อาการจมูกแห้ง แสบ รู้สึกหายใจแล้วแสบภายในโพรงจมูก ซึ่งสาวๆ มักจะเกิดอาการดังกล่าวบ่อยตอนที่มีอากาศเย็น
พบได้มากในฤดูหนาว และพบในกลุ่มคนที่ทำงานในห้องแอร์เสียส่วนใหญ่ บางคนก็เป็น บางคนก็ไม่เป็น
ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะไม่ได้มาจากสภาพอากาศ แต่มาจากความผิดปกติของร่างกายเราเอง
ซึ่งในทางการแพทย์มักจะเรียกว่า เยื่อบุจมูกอักเสบจากเครื่องปรับอากาศ (Air Conditioner-Induced Rhinitis)
ถือว่าเป็นอาการภูมิแพ้อย่างหนึ่งของร่างกาย เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุที่เป็นตัวกระตุ้น
และแน่นอนว่าอากาศที่เย็นจนทำให้จมูกแห้งบ่อยๆ ก็จะเสี่ยงทำให้เยื่อบุในโพรงจมูกเกิดการอักเสบตามมา
หากสาวๆ สังเกตว่าตัวเองมีอาการดังกล่าว ทางที่ดีควรรีบดูแลตัวเอง
เพื่อจะได้ทำการป้องกันไม่ให้อาการลุกลามมากขึ้นจนส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของเราตามมานั่นเองค่ะ
โพรงจมูกแห้ง กับอาการเยื่อบุจมูกอักเสบ (rhinitis)
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกับลักษณะของโรค “เยื่อบุจมูกอักเสบ” (rhinitis) กันก่อนว่ามันเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ
โดยมีปัจจัยแวดล้อมทั้งภายนอกและภายในเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดได้ทั้งสิ้น อาการเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบ
จะเกิดได้บ่อยในผู้ป่วยที่สัมผัสกับอากาศที่แห้งและเย็นพร้อมๆ กัน หากไม่ใช่ในฤดูหนาวก็จะเป็นอาการที่มาจากเครื่องปรับอากาศ
หลายคนมองข้ามต้นตอเหล่านี้ไป จนทำให้เกิดอาการจาม น้ำมูกไหลเป็นน้ำใสๆ คันจมูก คัดจมูก
และเกิดอาการแสบ จนทำให้รู้สึกรำคาญไปได้ตลอดทั้งวัน ดังนั้นผู้ที่มีอาการของจมูกอักเสบอันเนื่องมาจากภูมิแพ้
มักจะไวต่ออากาศที่แห้งและเย็นจากเครื่องปรับอากาศมากกว่าคนทั่วไป และด้วยชีวิตการทำงานและชีวิตประจำวันของสาวๆ ส่วนมากแล้ว จะอยู่ในห้องแอร์กันตลอดเวลา
เราเลยขอพูดถึงปัญหาภูมิแพ้ที่ทำให้เกิดเยื่อบุจมูกอักเสบ อาการจมูกแห้งที่มาจากเครื่องปรับอากาศเป็นหลัก
อาการโพรงจมูกแห้ง ทำให้เยื่อบุจมูกอักเสบได้อย่างไร?
จมูกของเราจะทำหน้าที่ช่วยปรับอากาศภายในที่เราสูดดมเข้าไปให้เกิดความอุ่นและชื้นมากขึ้น
ก่อนที่จะถูกสูดลงไปยังทางเดินหายใจคือหลอดลมและปอด โดยอากาศเหล่านี้จะต้องสัมผัสผ่านเยื่อจมูกด้วย
หากเราหายใจเอาอากาศที่มีความเย็นเข้าไปร่วมกับความแห้งด้วย
เยื่อจมูกที่อบอุ่นจะค่อยๆ สูญเสียความร้อน อุณหภูมิภายในลดลง จนไปกระตุ้นถึงเส้นประสาทที่ทำงานอยู่ใต้เยื่อบุจมูก จนกลายเป็นอาการระคายเคือง
ทำให้มีน้ำมูกไหล จามไม่ยอมหยุด และคันจมูกจนสาวๆ ต้องรู้สึกหงุดหงิด
ไม่เพียงเท่านี้น้ำที่ระเหยออกไปยังส่งผลทำให้เยื่อจมูกที่เคยชุ่มชื้นเกิดความแห้งขึ้นมา
เมื่อรุนแรงหรือเกิดขึ้นบ่อยๆ ก็จะทำให้เซลล์เยื่อบุจมูกหลุดลอก ชั้นน้ำที่อยู่บนผิวเยื่อจมูกเข้มข้นมากกว่าเดิม
ภาวะนี้จะไปกระตุ้นเซลล์เยื่อบุโพรงจมูกให้เกิดการหลั่งสารที่ชื่อว่า “ฮิสทามีน” (histamine) และ สารเมดิเอเตอร์ (mediators)
ไปกระตุ้นเส้นเลือดที่เยื่อบุผิวจมูกขยายตัวมากขึ้น สารน้ำจะแพร่ออกมานอกเส้นเลือด กลายเป็นเยื่อจมูกที่บวมเป่ง นำมาซึ่งอาการ “คัดจมูก”
จมูกแห้งเรื้อรัง กับอาการเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบ สังเกตอาการได้อย่างไร ?
อาการจมูกแห้งบ่อยจนนำมาซึ่งภาวะอักเสบ เราสามารถสังเกตอาการได้คือ
1.ความไวต่อปฏิกิริยาของอากาศแห้งและเย็น เมื่อเข้าห้องที่มีเครื่องปรับอากาศเปิดอยู่ จะทำให้เกิดอาการคันจมูก
ซึ่งจะส่งผลตามมาด้วยการจามติดๆ กันหลายครั้ง เป็นกระบวนการที่ร่างกายพยายามขับเอาสิ่งที่ผู้ป่วยแพ้ให้หลุดออกมา
2.มีน้ำมูกใสๆ ไหลออกมาอยู่ตลอดเวลา จนเป็นสาเหตุทำให้หายใจไม่สะดวก หายใจติดขัด และคัดจมูก
จนต้องสั่งน้ำมูกหลายๆ ครั้ง ส่งผลให้เกิดอาการแสบและแดงภายในจมูก บางรายมีอาการดังกล่าวนานเป็นชั่วโมงๆ กว่าจะดีขึ้น
3.อาการมึนและง่วงนอน ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังจากจามหลายครั้ง บางรายรู้สึกอ่อนเพลียร่วมด้วย ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง
4.อาการคันตามส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ เช่น คันหู คันคอ คันตา คันที่เพดานปาก คันที่ขอบปาก
5.มีอาการปวดศีรษะ หูอื้อ ไอ และเจ็บคอ จนเหมือนจะเป็นไข้ในบางรายที่มีความไวต่ออากาศแห้งและเย็น
โพรงจมูกแห้งและเยื่อบุอักเสบ สามารถรักษาได้อย่างไร ?
ในการรักษาผู้ป่วย จะต้องมีทั้งการให้ยาในรายที่มีอาการรุนแรง ไวต่อสิ่งเร้า
และต้องให้ผู้ป่วยร่วมมือหลีกเลี่ยงอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นตัวกระตุ้นร่วมด้วย
1.การใช้ยาต้านฮิสทามีน – จัดได้ว่าเป็นตัวยาที่ช่วยบรรเทาอาการที่เกิดจากการที่สารฮิสทามีนถูกกระตุ้นออกมาจนทำให้เกิดอาการระคายเคืองภายในจมูก
แต่จะเป็นยาที่ช่วยบรรเทาอาการได้ไม่มากนัก ไม่ค่อยช่วยในเรื่องอาการคัดจมูกเท่าใด
2.การใช้ยาหดหลอดเลือด – กรณีที่หลอดเลือดขยายตัวจนบวมแดง จะไปทำให้การหายใจติดขัด
ปิดขวางทาเดินหายใจ ซึ่งการใช้ยาชนิดนี้มีทั้งเป็นแบบยากินและยาพ่น
แพทย์บางรายอาจจะเลือกใช้เป็นยาต้นฮิสทามีนผสมกับยาหดหลอดเลือด เพื่อช่วยลดอาการคัดจมูก จาม คัน และน้ำมูกไหลไปพร้อมๆ กัน
3.การใช้ยาสเตียรอยด์พ่นจมูก – เป็นยาที่เรียกได้ว่ามีประสิทธิภาพสูง ช่วยบรรเทาอาการคัดจมูกน้ำมูกไหล
และอาการหายใจไม่ออกได้เป็นอย่างดี แต่จะส่งผลเสียหากใช้ในระยะยาว เมื่อหยุดใช้อาจทำให้อาการกลับมาเป็นหนักกว่าเดิมได้
Photo Credit : wellbe-ims.com
เพื่อเป็นการป้องกันตัวเองไปในตัวพร้อมๆ กับการรักษา เนื่องจากโรคเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบ
มักมาจากสภาพจมูกแห้งจนทำให้ภายในโพรงจมูกไม่มีน้ำหล่อลื่น สาวๆ จึงควรหันมาดูแลสุขภาพตัวเอง
ด้วยการเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และควรปิดเครื่องปรับอากาศหากไม่จำเป็น
หลีกเลี่ยงการอยู่ในสภาพอากาศเย็นและแห้งตลอดทั้งวัน หรือเลือกใช้การปรับเครื่องปรับอากาศให้มีอุณหภูมิมากกว่า 25 องศาเซลเซียส
หากสังเกตว่าสภาพในห้องแห้งเกินไป ให้หาน้ำใส่ถ้วยมาวางทิ้งไว้ จะช่วยให้ห้องมีละอองน้ำเกิดขึ้น เพิ่มความชุ่มชื้น ลดอาการจมูกแห้งลงไปได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวค่ะ