ต้องเข้าใจก่อนว่า การทำศัลยกรรม ดูดไขมัน ไม่ใช่วิธีการลดน้ำหนักแบบถาวร เพราะการทำศัลยกรรมดูดไขมัน จะช่วยแค่ลดไขมัน บริเวณที่เราไม่สามารถลดไขมันบริเวณนั้นได้
ไม่ว่าจะด้วยการออกกำลังกาย หรือลดอาหาร ที่มีส่วนช่วยลดบริมาณไขมันก็ตาม ดังนั้น ใครที่คิดทำศัลยกรรมดูดไขมัน ต้องเข้าใจก่อนที่จะทำ
คนที่จะดูดไขมันได้นั้น ต้องเป็นคนที่มี รูปร่างสมส่วนไม่อวบอ้วน และไม่ผอมจนเกิดไป
และบริเวณที่จะดูดไขมันนั้น จะเป็นจุดที่ลดไขมันได้ยาก เช่นบริเวณ ต้นแขน ต้นขา น่อง เอว หน้าท้อง หรือแม้แต่ ใต้คาง เป็นต้น
รู้ก่อนว่าผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เมื่อทำการดูดไขมัน
[wpsm_list type=”star”]
- มีความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง จากการใช้ ยาสลบ และ ยาชา ที่ใช้ตอนทำศัลยกรรมดูดไขมัน
- จะเกิดอาการบวมน้ำ ต้องใช้เวลานานอาการถึงจะค่อยๆ ทุเลาลง
- ถ้าเจอแพทย์ที่ฝีมือไม่ดี อาจเกิดอันตรายจากการทำศัลยกรรมดูดไขมันได้ ก่อนเข้ารับการรักษาต้องศึกษาข้อมูลของโรงพยาบาลหรือคลีนิค ให้ละเอียดก่อนเข้ารับการทำศัลยกรรมดูดไขมัน
- การดูดไขมัน อาจช่วยในการลดไขมันบริเวณนั้นๆ ได้ แต่ไขมันสามารถกลับมาไหม่อีกได้ จากจุดที่มีไขมันในบริเวณไกล้เคียง
- อาจเกิด รูปร่าง นูนโค้งไม่เสมอกัน และรอยย่น ของกล้ามเนื้อในจุดที่ดูดไขมัน ทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ
- และอาจเกิดบัญหาที่ร้ายแรงที่สุดคือ เสียชีวิตจากอาการช็อค (แม้จะมีโอกาสน้อยมาก แต่ต้องรู้และเข้าใจว่า อาจเกิดความเสี่ยงนี้ได้)
[/wpsm_list]
การทำศัลยกรรมดูดไขมัน มีวิธีการทำหลักๆ คือ
ดูดไขมันเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด จาก The art clinic คลิก
1.ทำศัลยกรรมดูดไขมันด้วย วิธีการใช้เลเซอร์สลายไขมัน การดูดไขมันด้วยวิธีนี้ จะใช้เลเซอร์ยิงเข้าไปสลายไขมัน บริเวณที่ทำการร่างแบบไว้ แล้วดูดไขมันที่ละลายแล้วออกมา
วิธีการใช้เลเซอร์สลายไขมัน ดังกล่าวนี้ จะเป็นวิธีที่จะลดไขมัน ในบริมาณที่ต้องการได้แน่นอน อาจเหลือมากน้อย แล้วแต่ความชำนาญของแพทย์ที่รักษา
2.ทำศัลยกรรมดูดไขมันด้วย วิธีการฉีดสารสลายไขมัน เป็นวิธีที่การทำศัลยกรรมดูดไขมันที่เจาะจงได้ยากว่า สลายไขมันไปได้เท่าไร
เพราะเป็นสารสลายไขมันที่ค่อยๆ ละลายไข้มัน และแต่ละคนจะสลายช้าเร็วไม่เท่ากัน
ทางแพทย์จึงต้องกะปริมาณ ในการใช้ให้พอดีกับไขมันที่ต้องการลด และต้องเข้ารับการทำศัลยกรรมดูดไขมันบ่อยๆ เพื่อที่จะได้ลดบริมาณที่ต้องการ แต่วิธีนี้ จะเกิดบาดแผลน้อยมากเมื่อเทียบกับวิธีอื่นๆ
ก่อนเข้ารับการทำศัลยกรรมดูดไขมัน
[wpsm_list type=”bullet”]
- ต้องเข้าใจความเสี่ยงต่างๆ ของการทำศัลยกรรมดูดไขมัน ก่อนเข้ารับการรักษา
- ควรศึกษาข้อมูลต่างๆ และปรึกษาคนที่เคยไปทำศัลยกรรมดูดไขมันมาก่อนว่า เป็นอย่างไรบ้าง
- ควรเข้ารับการทำศัลยกรรมดูดไขกับแพทย์ ที่ได้มาตรฐาน ได้รับอนุมัติบัตร หรือวุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญ
- เมื่อพบแพทย์ ควรปรึกษา ถามคำถามและข้อสงสัยต่างๆ ให้ละเอียดรอบคอบ และนำมาวิเคราะห์ก่อนว่า จะรักษาจากที่นี้หรือไม่
- เตรียมพร้อมร่างกาย ก่อนเข้ารับการทำศัลยกรรมดูดไขมัน งดเครื่องดื่มมึนเมา และสารที่ก่อให้เกิดอาการผิดปกติแก่ร่างกาย
- เมื่อจะเข้ารับการทำศัลยกรรมดูดไขมัน ควรแจ้งแพทย์ก่อนว่า แพ้ยา มีโรคติดต่อ หรือโรคที่อาจลุกลามได้ ต้องแจ้งแพทย์ให้ละเอียด
- เมื่อทำศัลยกรรมดูดไขมันเสร็จแล้ว บางวิธีการรักษาจะให้ดูอาการไม่นานแล้วกับบ้านได้เลย แต่บางวิธีอาจให้นอนดูอาการก่อนหนึ่งคืน
[/wpsm_list]
หลังเข้าการทำศัลยกรรมดูดไขมัน
[wpsm_list type=”bullet”]
- ช่วงเดือนแรกทางแพทย์จะให้ผ้าพันบริเวณที่ทำการดูดไขมัน เพื่อให้บริเวณนั้นกระชับเข้ารูป และลดอาการบวมของกล้ามเนื้อบริเวณนั้น
- จะมีรอยช้ำตามจุดต่างๆที่ดูดไขมันเพราะเราพึ่งดูดไขมันออกมาเลือดจึงยังไม่เลี้ยงตัวเต็มที่ ควรหาอะไรกระตุ้นให้มีเลือดหมุนเวียนเช่น ออกกำลังกายเบาๆ
- ระยะเวลา จุดที่เราทำศัลยกรรมดูดไขมันจะเข้ารูปประมาณ 3-6เดือน แล้วแต่ความยากง่ายในการฟื้นตัว และความชำนาญของแพทย์ที่เข้ารักษา
- เมื่อแพทย์นัดตรวจอาการ ต้องเข้ารับการตรวจให้ตรงเวลาตามที่แพทย์นัด
- ถ้าระหว่างพักฟื้น เมื่อเกิดอาการผิดปกติ เช่น ปวดหัว วิงเวียน อาเจียน มีฝื่นขึ้นลุกลาม ควรรีบเข้ารับการรักษาให้เร็วที่สุด เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงของการรักษาได้
[/wpsm_list]
Credit Image: smartlipo.com
การทำศัลยกรรมดูดไขมัน นั้น เป็นที่นิยมมากสำหรับสาวๆ ที่มีต้นขาใหญ่และมีเอวที่หนา เพื่อลดขนาดต้นขาและเอวให้เล็กลง ผอมเพียว
แต่มีอีกกลุ่ม ที่อยากลดหุ่นเฉยๆ เพราะตัวไม่ผอมเพียวแบบคนอื่น ซึ่งทั้งสองกลุ่มนี้ไม่รู้ว่า การดูดไข้มันนั้น มีอันตรายและผลข้างเคียงแก่ร่างกายตนเองอย่างไร
แนะนำว่า ก่อนทำ ศัลยกรรมดูดไขมัน ควรลองออกกำลังกาย ควบคุมกินอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อลดหุ่นตนเองก่อนว่า ลดหุ่นบริเวณนั้นๆได้หรือไม่
เพราะเมื่อทำศัลยกรรมดูดไขมันแล้ว อาจจะเกิดอันตรายแก่ตนเองหรือไม่เกิด เราก็ไม่สามารถคาดเดาได้
ให้คิดว่า การดูดไขมัน เป็นอีกทางเลือกในการลดไขมันจะดีกว่า เพราะร่างกายของเราไม่ควรเสี่ยงกับอะไรที่เป็นอันตราย ถ้าเกิดอะไรขึ้นอาจเกิดผลเสียที่แก้ไขไม่ได้ตามมา จนเราไม่อาจนำกลับคืนมาได้เลย