ปัสสาวะเล็ดอย่ามองข้าม อาจเข้าข่าย “โรคฉี่เล็ด” ไม่รู้ตัว

โรคปัสสาวะเล็ด โรคชำรั่ว โรคฉี่เล็ด อาการ

อาการปัสสาวะเล็ด หรือเหมือนกับว่าตัวเอง กลั้นปัสสาวะไม่ค่อยอยู่ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะแค่ในเด็กอย่างที่เราคุ้นชินกันดีอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังพบว่า ในหมู่ผู้สูงอายุหรือผู้สูงวัย หลายๆ คนก็มีอาการปัสสาวะออกมาแบบกลั้นไม่อยู่ได้เช่นกัน

ลักษณะที่เกิดขึ้นแบบนี้ไม่ใช่อาการปัสสาวะไหลเพราะกลั้นเอาไว้นาน หรือนอนฝันว่ากำลังฉี่ จนทำให้ปัสสาวะรดที่นอน แต่มักจะเป็นอาการที่เกิดจากการกลั้นปัสสาวะไม่ค่อยอยู่ ต่างกันอย่างแน่นอนว่ากับสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในวัยเด็ก

อาการนี้เป็นตัวการทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอับอาย ไม่ค่อยกล้าออกไปไหน แค่ไอหรือจามก็ฉี่กระปริดกระปรอยออกมาแล้ว จะสวมใส่ผ้าอนามัยมันก็ดูจะเหมาะกับผู้หญิงเท่านั้น

แต่สำหรับผู้ชายที่มีปัญหาเรื่องนี้ สามารถแก้ไขได้ด้วยการสวมใส่ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ชนิดที่เป็นกางเกงสวม สามารถใส่ได้ทั้งชายและหญิง ทำให้สะดวกสบายในการเคลื่อนไหวร่างกายในระหว่างที่กำลังทำการรักษา ช่วยให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติ

อย่างไรก็ตาม หากพบอาการผิดปกติเช่นนี้ ควรรีบเข้ารับการตรวจจากแพทย์เพื่อหาสาเหตุเบื้องต้นก่อน หลังจากนั้นจะได้ทำการรักษาได้ทันหากเกิดขึ้นจากโรคร้ายแรง

แม้จะมีตัวช่วยอยู่หลายวิธี แต่ทางที่ดีคืออย่าปล่อยให้โรคนี้อยู่กับเราถาวรเป็นดีที่สุดค่ะ เพราะฉะนั้น นี่คือข้อมูลที่ผู้ป่วยหรือผู้ที่กำลังสงสัยว่าตัวเองป่วยหรือไม่ ลองมาดูสาเหตุ และวิธีแก้ไขอย่างถูกต้องกันดีกว่าค่ะ

อาการปัสสาวะเล็ด หรือโรคฉี่เล็ด เกิดขึ้นได้อย่างไร?

สาเหตุของอาการปัสสาวะเล็ด จนนำไปสู่โรคปัสสาวะเล็ด มีสาเหตุมากมายทั้งรักษาง่ายๆ ไปจนถึงการรักษายุ่งยากจากโรคของระบบภายในที่ผิดปกติ

ด้วยเหตุนี้ จึงจำเป็นต้องเข้ารับการตรวจจากแพทย์เพื่อหาสาเหตุ จะได้ทำการรักษาได้ตรงจุด ที่พบได้บ่อย อาทิเช่น

กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานไม่แข็งแรง ระบบประสาทบริเวณไขสันหลังผิดปกติ โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบหรือทำงานผิดปกติ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท หลอดเลือดสมองโป่งพอง

โรคเบาหวาน หูรูดไม่แข็งแรง ต่อมลูกหมากโต การขาดฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้หญิง ภาวะติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ เนื้องอกหรือนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ เป็นต้น

อาการปัสสาวะเล็ด แบบไหนถึงเรียกว่าไม่ควรนิ่งนอนใจ?

อาการผิดปกติเบื้องต้นที่สังเกตได้ของคนที่เริ่มกลั้นปัสสาวะไว้ไม่อยู่ มักจะเกิดขึ้นในช่วงไอหรือจาม บางครั้งนั่งอยู่เฉยๆ ก็มี ปัสสาวะกระปริดกระปรอยออกมา

บางคนเล็ดออกมาเพียงเล็กน้อย พอทนไหว แต่กลับบางคนจำเป็นต้องสวมใส่ผ้าอนามัยกันทุกวัน จนทำให้หงุดหงิด เพราะความเปียกชื้น แถมยังเกิดอาการคัน และกลิ่นอับตามมา

ส่วนในผู้ชายยิ่งแล้วใหญ่ พอเกิดอาการแบบนี้ขึ้นมา จะใส่ผ้าอนามัยแบบผู้หญิงก็คงเป็นเรื่องยาก ดังนั้น มันจึงเป็นอาการที่ไม่ใช่เรื่องตลก หรือเรื่องเล็กๆ แต่กลับมีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต การเข้าสังคม และสภาพจิตใจอย่างรุนแรงกันได้เลยทีเดียว

จากอาการในระยะแรกๆ แบบเป็นไม่มาก แค่ไอจามแล้วเล็ดออกมาเป็นดวง หากปล่อยทิ้งไว้ อาจทำให้สุขภาพร่างกายแย่ลง เนื่องจาก การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ

ซึ่งจำเป็นต้องตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำกลางดึกบ่อยๆ พอนั่งทำงานระหว่างวันก็ไม่ค่อยมีสมาธิ กลัวจะวิ่งเข้าห้องน้ำไม่ทัน ใจจดจ่ออยู่กับอาการปัสสาวะของตัวเองไปซะงั้น

หากปล่อยไว้นานๆ เสี่ยงต่อการเกิดภาวะซึมเศร้าได้สูง ยิ่งหากปล่อยไว้จนเรื้อรังไม่ยอมหาย เพราะสาเหตุอาจมาจากโรคอื่นที่เกี่ยวข้องกับระบบขับถ่าย

ใครที่รู้สึกตัวว่าปัสสาวะเล็ดแบบผิดปกติ มีอาการฉี่เล็ดขึ้นมาแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ก็ควรสงสัยตัวเองได้แล้วตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ต้องรอให้อาการหนัก รีบไปพบแพทย์โดยเร็วเป็นดีที่สุด

วิธีรักษาโรคปัสสาวะเล็ดทำได้หรือไม่?

โรคปัสสาวะเล็ด โรคชำรั่ว โรคฉี่เล็ด อาการ

โรคปัสสาวะเล็ดสามารถรักษาได้  แต่ต้องถามก่อนว่า อาการของโรครุนแรงแค่ไหน ซึ่งในแต่ละคนก็จะมีรูปแบบการรักษาที่แตกต่างกันออกไป

บางคนแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพียงเล็กน้อยก็หายได้เองภายในไม่กี่วัน แต่บางคนก็จะใช้ระยะเวลานานเป็นเดือนๆ ซึ่งการรักษาจะมีทั้งแบบปรับพฤติกรรม และการรักษาด้วยยา

การปรับเวลาขับถ่ายปัสสาวะให้เป็นนิสัย ห้ามกลั้นปัสสาวะเอาไว้นานๆ กระตุ้นเตือนตัวเองให้เข้าห้องน้ำทุกๆ 2-3 ชั่วโมง ดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้มากขึ้นแบบค่อยๆ จิบในระหว่างวัน หรือจะลองหันมาบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานให้แข็งแรง หากมีอาการไอเรื้อรัง ให้หาสาเหตุ และหลีกเลี่ยงเพื่อลดตัวกระตุ้น

ส่วนการรักษาด้วยยา ก็ต้องดูที่มาของโรคก่อน แพทย์จึงจะให้ยาที่เหมาะสมเพื่อทำการรักษาที่ต้นตอ ซึ่งจะช่วยให้อาการปัสสาวะเล็ดหายขาดได้