โรคไส้เลื่อนในผู้หญิงเป็นอย่างไร รักษาได้หรือไม่?

โรคไส้เลื่อนในผู้หญิง hernia

โรคไส้เลื่อนในผู้หญิง หลายคนคงจะรู้สึกตกใจและสงสัย ว่าโรคนี้ก็สามารถเกิดขึ้นกับผู้หญิงได้ด้วยหรือ

เพราะเมื่อใดก็ตามที่พูดถึงโรคไส้เลื่อน ทุกคนก็คงจะคิดว่าเป็นโรคของผู้ชาย ถึงขั้นมีการล้อเลียนกันว่า ตอนเด็กไม่ชอบใส่กางเกงใน

จนทำให้บุคคลคนนั้นเป็นโรคไส้เลื่อน (ซึ่งก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคนี้ได้จริง) อันที่จริงแล้ว โรคไส้เลื่อนสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย

ไม่เฉพาะเจาะจงว่าต้องเป็นผู้ชายเท่านั้น ความรุนแรงของโรคที่เกิดกับเพศหญิงก็ไม่ต่างกับเพศชาย คือถ้าหากมีอาการรุนแรงก็ถึงขั้นต้องทำการผ่าตัดเช่นกัน

โรคไส้เลื่อนในผู้หญิง คืออะไร?

โรคไส้เลื่อนในผู้หญิง (Hernia) คือ โรคที่ลำไส้มีการไหลลงมาตุงอยู่ที่ผนังหน้าท้องส่วนใดส่วนหนึ่ง ทำให้หน้าท้องมีอาการบวมออกมาอย่างชัดเจน

บางคนอาจถึงขั้นไส้เลื่อนมาตุงอยู่ที่ขาหนีบ ซึ่งสามารถสร้างความเจ็บปวดแบบหน่วง ๆ ให้กับผู้ป่วยได้

ถ้าหากไม่ได้รับการรักษา ก็จะมีอาการปวดท้องมากยิ่งขึ้น เนื่องจากลำไส้มีการถูกบีบรัดอย่างรุนแรง

เพราะไม่สามารถไหลย้อนกลับเข้าไปในช่องท้อง ทำให้มีโอกาสที่ลำไส้จะขาดเลือดไปหล่อเลี้ยง

เป็นเหตุให้ลำไส้บางส่วนมีอาการเน่าและติดเชื้อได้ ซึ่งจะต้องทำการผ่าตัดรักษาอย่างเร่งด่วนต่อไป

ก่อนที่การติดเชื้อจะลามเข้าสู่กระแสเลือดและอวัยวะอื่น ๆ ที่อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคไส้เลื่อนในผู้หญิง

สาเหตุหลักของการเกิดไส้เลื่อน ไม่ว่าจะในผู้หญิงหรือในผู้ชายก็ตาม ล้วนเกิดจากการที่ผนังหน้าท้องมีความอ่อนแอหรือเปราะบางมากกว่าปกติ

ซึ่งเป็นความผิดปกติโดยกำเนิด เมื่อเกิดแรงดันภายในช่องท้องขึ้น เช่น การออกแรงในการเบ่งอุจจาระ หรือเมื่อเกิดอาการไอรุนแรง

ก็จะทำให้ลำไส้เกิดการเลื่อนไหลลงไปอยู่บริเวณผนังหน้าท้อง หรืออาจไหลลงมาอยู่บริเวณข้าง ๆ อวัยวะเพศ

แต่ก็มีบางกรณีที่เกิดจากการผ่าตัดหน้าท้อง ซึ่งอาจจะเกิดจากอุบัติเหตุหรือการรักษาโรคบางชนิด

อาการของโรคไส้เลื่อนในผู้หญิง

อาการของโรคไส้เลื่อนในผู้หญิง ที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ก็คือมีก้อนตุง หรือมีการบวมผิดปกติ

บริเวณขาหนีบหรือใกล้ ๆ อวัยวะเพศ และจะเห็นชัดเจนมากขึ้น เมื่อมีการเบ่งเพื่อถ่ายอุจจาระ หรือเมื่อเกิดอาการไอ

เมื่อคลำบริเวณที่บวม จะรู้สึกเหมือนมีก้อนนุ่ม ๆ แต่ไม่สร้างความเจ็บปวดให้กับร่างกายแต่อย่างใด

เว้นแต่ว่าลำไส้จะเลื่อนต่ำลงมาเรื่อย ๆ จนถึงขั้นถูกบีบรัดอย่างหนัก เป็นเหตุให้เลือดไม่สามารถมาล่อเลี้ยงได้

เมื่อนั้นอาจจะพบอาการเจ็บบริเวณที่บวมออกมา ร่วมกับมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน

วิธีรักษาโรคไส้เลื่อนในผู้หญิง

สำหรับการรักษาโรคไส้เลื่อนในผู้หญิงนั้น มีเพียงทางเดียวก็คือการผ่าตัด ซึ่งปัจจุบันนี้ ด้วยวิทยาการทางการแพทย์ที่มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น

จึงทำให้สามารถเลือกการผ่าตัดได้ 2 วิธี คือ การผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง และการผ่าตัดด้วยการส่องกล้อง

การผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง แพทย์จะเลือกใช้วิธีนี้ ก็ต่อเมื่อลำไส้ที่เลื่อนไหลลงมามีขนาดใหญ่มาก

การผ่าตัดด้วยการส่องกล้อง สามารถทำได้ในกรณีที่ลำไส้ที่ไหลลงมามีขนาดไม่ใหญ่ หรือเมื่อผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้องแล้วยังไม่หาย

ข้อดีคือ แผลผ่าตัดไม่ใหญ่มาก นอนพักในโรงพยาบาลเพียงคืนเดียวก็สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ

แต่ข้อเสียก็คือเรื่องของค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการผ่าตัดแบบแรก แต่ไม่ว่าจะเลือกผ่าตัดด้วยวิธีไหนก็ตาม

ก็ต้องมีการพักฟื้นอย่างน้อย 3 เดือน โดยพักฟื้นในที่นี้ก็คือ ไม่ควรยกของหนัก ไม่ควรเพิ่มแรงดันในช่องท้องให้มากกว่าเดิม เพราะมิเช่นนั้นที่รักษามาก็จะไม่มีประโยชน์อะไรเลย

วิธีป้องกันโรคไส้เลื่อนในผู้หญิง

การป้องกันโรคไส้เลื่อนในผู้หญิงนั้น ยังไม่มีวิธีใด ๆ ที่เหมาะสมทั้งสิ้น ทำได้แค่เพียงการลดปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิด

ก็คือเรื่องของการไม่เบ่งอุจจาระอย่างรุนแรง เพราะถึงไม่เป็นโรคไส้เลื่อน ก็อาจเป็นโรคริดสีดวงทวารได้

และไม่ควรปล่อยให้ตัวเองมีอาการไอเรื้อรัง เพียงเท่านี้ก็ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคไส้เลื่อนในผู้หญิงได้ในระดับหนึ่ง

Credit : medisite.fr

โรคไส้เลื่อนในผู้หญิง เป็นโรคที่อาจจะพบได้ไม่ค่อยบ่อย แต่ก็ยังพบได้เรื่อย ๆ มีวิธีการรักษาเพียงอย่างเดียวคือ การผ่าตัดเท่านั้น

เพราะฉะนั้นใครที่รู้ตัวว่ามีความผิดปกติ หรือพบว่ามีก้อนตุง ๆ อยู่บริเวณขาหนีบ หรือบริเวณอวัยวะเพศก็ควรรีบมาพบแพทย์

เพื่อพูดคุยหาแนวทางในการรักษาต่อไป เพราะหากปล่อยเอาไว้ก็อาจจะมีอาการแทรกซ้อนที่มีความรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม