โรคหน้าเบี้ยวครึ่งซีก (อัมพาตเบลล์) เป็นอย่างไร รักษาให้หายได้หรือไม่?
โรคหน้าเบี้ยวครึ่งซีก จัดเป็นอีกหนึ่งโรคที่ไม่ได้ถือว่าร้ายแรงถึงขั้นอันตรายต่อชีวิต และโรคนี้ก็เป็นโรคที่หลายคนไม่ค่อยรู้จักกันดีนัก และคาดไม่ถึงด้วยว่าจะมีผู้ป่วยโรคนี้ขึ้นจริง เพราะเป็นโรคที่ไม่ค่อยมีผู้ใดเป็นกันอย่างชัดเจนแพร่หลายเหมือนโรคอื่นๆ ทั่วไปนั่นเอง แต่สำหรับผู้ที่เป็นโรคนี้ ย่อมเกิดความกังวลใจและทรมานใจกับใบหน้าที่บิดเบี้ยว ไม่สวยงามเหมือนคนอื่น เราจึงนำข้อมูลเกี่ยวกับโรคนี้มาให้คุณได้ทำความรู้จักกัน โรคหน้าเบี้ยวครึ่งซีกคืออะไร รักษาได้หรือไม่ ตามไปดูคำตอบพร้อมๆ กันค่ะ โรคหน้าเบี้ยวครึ่งซีก คืออะไร? โรคหน้าเบี้ยวครึ่งซีก Bell’s palsy (อัมพาตเบลล์) เป็นโรคที่เกิดจากกล้ามเนื้อบนใบหน้ามีภาวะอัมพาตอย่างฉับพลัน ไม่สามารถยืดหดได้ตามคำสั่งจากสมอง ทำให้ใบหน้าครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยไม่สามารถตอบสนองหรือแสดงอารมณ์ต่าง ๆ ได้ โรคหน้าเบี้ยวครึ่งซีก อาจเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย โดยส่วนใหญ่แล้วโรคหน้าเบี้ยวครึ่งซีกมักเป็นอาการที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว อาการมักจะเริ่มดีขึ้นภายในสองถึงสามสัปดาห์ และจะมีการฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ภายในระยะเวลาประมาณ 6 เดือน จากจำนวนผู้ป่วยทั้งหมดมีเพียงจำนวนน้อยเท่านั้นที่ยังมีอาการหน้าเบี้ยวครี่งซีกอยู่ตลอดเวลา สาเหตุของโรคหน้าเบี้ยวครึ่งซีก สาเหตุที่แน่นอนของโรคหน้าเบี้ยวครึ่งซีกยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อกันว่าเป็นผลมาจากอาการอักเสบของเส้นประสาท ที่ควบคุมกล้ามเนื้อบริเวณด้านใดด้านหนึ่งของใบหน้า ทำให้กล้ามเนื้อเป็นอัมพาต นอกจากกล้ามเนื้อใบหน้า แล้วการอักเสบของเส้นประสาท ยังส่งผลต่อการควบคุมการหลั่งน้ำตาและน้ำลายอีกด้วย โดยการอักเสบที่เกิดขึ้นอาจเป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นหลังจากการติดเชื้อไวรัสก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น การติดเชื้อไวรัสเริม เชื้ออีสุกอีใสและงูสวัด เชื้อไวรัส Epstein-Barr การติดเชื้อ Cytomegalovirus การติดเชื้อ adenovirus ที่มักทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ หัดเยอรมัน คางทูม ไข้หวัดใหญ่ […]