มะเร็งหลังโพรงจมูก เป็นภัยเงียบที่สามารถเกิดขึ้นกับร่างกายโดยที่ผู้ป่วยหลายคนหรือผู้ที่เป็น โรคมะเร็งหลังโพรงจมูก
อาจจะยังไม่ได้ทราบตั้งแต่ต้น ส่วนใหญ่จะมาทราบหลังจากที่โรคเกิดการแพร่กระจาย และโรคนี้ถือเป็นโรคของผู้ใหญ่โดยเฉพาะ
เพราะส่วนมากมักพบในผู้ที่มีอายุ 44-55 ปี ซึ่งก็อยู่ในช่วงวัยกลางคน และมักจะพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิงประมาณ 2-3 เท่า
แต่ขณะเดียวกัน ก็สามารถที่จะพบในเด็กโตได้เช่นกัน เพราะฉะนั้น โรคนี้จึงเป็นโรคที่ไม่ว่าจะวัยใดก็ตาม
ควรที่จะต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก บทความนี้เราจึงนำข้อมูลโรคมะเร็งพลังโพรงจมูกมาแนะนำให้รู้จัก
มะเร็งหลังโพรงจมูกคืออะไร สาเหตุ อาการ และวิธีรักษาป้องกันทำได้อย่างไรบ้าง? ไปติดตามพร้อมๆ กันเลย
มะเร็งหลังโพรงจมูก คืออะไร?
มะเร็งหลังโพรงจมูก (Nasopharygeal carcinoma) หรือเรียกอีกชื่อว่า เนื้องอกกวางตุ้ง เป็นโรคที่มักพบกับผู้ป่วย
ในทางตอนใต้ของประเทศจีนมากพอสมควร ซึ่งบริเวณที่จะเกิดเป็นส่วนใหญ่นั่นก็คือโพรงจมูก โดยเป็นบริเวณที่มีอากาศเข้าไป
เพราะฉะนั้น ก็สามารถที่จะเกิดความผิดปกติของเซลล์ได้ง่ายและทำให้เซลล์เกิดการเปลี่ยนแปลง จนกลายเป็นเนื้อร้ายได้นั่นเอง
สาเหตุของมะเร็งหลังโพรงจมูก
สาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก สามารถแบ่งออกได้ตามแต่ละปัจจัยดังต่อไปนี้
ไวรัส ถือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่สามารถก่อให้เกิดโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกได้ ซึ่งไวรัสชนิดนั้นคือ ไวรัสเอปสไตน์บาร์ (Epstein-Barr virus) หรือ EBV
แต่สำหรับไวรัสชนิดนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกอย่างเดียวเท่านั้น เพราะสามารถที่จะเป็นสาเหตุหลักของโรคมะเร็งอื่นๆ ได้อีกด้วย
พันธุกรรม โรคมะเร็งหลังโพรงจมูกเป็นโรคที่มีความชุกสูงเฉพาะแค่บางเขตภูมิศาสตร์ อย่างประเทศจีนตอนใต้
และในเขตอื่นๆ ที่มีชาวจีนอพยพไปอาศัยอยู่ ซึ่งทำให้เกิดการศึกษาพบว่าพันธุกรรมก็อาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยนำมาซึ่งการเกิดโรคดังกล่าวขึ้นได้
สิ่งแวดล้อม สำหรับโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก สามารถที่จะเกิดได้จากการสูดดมสารเคมีที่สามารถทำให้เซลล์ได้รับการพัฒนาจนกลายเป็นเซลล์มะเร็ง
โดยสารเคมีที่ว่านั้นก็จะมีทั้งฟอร์มาดีไฮด์ สารประกอบนิกเกิล โครเมียม และไม่เพียงแค่สารเคมีเท่านั้น ยังมีส่วนอื่น เช่น เศษฝุ่นต่างๆ
อาหาร เป็นปัจจัยที่บางคนอาจจะยังไม่เข้าใจว่าทำไมแล้วจึงมีความเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก
แต่ก็ได้มีการศึกษาและวิจัยการออกมาว่าการกินของหมักดองหรือปลาเค็ม ก็สามารถที่จะส่งผลต่อการเป็นโรคมะเร็งโพรงจมูกได้
สำหรับปัจจัยเหล่านี้ ถือเป็นเพียงแค่สาเหตุร่วมเท่านั้นที่จะทำให้เกิดการเป็นโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก
เพราะสาเหตุที่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนถึงการเป็นโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกนั้น ยังไม่มีการศึกษาและมีผลลัพธ์ที่แน่นอน
เพราะฉะนั้น สาเหตุเหล่านี้จึงสามารถที่จะเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกได้
อาการของมะเร็งหลังโพรงจมูก
สำหรับในส่วนของอาการมะเร็งหลังโพรงจมูก ในตอนแรกที่เริ่มเป็นโรคนี้อาจจะยังไม่สามารถพบเห็นอาการได้อย่างชัดเจน
หรือบางรายอาจจะไม่ได้มีการแสดงออกของอาการ แต่เนื่องจากว่าเป็นอวัยวะที่อยู่ด้านใน จึงเป็นเรื่องยากที่จะสามารถพบเห็น
แต่อาการจะถูกแสดงออกต่อเนื่อง เมื่อเซลล์มะเร็งได้มีการแพร่กระจายหรือเนื้องอกมีการเจริญเติบโต
ทั้งนี้ เมื่อเนื้องอกมีการเจริญเติบโตมากขึ้น หรือเซลล์มะเร็งมีอาการที่เกิดได้บ่อยๆ นั่นก็คือ อาจจะมีอาการคัดจมูก
และมีน้ำมูกไหลเพียงแค่ข้างเดียว ซึ่งในขณะที่น้ำมูกไหลก็อาจจะมีเลือดกำเดาไหล และมีเสมหะเป็นเลือดด้วยบ้าง
แต่หากน้ำเซลล์มะเร็งได้มีการกระจายเพิ่มเติม ก็อาจจะมีทั้งอาการปวดหู หรืออาจจะมีการได้ยินเสียงน้ำบกพร่อง หรืออาจพบก้อนบางอย่างบริเวณคอ
ระบบประสาทส่วนใหญ่จะเริ่มมีปัญหาเพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็นอาการชาที่ใบหน้า หรืออาจจะทำให้กลืนลำบาก และมีการสำลักอาหารร่วมด้วย
การวินิจฉัยมะเร็งหลังโพรงจมูก
ในส่วนของการวินิจฉัยโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก อย่างแรกแพทย์จะทำการซักประวัติของผู้ป่วย
เพราะสำหรับบางรายอาจจะมีคนในครอบครัวที่มีการป่วยเป็นโรคมะเร็ง ซึ่งสามารถที่จะถ่ายทอดได้ผ่านทางพันธุกรรม
นอกจากนี้ อาจจะมีการตรวจร่างกายร่วมด้วย เพื่อที่จะช่วยในเรื่องของการประเมินขอบเขตของเซลล์มะเร็ง
และจะต้องมีการตรวจชิ้นเนื้อทางพยาธิวิทยาเพื่อช่วยในเรื่องของการวินิจฉัยที่แม่นยำ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่เท่านั้น
เพราะในการวินิจฉัยโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก จะต้องมีการตรวจรูปแบบอื่นๆ เพื่อช่วยในการวินิจฉัยเพิ่มเติมนั่นก็คือ
การตรวจเซลล์ โดยจะเป็นการเจาะและดูดในส่วนของต่อมน้ำเหลือง (Fine neele aspiration biospy) แล้วจึงนำไปตรวจเซลล์
การตรวจเลือด โดยจะใช้การตรวจสารภูมิต้านทานอิมมูโนโกลบูลินเอ (IgA antibodies) เพื่อเป็นการตรวจไวรัสที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งโพรงจมูก
ตรวจ CT(computed tomography) และ MRI(magnetic resonance imaging) ซึ่งเป็นการตรวจทางรังสีวิทยา
และสามารถที่จะบอกขอบเขตของการแพร่กระจายเซลล์มะเร็งได้อย่างชัดเจน เมื่อเซลล์มะเร็งบางส่วนอาจจะมีการกระจายไปถึงอวัยวะต่างๆ
วิธีรักษามะเร็งหลังโพรงจมูก
สำหรับในเรื่องของการรักษามะเร็งหลังโพรงจมูกนั้น ในปัจจุบันมีช่องทางและวิธีรักษามะเร็งหลังโพรงจมูกมากมาย โดยมีดังนี้
การฉายรังสี(radiation therapy) โดยรูปแบบการรักษาผ่านรังสีเพื่อที่จะให้รังสีนี้ไปฆ่าเซลล์มะเร็ง
แล้วช่วยทำให้ขนาดของเนื้องอกนั้นลดน้อยลง โดยต้องใช้ระยะเวลา 6-8 สัปดาห์
การผ่าตัด จะทำหลังจากมีการฉายรังสีลดขนาดของเนื้องอกลง โดยสำหรับในส่วนของการผ่าตัดเนื้องอกหรือมะเร็งโพรงจมูก
จะมีรูปแบบสำหรับการผ่าตัดไม่ว่าจะเป็นทางการส่องกล้องหรือการเปิดแล้วทำการผ่าตัดตามปกติ ซึ่งเป็นที่ที่ช่วยลดอาการปวดได้ดี
เคมีบำบัด(Chemotherapy) เป็นวิธีรักษาและช่วยลดความเสี่ยงในการกลับมาเป็นโรคมะเร็งได้อีกครั้ง
และที่สำคัญยังสามารถที่จะช่วยในการชะลอการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งหรือเนื้องอกได้อีกด้วย
ผลข้างเคียงจากการรักษาโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก
การรักษาโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกสามารถที่จะเกิดผลข้างเคียงได้เช่นเดียวกัน ซึ่งสามารถที่จะแบ่งได้ดังนี้
ผลข้างเคียงจากการใช้รังสี สามารถที่จะทำให้เกิดผลข้างเคียงในส่วนของผิวหนังหรือเนื้อเยื่อที่ได้รับรังสี โดยอาจจะมีอาการเจ็บ
และกลืนอาหารต่างๆ ได้ลำบาก แม้จะเป็นน้ำหรืออาหารอ่อนๆ ก็ตาม มีน้ำลายน้อยลง และสามารถที่จะเกิดเชื้อราในช่องปากได้ง่าย
ผลข้างเคียงจากการใช้เคมีบำบัด โดยมีอาการทั่วไปคือ อาเจียน ผมร่วง เกิดภาวะซีดและภาวะเกล็ดเลือดต่ำพร้อมกัน
ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อจากภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ
วิธีป้องกันโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก
อย่างที่หลายคนทราบดีแล้วว่า โรคมะเร็งหลังโพรงจมูกไม่ได้มีปัจจัยเสี่ยงที่แน่นอน เพราะฉะนั้นแล้ว ปัจจัยเสี่ยงที่เป็นส่วนประกอบ
ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสิ่งแวดล้อม อาหาร รวมไปถึงปัจจัยเสี่ยงรูปแบบอื่นๆ ก็เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีการระมัดระวังมากพอสมควร
อย่างแรกเลยก็คือ จะต้องหลีกเลี่ยงบริเวณอุตสาหกรรมเนื่องจากมีสารเคมีเยอะ
และนอกจากนี้ แนะนำเลยว่าควรจะต้องรับประทานอาหารให้มีประโยชน์ และหมั่นตรวจสุขภาพอยู่บ่อยๆ เพื่อลดความเสี่ยง
วิธีดูแลตัวเองเมื่อเป็นโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก
วิธีดูแลตัวเองเมื่ออยู่ในช่วงของการรักษาโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีความสำคัญ
แนะนำว่า จะต้องมีการดูแลในส่วนของช่องปากมากพอสมควร เพื่อป้องกันการติดเชื้อในปาก โดยควรเช็ดปากด้วยน้ำเกลือก่อนนอน
เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ ควรที่จะต้องมีการเลือกรับประทานอาหารที่มีโปรตีนและพลังงานสูง
เพื่อที่จะทำให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว และที่สำคัญไม่ควรที่จะใช้สบู่หรือผลิตภัณฑ์ในการทำความสะอาด
ที่มีความรุนแรงมากจนเกินไป ควรเลือกรูปแบบที่อ่อนโยน และไม่ควรที่จะออกไปสัมผัสกับแสงแดด หรือแสงยูวีมากจนเกินไปเช่นกัน
Credit : health.kapook.com
โรคมะเร็งหลังโพรงจมูก เป็นโรคที่เรียกได้ว่าไม่สามารถค้นพบได้ตั้งแต่เป็นระยะแรก ยกเว้นว่าจะมีคนในครอบครัวที่เคยป่วยเป็นโรคมะเร็ง
ซึ่งในวิธีนี้ก็จะช่วยป้องกันได้ดี แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าหากว่าเป็นโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกในที่นี้
ไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลหรือเครียดมากจนเกินไป ควรที่จะพยายามรักษาสุขภาพให้ได้ดีมากที่สุด