วิตามินเพื่อสุขภาพคนวัย 40 Up ยกระดับความเฮลตี้ ให้ยิ่งสตรอง !

วิตามินและแร่ธาตุ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับ สุขภาพคนวัย 40 ปี ขึ้นไป เพราะเมื่ออายุ 40 up ร่างกายจะไม่สามารถดูดซึมวิตามินหรือแร่ธาตุต่างๆ ได้ดีเหมือนสมัยหนุ่มสาว

การรับวิตามินเพื่อเสริมให้กับร่างกาย จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากทีเดียว เพื่อกระตุ้นการซ่อมแซมและบำรุงร่างกายอย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

แต่ก่อนที่เราจะเลือกเสริมวิตามิน แร่ธาตุให้เหมาะสมกับวัย รู้หรือไม่ว่าบางทีการกิน วิตามินเพื่อสุขภาพวัย 40 เราก็ต้องศึกษาข้อมูลก่อนเช่นกัน

เพราะวิตามินบางชนิดอาจจะเหมาะสมในแต่ละเพศชาย-เพศหญิงอย่างแตกต่างกัน เพื่อการเสริมสุขภาพอย่างตรงจุดมากขึ้น บทความนี้เรามีคำแนะนำมาฝากแล้วค่ะ

วิตามินและแร่ธาตุ คืออะไร?

วิตามินและแร่ธาตุ (Vitamins and minerals) คือ สารอาหารที่มีความสำคัญต่อร่างกายในการนำไปใช้เพื่อพัฒนาและซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอ

โดยวิตามินมีความจำเป็นต่อทุกเพศทุกวัย เพื่อเป็นการเสริมวิตามินในส่วนที่ขาด ซึ่งสำหรับคนอายุ 40

การได้รับวิตามินและแร่ธาตุจะช่วยเติมเต็มให้กับร่างกายได้ เพราะวิตามินแร่ธาตุบางชนิดนั้น ร่างกายไม่สามารถผลิตเองได้

ทำไมวิตามินและแร่ธาตุ จึงจำเป็นต่อร่างกายคนวัย 40 Up

อย่างที่ทราบกันดีว่าเมื่ออายุมากขึ้นระบบภายในร่างกายจะทำงานได้แย่ลง โดยเฉพาะการดูดซึมสารอาหารอย่างวิตามินและแร่ธาตุที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย

จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง และเสี่ยงเป็นโรคต่างๆ ได้ง่าย โดยเฉพาะหากมีอายุ 40 ปีขึ้นไป

ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ควรที่จะต้องได้รับวิตามิน เพื่อเป็นการบำรุงร่างกายเช่นเดียวกัน

วิตามินของแต่ละเพศที่จำเป็นต่อร่างกาย

การรับประทานวิตามินและแร่ธาตุให้เหมาะสมกับเพศของตนเองเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเพศชายและเพศหญิง มีความต้องการวิตามินและแร่ธาตุที่แตกต่างกัน โดยสามารถที่จะแบ่งได้ ดังนี้

วิตามินสำหรับเพศหญิง

วิตามินดี : วิตามินดีมีความจำเป็นอย่างมากสำหรับผู้หญิงวัย 40 ปีขึ้นไป เพราะสามารถที่จะช่วยในเรื่องของการป้องกันโรคต่างๆ

อย่างเช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคมะเร็งต่างๆ โดยร่างกายควรที่จะได้รับในปริมาณ 600 IU ต่อวัน โดยแหล่งที่สามารถพบวิตามินดีได้ เช่น

  • ปลา
  • ธัญพืช
  • แสงอาทิตย์

แคลเซียม : แคลเซียมเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกายเช่นเดียวกัน เพราะแคลเซียมสามารถที่จะช่วยเติมเต็มมวลกระดูกให้กับร่างกาย

โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป โดยแคลเซียมมีประโยชน์มากกว่าการช่วยเติมเต็มมวลกระดูก

ซึ่งก็คือการที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง นอกจากนี้แล้วไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อ หัวใจ เส้นประสาท

ก็จำเป็นที่จะต้องใช้แคลเซียมช่วยในการทำงาน ซึ่งหากร่างกายมีระดับแคลเซียมที่ไม่เพียงพอ ก็จะทำให้เกิดปฏิกิริยาในการดึงแคลเซียมจากมวลกระดูกมาใช้เพื่อเป็นการทดแทน

ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป ควรที่จะต้องได้รับในปริมาณ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแหล่งที่สามารถพบแคลเซียมได้ เช่น

  • เต้าหู้
  • บร็อคโคลี่
  • อัลมอนด์
  • นม

โอเมก้า 3 : ถึงแม้ว่าโอเมก้า 3 จะเป็นกรดไขมันแต่ก็มีความจำเป็นกับร่างกาย เนื่องจากโอเมก้า 3 สามารถที่จะช่วยในเรื่องของการลดริ้วรอยให้กับผู้หญิงได้ดี

นอกจากนี้ยังลดความเสี่ยงในการเป็นโรคความดันโลหิต โรคหัวใจ ในบางรายยังสามารถช่วยลดการเป็นภาวะสมองเสื่อมได้

ดังนั้นจึงควรที่จะต้องได้รับในปริมาณ 1,000 มิลลิกรัม ต่อวัน โดยแหล่งที่สามารถพบโอเมก้า 3 ได้ เช่น

  • วอลนัท
  • เมล็ดแฟลกซ์ซีด
  • ผักใบเขียว
  • ปลา

โปรไบโอติก : เป็นสารอาหารสำคัญที่จะช่วยในเรื่องของการดูแลระบบลำไส้ และช่วยในการควบคุมน้ำหนักให้กับร่างกาย ซึ่งก็จะช่วยในเรื่องของการดูแลหัวใจ

สามารถป้องกันความเสี่ยงการเกิดโรคเบาหวานและโรคหลอดเลือดสมองได้ แต่การที่จะทำให้ร่างกายได้รับโปรไบโอติก

จะไม่สามารถหาได้ตามอาหารที่มีการปรุงสุกเรียบร้อยแล้ว โดยสามารถที่จะหาได้ คือ อาหารที่ผ่านการหมัก อย่างเช่น โยเกิร์ตหรือกิมจิ

แมกนีเซียม : แมกนีเซียมเป็นแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างมาก โดยจะช่วยควบคุมระบบความดันโลหิตภายในร่างกาย

และช่วยในการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ หากร่างกายได้รับแมกนีเซียมไม่เพียงพอต่อความต้องการ

ก็จะส่งผลทำให้เกิดโรคเบาหวาน ร่างกายควรที่จะต้องได้รับแมกนีเซียมในปริมาณ 320 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแหล่งที่สามารถพบแมกนีเซียมได้ เช่น

  • ผักใบเขียว
  • ถั่ว
  • อะโวคาโด
  • ถั่วเหลือง

วิตามินสำหรับเพศชาย

โบรอน : โบรอนเป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญต่อผู้ชายเป็นอย่างมาก เพราะผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไปมีความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก

ซึ่งโบรอนสามารถที่จะช่วยลดความเสี่ยงได้ และยังช่วยในการป้องกันกระดูกเสื่อม ร่างกายควรที่จะต้องได้รับโบรอนปริมาณ 1-3 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแหล่งที่สามารถพบโบรอนได้ เช่น

  • อะโวคาโด
  • ธัญพืช
  • นมถั่วเหลือง
  • อัลมอนด์

โครเมียม : โครเมียมเป็นแร่ธาตุที่จะช่วยป้องกันสารพิษจากตะกั่ว ช่วยลดความเสี่ยงที่จะทำให้หลอดเลือดแข็งตัว

โครเมียมเป็นแร่ธาตุที่สำคัญอีกหนึ่งชนิดสำหรับผู้ชายที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน

ร่างกายควรที่จะต้องได้รับโครเมียมปริมาณ 35 ไมโครกรัมต่อวัน โดยแหล่งที่สามารถพบโครเมียมได้ เช่น

  • เนื้อไก่
  • น้ำมันข้าวโพด
  • เนยแข็ง
  • ไข่แดง

ซีลีเนียม : ซีลีเนียมเป็นแร่ธาตุที่ระบบการทำงานเกี่ยวข้องกับวิตามินอี โดยสามารถที่จะช่วยชะลอความแก่และการเสื่อมสภาพของเซลล์

สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจวาย และช่วยดูแลเซลล์อื่นๆ ในร่างกายไม่ว่าจะเป็นเซลล์ผิวหนัง หรือแม้แต่กระทั่งสายตา

ร่างกายควรที่จะต้องได้รับซีลีเนียมปริมาณ 70-200 ไมโครกรัมต่อวัน โดยแหล่งที่สามารถพบซีลีเนียมได้ เช่น

  • กระเทียม
  • เห็ด
  • บร็อคโคลี่
  • ปลา
  • อาหารทะเล

ครีเอทีน : ครีเอทีนถือเป็นกรดอะมิโนอีกหนึ่งชนิดที่มีความสำคัญต่อร่างกาย โดยจะช่วยในการบำรุงเซลล์ที่มีความเกี่ยวข้องกับระบบความจำ

ไม่เพียงเท่านั้น ครีเอทีนยังเป็นกรดอะมิโนที่มีความสำคัญกับระบบกล้ามเนื้อ ร่างกายควรที่จะต้องได้รับครีเอทีนปริมาณ 5 กรัมต่อวัน โดยแหล่งที่สามารถพบครีเอทีนได้ คือ เนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ

กรดโฟลิค : กรดโฟลิกสามารถที่จะช่วยป้องกันหลอดเลือดอุดตัน ที่สามารถส่งผลกระทบทำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ได้

ร่างกายควรที่จะต้องได้รับกรดโฟลิกปริมาณ 500 ไมโครกรัมต่อวัน โดยแหล่งที่สามารถพบกรดโฟลิกได้ เช่น

  • ผลไม้รสเปรี้ยว
  • ผักใบเขียว
  • ถั่วต่างๆ

Credit : tlcthai.com

อยากให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง แม้ในยามที่อายุเริ่มมากขึ้น ก็ไม่ควรมองข้ามการดูแลตนเองด้วยวิตามินแร่ธาตุเหล่านี้เด็ดขาด

เพราะ สุขภาพคนวัย 40 นับเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้ช่วงวัยอื่นๆ ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคต่อร่างกายเมื่อมีอายุ 40 ปีขึ้นไป

วิตามินทั้งหมดที่กล่าวมามีล้วนความสำคัญเป็นอย่างมาก ทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไปควรที่จะต้องได้รับในปริมาณที่เหมาะสมต่อวัน