ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน เพราะช่วยคืนความสดใสให้กับเจ้าของใบหน้าได้โดยไม่ต้องรอนาน สามารถแก้ไขปัญหาใต้ตาคล้ำ ริ้วรอยบริเวณใต้ตา ทำให้ใต้ตาที่ดูอ่อนล้า ให้กลับมาดูสดชื่น มีชีวิตชีวามากขึ้น
ดังนั้น เพื่อการดูแลตนเองหลัง ฉีดฟิลเลอร์ ใต้ตาเป็นไปอย่างถูกต้อง ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ รวมถึงช่วยส่งเสริมผลการรักษาให้ดีมากยิ่งขึ้น
(การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถแก้ไขปัญหาริ้วรอยใต้ตา ใต้ตาคล้ำ คืนความสดใสให้กับเจ้าของใบหน้า)
บทความนี้คุณหมอจะขออธิบายถึง ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา และข้อปฏิบัติที่ควรรู้ในบทความวันนี้ครับ
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีข้อห้ามอย่างไรบ้าง
เรื่องของอาหาร คือ ข้อห้ามหนึ่งหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา โดยในช่วงระหว่าง 14 วันหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คนไข้ควรงดรับประทานอาหารดังต่อไปนี้
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
- หลีกเลี่ยงการกินอาหารดิบ หรืออาหารหมักดอง
- หลีกเลี่ยงการกินอาหารประเภทรสจัด เช่น เผ็ดจัด เค็มจัด หวานจัด
- หลีกเลี่ยงการกินอาหารจำพวกชาบู หมูกระทะ ปิ้งย่าง ที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ เป็นเวลานาน
เมื่อฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเสร็จแล้ว คุณหมอจะติดพลาสเตอร์ให้ทันทีตามรอยเข็ม คนไข้สามารถแกะออกเองได้เมื่อครบ 1 ชั่วโมง อาการที่อาจเกิดขึ้นได้คือ บวมแดง คันในบริเวณที่ฉีด หรือเขียวช้ำ และเพื่อป้องกันการอักเสบติดเชื้อ จึงห้ามแตะ แกะ เกา นวดหรือกดตามจุดต่าง ๆ ที่ทำ
ซึ่งอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจะค่อย ๆ ดีขึ้นเองภายในระยะเวลา 2-3 วัน ทั้งนี้ ถ้าอาการบวมแดงยังไม่ดีขึ้นหลังจากครบ 3 วันไปแล้ว คนไข้ควรกลับมาพบคุณหมอที่คลินิกเพื่อตรวจดูอาการและจ่ายยาให้กลับไปรับประทานเพิ่มเติม
สำหรับข้อสงสัยอื่น ๆ ที่หลายคนมักสงสัยว่าเป็นข้อห้ามจริงหรือไม่นั้น ตัวอย่างเช่น แต่งหน้าได้เลยหรือไม่ หลังจากฉีดใต้ตาเสร็จ ห้ามล้างหน้า ห้ามทาครีมจริงไหม คุณหมอได้ให้ข้อมูลคำอธิบายไว้ ดังต่อไปนี้
- หลังจากฉีดฟิลเลอร์เสร็จแล้ว เราสามารถแต่งหน้าได้ตามปรกติ ไม่มีข้อห้ามแต่อย่างใด
- คนไข้สามารถล้างหน้าได้ โดยใช้สบู่อ่อน ๆ แต่ต้องระวังไม่ให้โดนน้ำเกิน 15 นาที
- ไม่ควรขัดหรือนวดหน้า ในขณะที่ล้างหน้า
- งดเว้นการทาครีมตรงบริเวณรอยเข็มที่ ฉีดfiller 1 คืน
- งดทำทรีทเม้นต์ หรือซาวน่า เป็นระยะเวลาประมาณ 14 วัน
- ควรพยายามอยู่ในที่อากาศเย็น เพื่อช่วยลดอาการบวมให้หายไวยิ่งขึ้น
- หากคนไข้เกิดอาการปวดระบมตามรอยเข็มในคืนแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา (ซึ่งอาจเกิดได้ในบางราย) สามารถทานยาแก้ปวดพาราเซตามอล (paracetamol) ที่ทางคลินิกให้ไปทุก ๆ 4 ชั่วโมงได้
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรปฏิบัติตัวอย่างไร? เพื่อผลลัพธ์ที่ดี คงอยู่ได้นาน
- ควรหนุนหมอนที่ศีรษะอย่างน้อย 2 ใบ เพื่อเป็นการนอนโดยให้หัวอยู่สูงกว่าหน้าอก และคนไข้ไม่ควรนอนตะแคง ใน 2-3 คืนแรกหลังทำควรหาหมอนข้างมากันไว้ทั้งฝั่งซ้ายและขวาเพื่อป้องกันการนอนที่กดทับใบหน้า
- หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรงดเว้นการสูบบุหรี่ เนื่องจากในบุหรี่ประกอบไปด้วยสารหลายชนิดที่ขยายหลอดเลือด จะส่งผลให้ผลลัพธ์ที่ได้จากการรักษาอยู่ได้สั้นลง และยุบบวมได้ช้าลงอีกด้วย
- เพื่อช่วยลดอาการบวม และป้องกันการติดเชื้อในภายหลัง จึงควรรับประทานยาที่คุณหมอจ่ายให้หลังทำอย่างต่อเนื่องและครบถ้วน
- ควรดื่มน้ำมาก ๆ วันละ 1.5-2 ลิตร เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นสารที่อุ้มน้ำ การดื่มน้ำปริมาณมาก ๆ ในแต่ละวันจะสามารถช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น รวมทั้งช่วยให้ฟิลเลอร์ฟู ได้รูปอีกด้วย
- ระหว่าง 3 วันแรกหลังฉีด คนไข้ไม่ควรขยับใบหน้าเยอะ เพราะอาจส่งผลให้ฟิลเลอร์ที่ทำไว้เคลื่อนผิดตำแหน่งได้
- การล้างหน้าควรใช้น้ำเย็น หลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น และไม่ควรสัมผัสกับความร้อนและแสงแดด
ต้องฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบ่อยแค่ไหน หากต้องการแก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตา และใต้ตาดำคล้ำ?
ตามปกติฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่น หากเป็นฟิลเลอร์แท้จะสามารถสลายไปเองได้หมดทั้ง 100% โดยไม่มีสารตกค้างครับ อีกทั้งคนไข้ยังสามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ด้วยตามความเหมาะสมที่แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาครับ
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถช่วยชะลอความแก่ที่จะปรากฏบนใบหน้า รวมทั้งปัญหาใต้ตาคล้ำ และริ้วรอยรอบดวงตา อันเกิดจากโครงสร้างกระดูกยุบตัวลงด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้น และแม้หยุดฉีดก็ไม่ได้ส่งผลให้ใบหน้าแย่ลงแต่อย่างใด ทั้งนี้ คุณหมอแนะนำให้ปฏิบัติตามข้อห้ามและข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างเคร่งครัดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยมากที่สุดครับ
ขอบคุณข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ เพิ่มเติมจากช่องทางนี้ https://www.prachachat.net/public-relations/news-537725
ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Filler
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.vsquareclinic.com/