เมื่อพูดถึง วัยทอง สำหรับสาวๆ หากยังไม่เคยเฉียดเข้าไปไกลช่วงวัยเช่นนี้ อาจจะนึกภาพไม่ค่อยออกถึงความน่าเป็นห่วง
อันเกิดจากความแปรปรวนของระบบฮอร์โมน ส่วนใครที่อายุเข้าใกล้วัยนี้มากขึ้น
อาการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายก็เริ่มจากปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ จนกลายเป็นตัวกระทบต่อคุณภาพชีวิต
ไม่ว่าจะอาการเจ็บป่วย อารมณ์แปรปรวน หรือบางอาการที่เกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ นั่นอาจจะเป็นเพราะการก้าวเข้าสู่ช่วงวัยทองมากขึ้น
แน่นอนว่าหนึ่งในฮอร์โมนตัวสำคัญคือ “เอสโตรเจน” (Estrogen) ที่มีความเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย
ผู้หญิงที่เข้าสู่ช่วงวัยเหล่านี้ จะต้องเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของร่างกายและจิตใจ
ส่วนสาวๆ คนไหนที่รู้ถึงความไม่ปกติสุขของร่างกายในอนาคตที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ลองมาทำความรู้จักกับฮอร์โมนสำคัญชนิดนี้ เพื่อการดูแลตัวเองให้เข้าสู่วัยหมดประจำเดือนได้อย่างเป็นสุขค่ะ
เอสโตรเจน คืออะไร ?
ในทางการแพทย์ เอสโตรเจน คือกลุ่มฮอร์โมนเพศที่สามารถพบได้ทั้งในเพศชายและหญิง
มีคลอเลสเตอรอลเป็นสารตั้งต้น ที่เราสามารถหาได้จากแหล่งอาหารที่กินเข้าไป
และมีบางส่วนที่ร่างกายผลิตขึ้นมาเอง คลอเลสเตอรอลและแอสโตรเจน จึงมีความเกี่ยวข้องกันอย่างเห็นได้ชัด
หากขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไป ก็จะทำให้ร่างกายไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติ
ส่วนแหล่งผลิตหลักๆ ที่ร่างกายจะส่งฮอร์โมนชนิดนี้ออกมามากที่สุดมาจากฟอลลิเคิลภายในรังไข่
บางส่วนไม่มากนักมาจาก รก, เซลล์ประสาท, เต้านม และต่อมหมวกไต เป็นต้น มีหน้าที่หลักคือ
การช่วยพัฒนาการเจริญเติบโตของร่างกาย แม้จะพบได้ในทั้งสองเพศ แต่กลับมีปริมาณมากกว่าในผู้หญิง
จึงทำให้มันมีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของระบบฮอร์โมนในช่วงวัยทองได้มากกว่า
แสดงให้เห็นว่า นี่คือตัวแสดงลักษณะที่เด่นชัดถึงความเป็นเพศหญิง อีกทั้งยังช่วยให้ร่างกายเกิดการสะสมไขมัน
เอาไว้ใต้ชั้นผิวหนัง กระตุ้นตับให้สร้างโปรตีน ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมแคลเซียม
เข้าไปสะสมอยู่ในกระดูก ลดการเกิดโรคกระดูกพรุน ช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงาน
ซึ่งกลุ่มฮอร์โมนชนิดนี้ จะละลายได้ดีในสารละลายน้ำเกลือ และสารละลายน้ำตาล
แต่จะตกตะกอนได้หากสารละลายชนิดนั้นมีสภาพความเป็นกรดหรือสารละลายที่มีโปรตีนในปริมาณมาก
โดยทั่วไปเราจึงจัดให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นส่วนหนึ่งของฮอร์โมนเพศหญิงที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก
โดยในกลุ่มนี้จะประกอบด้วย Estradiol,Estrone และ Estriol ซึ่งทั้งสามตัวนี้ล้วนเป็นฮอร์โมนในกลุ่มเดียวกัน
หากพูดให้เข้าใจกันง่ายๆ ฮอร์โมนชนิดนี้ จะทำหน้าที่เป็นผู้ให้คำสั่งส่งไปยังอวัยวะที่เป็นเป้าหมาย
ให้สามารถทำงานได้ตามปกติ เมื่อใดก็ตามที่ร่างกายมีฮอร์โมนลดลง หรือหมดไป ก็จะทำให้อวัยวะนั้นๆ
ไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เกิดความผิดปกติ และตามมาด้วยความเสื่อมสภาพ จนกลายเป็นปัญหาของผู้หญิงวัยทองในที่สุด
ความสำคัญของแอสโตรเจนต่อร่างกาย
เอสโตรเจน เป็นฮอร์โมนที่มีความสำคัญกับการทำงานของสมองอยู่ไม่น้อย พบได้มากในเซลล์ประสาท cholinergic
ที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ และบริเวณฮิปโปแคมปัส,ซีรีบรัล,คอร์เท็กซ์
มีความเชื่อมโยงกันในส่วนของการจดจำ เรียนรู้ และการคิดวิเคราะห์ต่างๆ
ในส่วนของผิวหนังฮอร์โมนชนิดนี้จะสัมพันธ์กับผิวหนังที่อยู่ในพื้นที่ของหนังกำพร้า หนังแท้ ต่อมไขมัน ไปจนถึงรากขน
บริเวณที่ฮอร์โมนจะทำหน้าที่มากสุดอยู่ที่ชั้นหนังแท้ มีหน้าที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน
ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น แต่เมื่อขาดฮอร์โมนนี้ไป ผิวหนังจะเหี่ยวย่น เหมือนต้นไม้ที่ขาดน้ำ เล็บเปราะบาง ฉีกขาดง่าย
อีกทั้งยังทำให้เกิดอาการแพ้ต่อสารต่างๆ มากขึ้น ผิวลอกและเกิดการอักเสบอีกด้วย
นอกจากนี้ เอสโตรเจน ยังเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคกระดูกพรุน เนื่องจากทำหน้าที่สะสมแคลเซียมในร่างกาย
เมื่อฮอร์โมนลดลง แคลเซียมในกระดูกก็จะสลายตัวได้ง่าย การดูดซึมทำได้ไม่มากพอ
พบได้มากในผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป และยังสัมพันธ์กับการสะสมคอเลสเตอรอลในเลือด
เกิดภาวะอุดตันอันเนื่องมาจากระบบเผาผลาญ คอเลสเตอรอลจึงเข้าไปสะสมอยู่ตามหลอดเลือดมากขึ้น กลายเป็นความเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ง่าย
อาหารธรรมชาติ เติมเอสโตรเจนให้ร่างกาย
จะเห็นได้ว่าเอสโตรเจนเป็นฮอร์โมนที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการทำงานของร่างกาย
สาวๆ ที่รู้ตัวว่ากำลังเฉียดใกล้วัยทอง จำเป็นที่จะต้องได้รับเอสโตรเจนจากภายนอกเพิ่มขึ้น
ซึ่งเราสามารถหาได้จากอาหารธรรมชาติ และหากจำเป็นจริงๆ ก็สามารถเลือกใช้เป็นอาหารเสริม
ทดแทนได้ตามคำแนะนำของแพทย์ ซึ่งอาหารที่มีปริมาณเอสโตรเจนสูง ได้แก่
1.น้ำมะพร้าว – เป็นอาหารจากธรรมชาติที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนอยู่ในปริมาณสูง
ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน และอิลาสติน ลดการเกิดริ้วรอย ช่วยขับปัสสาวะ อีกทั้งยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ ช่วยทำให้ผิวดูใสและอ่อนเยาว์มากขึ้นด้วย
2.เมล็ดแฟลกซ์ – จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในซุปเปอร์ฟู้ดที่คนรักสุขภาพต้องรู้จัก
นอกจากประโยชน์มากมายของมัน ยังมีฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นส่วนประกอบอยู่ด้วย
มีหน้าที่ช่วยปรับสมดุลของระบบย่อยอาหาร จึงกระตุ้นระบบเผาผลาญให้สาวๆ ลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี
3.ลูกพรุน – พบว่าในลูกพรุนมี ไฟโตเอสโตรเจนสูง ซึ่งสารชนิดนี้ทำหน้าที่ใกล้เคียงกับฮอร์โมนเพศหญิงได้ดี
อีกทั้งยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์ กระตุ้นระบบขับถ่าย และปรับสภาพน้ำตาลในเลือดให้สมดุล
4.เต้าหู้ – เป็นที่ทราบกันดีว่าเต้าหู้มีสารที่ทำหน้าที่คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนตามธรรมชาติ
นั่นก็คือไอโฟลาโวน ซึ่งช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ดี นอกจากนี้ยังมีวิตามินแร่ธาตุหลากหลายชนิด
มีแคลอรี่ต่ำ โปรตีนสูง จึงเหมาะสำหรับการทานเพื่อควบคุมน้ำหนักไปในตัว
5.ผลไม้ตระกูลเบอร์รี – สารสำคัญที่พบในผลไม้ตระกูลเบรี่คือ “เรสเวอราทรอล
ซึ่งพบว่ามันมีคุญสมบัติคล้ายกับเอสโตรเจน อีกทั้งยังมีวิตามินซีสูง ดีต่อสุขภาพผิวและกระตุ้นระบบขับถ่าย
Photo Credit : womenshealthmag.com
จะเห็นได้ว่าฮอร์โมนเอสโตรเจน มีความสำคัญต่อการทำงานของร่างกายของผู้หญิงเป็นอย่างมาก
การเตรียมตัวให้พร้อมในช่วงวัยก่อนที่ฮอร์โมนชนิดนี้จะลดลง จะช่วยให้สาวๆ ค่อยๆ ก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลง
ของร่างกายได้ดีขึ้นเมื่อวัยทองมาถึง ซึ่งไม่เพียงแค่สุขภาพกายเท่านั้นที่ต้องดูแลให้มากขึ้น
สุขภาพใจก็เป็นสิ่งสำคัญ ที่ได้รับผลกระทบจากการลดลงของฮอร์โมนวัยสาวชนิดนี้ได้ไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ