ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคา เท่าไร ? ลดความหมองคล้ำ เติมเต็มใต้ตาสวย ตัวช่วยหน้าเด็ก

สารบัญ

เติมร่องลึกใต้ตา แก้ใต้ตาคล้ำ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาแพงไหม?

ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่เรามักใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกคลินิกฉีดเติมเต็มใต้ตา คนส่วนใหญ่นิยมฉีด filler เพราะสามารถแก้ปัญหาบริเวณใต้ตาที่ยุบตัวลงให้ดูเต็มตื้นขึ้นได้ ลดปัญหาใต้ตาดำ ความหมองคล้ำใต้ตาให้กลับมาสว่างสดใสยิ่งขึ้น เติมร่องใต้ตา ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น ให้ผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากผ่าตัดศัลยกรรม ไม่อยากเจ็บตัวเยอะ รวมทั้งคนที่ไม่มีเวลามากพอสำหรับการพักฟื้นหลังผ่าตัดค่ะ

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาในแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อก็จะแตกต่างกันออกไป อีกทั้งฟิลเลอร์แต่ละชนิดก็จะมีคุณสมบัติไม่เหมือนกัน อายุการใช้งานของฟิลเลอร์แต่ละตัวก็จะคงอยู่นานไม่เท่ากันด้วยค่ะ (ตั้งแต่ 6 เดือน ไปจนถึง 1.5 ปี)

ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา-ฟลุ๊ค-เกริกพล

โปรโมชั่น 2022 ที่ V Square Clinic ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาสุดคุ้มค่า ไม่แพงอย่างที่คิด

โปรโมชั่น ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาอัพเดทล่าสุด [2022]

ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาโปรโมชั่นทั้ง 3 ยี่ห้อ

ที่ V Square Clinic : ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา ยี่ห้อ/รุ่นต่าง ๆ 

 

ฟิลเลอร์ใต้ตาที่ V Square Clinic จะมีให้เลือกใช้หลากหลายรุ่นดังภาพค่ะ แนะนำให้เข้าไปพบแพทย์เพื่อช่วยประเมินสภาพใบหน้า วิเคราะห์ปัญหาผิวหน้า แพทย์จะช่วยให้คำแนะนำและแจ้งราคาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อให้เราทราบค่ะ โดยจะช่วยเลือกฟิลเลอร์ตัวที่สามารถแก้ปัญหาใต้ตาของคนไข้แต่ละเคสได้อย่างตรงจุดมากที่สุด

9 รุ่นของฟิลเลอร์ใต้ตาที่มีให้คนไข้เลือกใช้ ได้แก่

1.) 4 รุ่นของฟิลเลอร์ใต้ตา ที่นำเข้าจากประเทศสวีเดน มีดังนี้

  • ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Restylane รุ่น Perlane Lyft (สามารถคงอยู่ได้นาน 1 ปี)

ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา (1 CC) : 13,000.- บาท 

  • ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane รุ่น Defyne (สามารถอยู่ได้นาน 1 ปีครึ่ง)

ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา (1 CC) : 13,000.- บาท 

  • ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane รุ่น Vital Light (สามารถคงอยู่ได้นาน 6 เดือน – 1 ปี)

ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา (1 CC) : 13,000.- บาท 

  • ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane รุ่น Classic (สามารถคงอยู่ได้นาน 1 ปี)

ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา (1 CC) : 14,000.- บาท 

2.) 3 รุ่นของฟิลเลอร์ใต้ตา ที่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา มีดังนี้

  • ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Juvederm รุ่น Volite (สามารถคงทนอยู่ได้นาน 8 เดือน – 1 ปี)

ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา (1 CC) : 14,000.- บาท 

  • ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm รุ่น Voluma (สามารถคงอยู่ได้นาน 1 ปีครึ่ง)

ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา (1 CC) : 13,000.- บาท 

  • ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm รุ่น Volux (สามารถคงอยู่ได้นาน 1 ปีครึ่ง – 2 ปี)

ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา (1 CC) : 18,000.- บาท 

3.) ฟิลเลอร์ใต้ตา ตัวที่นำเข้าจากสวิตเซอร์แลนด์ ได้แก่

  • ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Belotero รุ่น Volume (สามารถคงอยู่ได้นาน 1 ปีครึ่ง)

ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา (1 CC) : 13,000.- บาท 

เลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี เพื่อแก้ปัญหาใต้ตาได้อย่างตรงจุดมากที่สุด? 

รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ V Square Clinic ที่ใช้อยู่เป็นประจำและแนะนำให้คนไข้ใช้ฉีดเติมเต็มใต้ตา ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาให้ดูดีขึ้นได้ จะมี 2 ยี่ห้อ ดังต่อไปนี้ค่ะ

1.) ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Restylane : รุ่น Perlane Lyft

Restylane รุ่น Perlane Lyft ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาจะอยู่ที่ 13,000.- บาท/1 CC  สำหรับยี่ห้อนี้ค่ะ แพทย์ที่คลินิกมักเลือกฉีดใต้ตาด้วยฟิลเลอร์ของ Restylane มาโดยตลอด เนื่องจากยี่ห้อนี้จะเน้นด้านการคงรูปของโมเลกุล หลังจากฉีดไปแล้วจะไม่ฟูมาก เหมาะสำหรับฉีดเพื่อช่วยทดแทนเรื่องกระดูกที่เกิดการยุบตัวในผิวหนังชั้นลึก

2.) ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Juvederm: รุ่น Voluma

Juvederm รุ่น Voluma ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาจะอยู่ที่ 13,000.- บาท/1 CC  ซึ่งฟิลเลอร์แบรนด์ Juvederm ในระยะหลังจะมีการพัฒนารุ่นใหม่ออกมาซึ่งฉีดแล้วไม่ค่อยฟูมาก 

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Restylane หรือ Juvederm ล้วนแล้วแต่เหมาะสมสำหรับการฉีดบริเวณใต้ตามากที่สุด เพราะฉีดแล้วจะไม่ค่อยฟูเยอะ อีกทั้ง 2 ยี่ห้อนี้มีความใกล้เคียงกันของลักษณะโมเลกุลด้วยค่ะ

ในการแก้ปัญหาใต้ตาแต่ละแบบ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาจะแตกต่างหรือไม่/อย่างไร?

สำหรับคนที่มีปัญหาขอบตาดำ หรือใต้ตาหมองคล้ำ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาก็จะไม่แพงเท่าการฉีดเพื่อเติมเต็มใต้ตาชั้นลึก ยกตัวอย่างเช่นในคนไข้บางเคสเพียงเติมฟิลเลอร์ใต้ตาในปริมาณแค่ 1 cc ก็สามารถจัดการปัญหาใต้ตาดำให้ดูสว่างสดใสขึ้นได้แล้ว ดังนั้น ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาจะเป็นเท่าไรนั้นเราต้องพิจารณาปัญหาใต้ตาของคนไข้เป็นสำคัญค่ะ

รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ลดริ้วรอย แก้ใต้ตาหมองคล้ำ ตัวช่วยหน้าเด็ก

รีวิว ฟิลเลอร์ใต้ตา ร่องแก้ม-2CC

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ดีไหม? แก้ปัญหาขอบตาดำ ใส่แมสแล้วไม่มั่นใจ คืนความสดใสให้ใบหน้า

จาก Youtube Channel: V Square Clinic

รีวิว ฟิลเลอร์ใต้ตา 3 CC

รีวิว ฟิลเลอร์ใต้ตา 3 CC ผู้ชาย

นอกจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาแล้ว ต้องพิจารณาเรื่องอะไรอีกบ้าง?

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ไหนดี

การเลือกว่าจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี นอกจากจะดูจากฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาแล้ว เรายังควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ประกอบด้วยค่ะ

  • ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับคลินิกที่มีใบรับรองอย่างถูกต้อง ได้มาตรฐาน เชื่อถือได้
  • ศึกษารีวิวจากคนไข้ที่เคยฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาก่อน เพื่อเลือกฉีดกับคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญ
  • สิ่งสำคัญคือ ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาทุกครั้งต้องตรวจสอบว่าเป็นฟิลเลอร์แท้
  • เลือกคลินิกที่มีรีวิวที่มีความเป็นกลางและน่าเชื่อถือ
  • หลังฉีดเติมใต้ตา แพทย์ต้องทำนัดเพื่อติดตามผล
  • เลือกฉีดกับคลินิกที่เดินทางสะดวก ไม่ไกลจากที่พักจนเกินไป มีที่จอดรถเพียงพอ 
  • คลินิกควรมีช่องทางการติดต่อทั้งเบอร์โทรศัพท์ และช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ให้สามารถสอบถามแพทย์เจ้าของเคสได้อย่างรวดเร็วหากมีกรณีเร่งด่วน

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตาแบบใดได้บ้าง?

ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับผลลัพธ์

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยลดถุงใต้ตา ลดริ้วรอยใต้ตา แก้ตาโหล แก้ขอบตาดำ

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาไม่สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ และยังช่วยแก้ปัญหาบริเวณใต้ตาต่าง ๆ อาทิเช่น

  1. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเพื่อแก้ปัญหาใต้ตาดำ ใต้ตาหมองคล้ำ หลังฉีดใต้ตาที่เคยหมองคล้ำจะดูจางลง ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้นกว่าเดิม
  2. จัดการกับปัญหาตาโหล ตาลึก ให้ดูตื้นขึ้น แก้ปัญหาหน้าดูเหนื่อยล้าเหมือนคนอดนอน
  3. ช่วยฟื้นคืนความอ่อนเยาว์ให้กลับสู่ใบหน้า ลดริ้วรอยเหี่ยวย่นรอบดวงตา ทั้งร่องลึก ริ้วตื้น ๆ ไปจนถึงตีนกา
  4. ช่วยฟื้นฟูผิวหนังใต้ตาที่เคยหย่อนคล้อย ช่วยลดถุงใต้ตา ให้ผิวใต้ตากลับมาเต่งตึง ดูเต็มตื้นขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาไม่ควรเลือกทำกับคลินิกที่ตั้งราคาไว้ถูกจนเกินไป เพราะเสี่ยงต่อการไปเจอเข้ากับฟิลเลอร์ปลอม หรือหมอกระเป๋า ถ้าเราไม่ตรวจสอบให้ดีก่อนแล้วพลาดไปฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเกิดการอักเสบติดเชื้อ ฟิลเลอร์ย้อยจนใบหน้าผิดรูป ฟิลเลอร์เกิดเป็นก้อนแข็งในภายหลัง บางรายโชคร้ายอาการหนักถึงขั้นเนื้อตายไปจนถึงตาบอด ทั้งยังต้องเสียเวลาและเสียเงินในการไปขูดฟิลเลอร์ปลอมออกจากใบหน้าให้ต้องเจ็บตัวซ้ำหลายรอบอีกด้วยค่ะ