุปกรณ์หลายชนิดเพื่อตอบสนองต่ออาการปวดที่มีหลายแบบเช่นกัน โดยอุปกรณ์ที่มีก็จะมีดังนี้
- เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า : ช่วยคลายกล้ามเนื้อที่อยู่ตามแนวกระดูกสันหลัง
- เครื่องคลื่นอัลตร้าซาวด์ : ช่วยลดอาการปวด เพิ่มการไหลเวียนของเลือดในชั้นกล้ามเนื้อ
- เครื่องเลเซอร์กำลังสูง : ช่วยลดอาการปวด มีการใช้มากขึ้นเนื่องจากลงลึกถึงตำแหน่งที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด และช่วยกระตุ้นช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด ชะลอการฝ่อลีบของกล้ามเนื้อ
- เครื่องรักษาด้วยคลื่นกระเแทก : ใช้แรงอัดอากาศปริมาณสูง โดยคลื่นจะเคลื่อนตัวด้วยความเร็วเหนือเสียง ทำให้เกิดพลังกดอัดที่มีลักษณะเฉพาะ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด การสร้างเซลล์เนื้อเยื่อ และช่วยสลายหินปูนในเส้นเอ็น
- เครื่องแม่เหล็กไฟฟ้า : ช่วยฟื้นฟูรากประสาทตามแนวกระดูกสันหลัง และช่วยลดอาการชาบริเวณขาได้
- เครื่องดึงหลังดึงคอ : ช่วยเพิ่มช่องว่างระหว่างกระดูกสันหลัง ลดการทับของหมอนรองกระดูก
ขั้นตอนการทำกายภาพบำบัดกับคลินิกกายภาพบำบัด
หากเลือกจะเข้ารับการรักษาด้วยกายภาพบำบัด ก่อนอื่นเลยก็ต้องโทรนัดคิวให้เรียบร้อยก่อนนะคะ เพราะการ walk in เข้าไปเลย อาจจะไม่ได้รับการรักษาได้ในทันที ถ้าคิวของนักกายภาพบำบัดไม่ว่าง ดังนั้นจองให้เรียบร้อยก่อน เพื่อจะได้ไม่ไปเสียเที่ยวนะคะ
- ขั้นตอนแรกนี้มีการเพิ่มขึ้นมา เนื่องจากสถานการณ์โควิดยังไม่ดีขึ้น จึงต้องมีมาตราการป้องกันที่รัดกุม โดยต้องมีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และการซักประวัติคัดกรองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด ก่อนเข้าไปยังจุดต่อไปยัง
- หากเป็นคนไข้ใหม่จะต้องทำการลงทะเบียนประวัติก่อนนะคะ และซักถามประวัติ และอาการเบื้องต้นก่อน ต่อจากนั้น จะต้องเปลี่ยนเป็นชุดปลอดเชื้อ ก่อนเข้ารับการรักษา
- นักกายภาพบำบัดจะทำการประเมินร่างกายของเรา โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะทำการตรวจเฉพาะจุด หรือตรวจทั้งหมดเลย
- หลังจากได้ข้อสรุปแล้ว ว่ามีอาการอะไรบ้าง ทางนักกายภาพบำบัดจะทำการชี้แจง ว่าจะใช้วิธีไหนในการรักษาเรา เพื่อถามความจำนงก่อนเริ่มทำการรักษา
- เริ่มขั้นตอนการรักษา ซึ่งแต่ละวิธีก็มีความแตกต่างกันออกไป
- หลังจากรักษาของวันนี้เสร็จ จะมีการนัดหมายในครั้งถัดไป เพราะการทำกายภาพบำบัดไม่สามารถรักษาให้หายสนิทได้ภายในครั้งเดียว ซึ่งก็ต้องมาตามนัดทุกครั้งนะคะ เพื่อจะได้หายไวๆ
ข้อควรระวังในการทำกายภาพบำบัด
การรักษาด้วยวิธีกายภาพบำบัด แม้ว่าจะมีความปลอดภัย แต่ก็มีสิ่งที่ควรต้องคำนึงอยู่นะครับ โดยสามารถสรุปเป็นข้อๆได้ดังนี้ครับ
- รักษาอย่างสม่ำเสมอ และครบตามกำหนด เพราะอาการบางอย่าง เช่น ออฟฟิศซินโดรม หรือ เส้นเลือดในสมองตีบกายภาพบําบัดก็สามรถรักษาได้ และอื่นๆ อาการเหล่านี้ไม่สามารถรักษาได้ในครั้งสองครั้ง หากนักกายภาพมีการนัดหมายว่าต้องมาให้ครบ กี่ครั้ง เราก็ต้องมาให้ครบนะคะ
- เลือกสถานที่รักษาที่ดี การทำกายภาพบำบัดจัดกระดูก การรักษากระดูกสันหลังเคลื่อน สิ่งเหล่านี้ต้องใช้ความชำนาญ และประสบการณ์ในการรักษา ถ้าได้คนที่ขาดประสบการณ์มารักษา อาจจะแย่ลงกว่าเดิม
การกายภาพบำบัดราคาเท่าไหร่
ราคาการทำกายภาพบำบัดของที่คลินิกกายภาพบำบัด จะมีดังนี้นะคะ
- การรักษาเฉพาะจุด ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 1,250 บาท
- การรักษาครอบคลุมทั้งตัวจะเริ่มต้นที่ 2,150 บาท
ซึ่งราคาของแต่ละคนจะไม่เท่ากันนะคะ ราคาจะปรับเปลี่ยนขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการแต่ละคน รวมไปถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการรักษา
สรุป
หวังว่าข้อมูลที่เรานำมาเสนอวันนี้ จะทำให้เพื่อนๆตัดสินใจกันได้ง่ายขึ้นนะคะ ว่าหากมีอาการปวดเมื่อยที่ผิดปกติแล้ว การทำกายภาพบำบัดจะเป็นอีกวิธีที่ช่วยแก้ไขปัญหาได้