ยาคุมกำเนิด ใช้บ่อยเสี่ยงสุขภาพพังก่อนวัย!

ผลข้างเคียง ยาคุมกำเนิด

เมื่อพูดถึงการคุมกำเนิด นอกจากถุงยางอนามัยที่นิยมใช้แล้ว ยาคุมกำเนิด ยังถือว่าเป็นหนึ่งในทางเลือกที่เราพอจะนึกออก

ไม่เพียงแค่ใช้ ในการคุมกำเนิดเพียงอย่างเดียว ในบางกลุ่ม ยังมีการนำเอาไปใช้เพื่อกระตุ้นฮอร์โมน เชื่อว่า จะช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล และทำให้หน้าอกขยายใหญ่ขึ้น

ดังนั้น ยาคุมกำเนิดจึงไม่ได้แพร่หลายแค่ในกลุ่มผู้หญิง แต่ยังได้รับความนิยมในเหล่าเพศที่สาม ที่ต้องการให้ตัวเองมีทรวดทรงองค์เอวเหมือนผู้หญิงมากขึ้นด้วย

คนที่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องของการกินยาคุม มักจะนิยมใช้ติดต่อกันเกินความจำเป็น ที่น่าตกใจไปกว่านั้น ก็คือ

ส่วนใหญ่ไม่ได้มีการหาข้อมูล ในการรับประทานอย่างเหมาะสม ทำให้ไม่มีความรู้มากพอถึงผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นตามมาในอนาคต

ผลข้างเคียงจากยาคุมกำเนิดที่ไม่ควรมองข้าม

ยาคุมกำเนิด จัดได้ว่า เป็นฮอร์โมนที่ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน คนที่ใช้ยาตัวนี้เป็นประจำ ย่อมเสี่ยงที่จะทำให้เกิดระบบการทำงานของฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงไป

การใช้ให้ปลอดภัยมากที่สุด ควรให้ห่างกันอย่างน้อย 6 เดือนต่อครั้ง และที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการใช้ติดต่อกันมากกว่า 5 ปี

โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิง ซึ่งไม่เพียงแค่ทำให้เกิดผลข้างเคียงทั่วไป อย่างเช่น เวียนศีรษะ อาเจียน ปวดหัว หน้ามืด ฯลฯ แต่มันยังส่งผลไปถึงระบบการทำงานของอวัยวะภายในให้แปรปรวน อีกด้วย

ยาคุมกำเนิด กับการเกิดโรคต้อหิน

ดูเหมือนจะเป็นผลกระทบที่ดูไม่น่าเกิดขึ้นได้จริง ทว่าอันตรายของโรคนี้คือ การที่ผู้ป่วยจะต้อง ตาบอดอย่างถาวร ไม่สามารถกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง

ผู้หญิงที่ใช้ยาคุมกำเนิด ติดต่อกันประมาณ 3-4 ปี มีโอกาสเป็นโรคต้อหินได้ มากกว่าหญิงทั่วไปสองเท่า

เชื่อกันว่า เกิดจากระบบฮอร์โมนเอสโตรเจนที่เปลี่ยนไป มันจึงเข้าไปทำลายดวงตาให้เกิดความเสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็ว

ยาคุมกำเนิด กับการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ

แม้ว่า โรคหัวใจและหลอดเลือด จะเป็นสิ่งที่พบได้มากในปัจจุบัน โดยสาเหตุที่เราเข้าใจมาจาก การรับประทานอาหารและพฤติกรรมในการใช้ชีวิต

ขณะเดียวกัน ยาคุมกำเนิด ก็มีผลทำให้ผู้หญิงมีความเสี่ยง ที่จะเกิดภาวะไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้ง่าย

เมื่อหลอดเลือดทำงานได้ไม่ดีพอ ก็ส่งผลให้หัวใจต้องทำงานหนัก ตามมาด้วยโรคหัวใจ โรคเส้นเลือดอุดตัน เสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ง่ายกว่า คนทั่วไปหลายเท่า

ผลข้างเคียง ยาคุมกำเนิด

ยาคุมกำเนิด กับการเกิดโรคกระดูกพรุน

เราอาจจะเข้าใจว่า การเข้าสู่ช่วงวัยทอง เป็นช่วงที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง แต่เหตุไฉน ทำไมการใช้ยาคุมกำเนิด จึงมีผลทำให้เกิดโรคนี้ได้?

ในความเป็นจริง แม้การรับเอาเอสโตรเจนเข้าไปในร่างกาย จะเป็นผลดีต่อการดูดซึมแคลเซียม แต่การใช้ติดต่อกันนานเกินไป กลับกลายเป็นดาบสองคม ส่งผลกระทบโดยตรงต่อมวลกระดูก

การรับประทานยาชนิดนี้ จึงต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด คนที่ซื้อรับประทานเองจนเป็นกิจวัตร ย่อมเสี่ยงที่จะทำให้แคลเซียมถูกทำลาย พร้อมกับกระดูกที่เปราะบางลงไปได้

เห็นโทษของยาคุมกำเนิดกันไปบ้างแล้ว แบบนี้ ทางที่ดีหากไม่จำเป็น ควรหันมาใช้วิธีคุมกำเนิดแบบอื่นที่ปลอดภัยต่อสุขภาพของเรามากกว่า

ส่วนการใช้ยาคุม ควรอยู่ภายใต้ดุลยพินิจของแพทย์ อีกทั้งในกลุ่มที่ต้องการใช้เพื่อเป้าหมายอื่น ในด้านความสวยงามก็ควรหาข้อมูลที่ถูกต้องให้ดี ก่อนที่มันจะกลายเป็นภัยเงียบทำร้ายสุขภาพของเราได้ในภายหลัง