รอยแผลเป็นจากสิวบนใบหน้า รักษายังไงให้หาย เชื่อว่าหลายคนที่มีรอยแผลเป็นจากสิว มักจะมีคำถามนี้กันแน่นอน
และที่ผ่านมาก็อาจจะต้องสรรหาสารพัดวิธีมาช่วยลดเลือน รอยแผลเป็นจากสิว ในวันนี้เราเลยนำ วิธีรักษารอยแผลเป็นจากสิว มาฝาก
แต่ก่อนอื่น เราไปดูกันก่อนนะคะว่า สิวเกิดขึ้นมาได้อย่างไร เมื่อรู้ที่มาที่ไปของสิวแล้วก็ไปดูวิธีรักษารอยแผลเป็นจากสิวกันต่อได้เลยค่ะ
สิวเกิดขึ้นมาได้อย่างไร?
สิวเกิดขึ้นได้จากการที่ฮอร์โมนเพศชาย ไปกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมันมากขึ้นจึงทำให้ผิวหน้ามัน
ซึ่งเมื่อการทำงานมากผิดปกติจนทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตัน จึงเกิดสิวอุดตันขึ้น
และหากสิวอุดตันเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียที่พบอยู่ตามใบหน้า ก็จะส่งผลให้เกิดสิวอักเสบเป็นหนอง
และนอกจากฮอร์โมนทำให้เกิดสิวขึ้น การดื่มแอลกอฮอล์ ดื่มนม ทานเนย ข้าวซ้อมมือ ทุเรียน ถั่วเปลือกแข็ง
วิตามินรวม ก็ทำให้ผิวหน้าเกิดสิวได้ง่ายกว่าปกติ และการใช้เครื่องสำอางต่าง ๆ อย่าง ครีมป้องกันริ้วรอย
ครีมป้องกันแดด ครีมหน้าขาว ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดสิว ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว หากดูแลอย่างถูกวิธี ก็จะทำให้สิวหายได้เอง
รอยแผลเป็นจากสิวบนใบหน้า
การรักษาสิว ในบางรายมักจะชอบแกะสิว ทำให้ผิวเกิดความเสียหายจากการที่ผิวโดนรบกวน จึงทำให้สิวที่มีความรุนแรงปานกลาง
กลายเป็นแผลที่ถาวร ก่อให้เกิดแผลเป็นที่มีลักษณะเป็นหลุม ที่มักจะเรียกกันว่าหลุมสิว
ซึ่งรอยแผลเป็นจากสิวบนใบหน้าชนิดถาวร ก็มีด้วยกันอย่างเช่น
1.หลุมสิวชนิดหลุมลึก ปากแผลแคบ Ice Pick Scar ขนาดหลุมสิวมักอยู่ที่ประมาณ 0.5 มิลลิเมตร
มีลักษณะเป็นรอยหลุมจิกลึกขอบแคบ บริเวณฐานอาจกว้างเล็กน้อย เป็นชนิดหลุมสิวที่ใช้เวลาในการรักษานานกว่าจะฟื้นฟูจนเต็ม
2.หลุมสิวชนิดหลุมกว้าง Boxcar Scar มีทั้งแบบแผลลึกกับแผลตื้น โดยขนาดมักจะอยู่ที่ประมาณ 3-4 มิลลิเมตร
มีลักษณะเป็นบ่อ มีขอบที่ชัดเจน มีขอบเขตที่กว้างกว่าระดับ Ice Pick scar เป็นชนิดหลุมสิวที่ทำการรักษาได้ยาก
3.หลุมสิวแบบตื้น ๆ เป็นแอ่งเว้าลงไป Rolling Scar เป็นชนิดหลุมสิวที่รักษาให้กลับมาเรียบเนียน
ได้ง่ายกว่าหลุมสิวชนิดอื่น ๆ มีลักษณะเป็นรอยหลุม ฐานคล้ายกระทะ
การรักษาหลุมสิว รอยแผลเป็นจากสิวบนใบหน้า
รอยแผลเป็นจากสิวบนใบหน้า ซึ่งส่วนมากก็คือ หลุมสิว สามารถทำการรักษาด้วยเครื่องมือแพทย์ต่าง ๆ
เช่น การใช้เลเซอร์ ช่วยในการกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ กับช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน,
การทำ Subcision คือการกำจัดโดยการใช้เข็มแบบพิเศษสอดเข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณรอยหลุมสิว
เพื่อเข้าไปตัดพังผืดใต้ผิวหนัง เพื่อช่วยให้เซลล์ผิวหนังเกิดการฟื้นฟูและสร้างขึ้นมาใหม่ , การใช้คลื่นวิทยุ Radio Frequency (RF)
คือการรักษาหลุมสิวด้วยการส่งพลังงานความถี่สูงเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง
วิธีรักษาหลุมสิวด้วยตนเอง
นอกจากการรักษาด้วยเครื่องมือแพทย์ ในการรักษาหลุมสิว คนเป็นหลุมสิวสามารถที่จะกำจัดหลุมสิวได้ด้วยตนเอง
ด้วยการรักษาหลุมสิวแบบธรรมชาติ ซึ่งมีวิธีการดังนี้
1.ว่านหางจระเข้
มีคุณสมบัติช่วยในการสมานผิว ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ช่วยกระตุ้นให้ผิวหนังหดตัว
และช่วยป้องกันการอักเสบ นำว่านหางจระเข้มาปอกเปลือกเอาเฉพาะที่เป็นวุ้นใส ๆ นำมาล้างให้สะอาด
จากนั้นเอามาบดให้ละเอียด นำมาพอกหน้า ทิ้งเอาไว้ราว 5-10 นาที แล้วล้างหน้าให้สะอาด
โดยหมั่นทำเป็นประจำ อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง จะช่วยให้รอยหลุมสิวดูจางลง
2.น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น
มีกรดลอริกช่วยในการต้านเชื้อแบคทีเรีย และมีสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยในการแก้ปัญหาหลุมสิวได้เป็นอย่างดี
ช่วยให้รอยหลุมสิวอ่อนนุ่มและจางลง นอกจากนี้น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นยังช่วยลดปัญหาสิวกับบำรุงผิวหน้าให้เนียมนุ่มชุ่มชื้นอีกด้วย
ก่อนเข้านอนล้างหน้าให้สะอาด ซับหน้าให้แห้งแล้วนำน้ำมันมะพร้าวมาทาให้ทั่วบริเวณใบหน้า ปล่อยทิ้งเอาไว้ แล้วค่อยล้างให้สะอาดในตอนเช้า
3.ใบบัวบก
มีสรรพคุณในการต่อต้านอนุมูลอิสระ มีสารไกลโคไซด์ช่วยในการรักษาสิว ช่วยในการฟื้นฟูกับกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของชั้นผิวหนัง
จึงทำให้ฟื้นฟูรอยแผล รอยหลุมสิวให้จางลงได้ นำใบบัวบกประมาณ 1 กำมือมาล้างให้สะอาด แล้วนำไปปั่นให้ละเอียด
นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ราว ๆ 20-30 นาที แล้วล้างหน้าให้สะอาด โดยให้ทำเป็นประจำ รอยหลุมสิวจะค่อย ๆ จางลงอย่างชัดเจน
4.มะละกอสุก
เหมาะอย่างมากกับคนที่มีรอยหลุมสิวไม่ลึก นำมะละกอสุกปอกเปลือกล้างสะอาด มาบดให้ละเอียด
แล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จึงค่อยล้างหน้า หากทำเป็นประจำจะช่วยให้หลุมสิวค่อย ๆ จางลง
เพราะในมะละกอสุกมีเอ็นไซม์ที่ช่วยในการกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วหลุดออก และมีสรรพคุณในการช่วยสมานแผลได้อย่างดี
5.มะนาวกับหอมแดง
ในหอมแดงมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการฟื้นฟูรอยหลุมสิว ส่วนมะนาวมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ และมีวิตามินซีสูง
จึงช่วยในการรักษารอยหลุมสิวกับริ้วรอยจากสิวได้อย่างดีเยี่ยม นำหอมแดงมาฝานเป็นแผ่นบาง ๆ แล้วนำมาทุบอย่างเบา ๆ
ให้น้ำหอมแดงออกมา ต่อมาให้บีบน้ำมะนาวใส่หอมแดงที่ฝานเอาไว้ แล้วนำหอมแดงมาโป๊ะตรงบริเวณใบหน้าที่มีรอยหลุมสิว
ทิ้งเอาไว้ราว 5-10 นาที แล้วล้างหน้าให้สะอาด ทำอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง รอยหลุมสิวจะค่อย ๆ จางลง
6.มะนาวกับมะเขือเทศ
นำมะเขือเทศบดมาผสมกับน้ำมะนาว แล้วพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที จึงค่อยล่างหน้าให้สะอาด
เป็นสูตรแนะนำสำหรับการรักษาหลุมสิว สิวอักเสบกับสิวอุดตัน เพราะสาร AHA ซึ่งเป็นกรดผลไม้
มีคุณสมบัติช่วยในการผลัดผิว ส่งผลให้ผิวตื้นขึ้นช่วยในการลดรอยหลุมสิวได้อย่างดี
Credit : naadeng.com
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ วิธีรักษารอยแผลเป็นจากสิวบนใบหน้า และ วิธีรักษารอยหลุมสิว
เพราะรอยหลุมสิวก็ถือเป็นแผลเป็นที่เกิดจากสิวเช่นกัน สาวๆ คนไหนอยากมีผิวหน้าเรียบเนียนสวยไร้สิว
และ รอยแผลเป็นจากสิว เพียงรักษาด้วยคำแนะนำจากเรา รับรองผิวหน้าจะกลับมาสวยเรียบเนียนใสอีกครั้งอย่างแน่นอน