อยากหน้าเรียว สาวๆ ต้องรู้ก่อนคิดศัลยกรรมตัดกราม เหลากราม

ศัลยกรรมผ่าตัดกราม

รูปหน้าที่มีโหนกแก้ม และกรามโดดเด่นออกมาอย่างชัดเจน จนทำให้กลายเป็นรูปหน้าเหลี่ยม มองมุมไหนก็ไม่สวย

ทำให้สาวๆ หลายคนหมดความมั่นใจ เพราะปัจจุบันกระแสรูปหน้าเรียวแบบ v-shape สไตล์สาวเกาหลีนั้นค่อนข้างมาแรง

นี่จึงกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้สาวหน้าเหลี่ยมหมดความมั่นใจจนต้องพึ่งพา การทำศัลยกรรมตัดกราม เหลากราม

เพื่อแก้ไขปรับรูปหน้าเหลี่ยมให้เรียวสวยเป็นรูปไข่กันอย่างล้นหลาม เพราะวิธีนี้จะทำให้ใบหน้าสวยขึ้น เสริมสร้างความมั่นใจอย่างมาดมั่น

และยังทำให้สาวๆ มีบุคลิกที่ดีขึ้นได้อีกด้วย และเนื่องจาก การทำศัลยกรรม เป็นทางลัดที่จะทำให้รูปหน้าเรียวเล็กอย่างได้ผล

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก่อนทำสาวๆ จะต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการทำศัลยกรรมตัดกราม เหลากรามอย่างละเอียดก่อนจึงจะดีที่สุด

ข้อควรรู้! ก่อนทำศัลยกรรมตัดกราม เหลากราม มีอะไรบ้าง? 

ในระหว่างที่กำลังคิดพิจารณาเพื่อตัดสินใจทำ ศัลยกรรมตัดกราม เหลากราม นี้ เรามาดูกันก่อนดีกว่านะคะว่า มีเรื่องใดบ้างที่คุณควรศึกษารายละเอียดเอาไว้

เพื่อจะได้เป็นการเตรียมตัวก่อนทำอย่างดีที่สุด ซึ่งเราก็มีรายละเอียดอันเป็นข้อควรรู้ก่อนทำมาฝากกันแล้ว มาดูกันเลยดังนี้ค่ะ

1.เลือกทำศัลยกรรมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดีที่สุด

แม้ การทำศัลยกรรม จะเริ่มเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายมากขึ้น เพราะทำให้ผู้หญิงมีใบหน้าที่สวยราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคนได้

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ยังมีผู้ทำศัลยกรรมหลายคนพบกับปัญหาความบกพร่องหลังทำ ทำให้ต้องแก้ไขกันถึงหลายรอบก็มี

สาเหตุก็เพราะเลือกทำศัลยกรรมกับแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญ หรือไม่มีมาตรฐานคุณภาพนั่นเอง

เพราะฉะนั้น หากสาวๆ คนไหนกำลังตัดสินใจอยากทำศัลยกรรม แนะนำให้เลือกทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านศัลยกรรมจริงๆ

และควรเลือกทำกับโรงพยาบาลที่วางใจได้ มีเครื่องมือหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ครบครัน ทันสมัย ได้มาตรฐาน

หลังจากได้โรงพยาบาลที่ต้องการแล้ว จากนั้นควรปรึกษาแพทย์ก่อนเป็นอย่างดี เพื่อให้แพทย์ทำการตรวจและสแกนโครงสร้างใบหน้า

ทั้งนี้แพทย์จะได้ทำการวิเคราะห์และประเมินผลว่า ทำออกมาแล้วจะมีใบหน้ารูปทรงแบบใด เพื่อให้เกิดความมั่นใจก่อนตัดสินใจทำ

และจะได้ให้คำแนะนำถึงการเตรียมตัวก่อนทำให้พร้อม นอกจากนี้ ผู้ทำควรแจ้งประวัติเกี่ยวกับโรคประจำตัว และการแพ้ยาให้แพทย์ทราบโดยละเอียดด้วย

2.ทางเลือกในการผ่าตัดมีกี่ทางเลือก อะไรบ้าง?

สำหรับขั้นตอนของการผ่าตัดนั้น แพทย์จะให้ยาสลบ ก่อนจะลงมือทำการผ่าตัด โดยมีด้วยกัน 2 ทางเลือก ดังนี้

2.1 ผ่าตัดจากนอกช่องปาก

การผ่าตัดแบบนี้ แพทย์จะผ่าโดยการเปิดแผลจากภายนอกบริเวณที่อยู่ใกล้มุมกราม ซึ่งจะผ่าเปิดกระดูกมุมกราม

จากนั้นใช้เลื่อยตัดกระดูกตามแนวที่ต้องการ เสร็จแล้วก็เอาชิ้นกระดูกที่เป็นส่วนเกินออกไป

ต่อมาก็ตกแต่งมุมกระดูกกรามให้เรียบร้อย เย็บแผลปิด แต่วิธีผ่าตัดแบบนี้อาจทำให้เกิดแผลเป็นขึ้นชัดได้

2.2 ผ่าตัดจากในช่องปาก

เป็นการผ่าตัดเพื่อเปิดแผลภายในช่องปาก ซึ่งตรงกับบริเวณหลังฟันกรามซี่สุดท้าย โดยแพทย์จะใช้เลื่อยมาตัดกระดูกมุมกรามออกตามแนวที่ต้องการ

จากนั้นจึงทำการตกแต่งกระดูกส่วนที่เหลือ แล้วเย็บปิดแผล วิธีนี้ค่อนข้างมีความยุ่งยากกว่าวิธีแรก

แต่ก็เป็นวิธีที่มักได้รับความนิยมมากกว่า เพราะหลังจากผ่าตัดแล้วจะไม่มีแผลเป็นนั่นเอง

3.วิธีดูแลตัวเองหลังผ่าตัด ควรทำอย่างไร?

3.1 วันแรกที่ผ่าตัดเสร็จแล้ว ควรงดรับประทานอาหารเพื่อป้องกันไม่ให้แผลเกิดการติดเชื้อ หลังจากนั้นก็สามารถรับประทานอาหารได้

โดยควรเน้นทานอาหารอ่อนๆ เท่านั้น เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก นมและน้ำผลไม้ เป็นต้น อีกทั้งโดยทั่วไปแล้ว

หลังผ่าตัดผู้ป่วยจะต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลอีกประมาณ 2-3 วัน เพื่อรอดูอาการและพยาบาลจะได้ให้การทำความสะอาดแผลผ่าตัดได้เป็นอย่างดีที่สุด

3.2 หลังผ่าตัดในระยะแรกๆ แผลผ่าตัดมักมีอาการบวมช้ำ จนทำให้ไม่สามารถอ้าปากได้สะดวก แต่ทั้งนี้ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป

เพราะอาการบวมจะค่อยๆ ดีขึ้น และยุบตัวลงไปเองได้ ในช่วงนี้แนะนำให้ผู้ผ่าตัดพยายามหมั่นอ้าปากบ่อยๆ

เพื่อช่วยบริหารข้อต่อขากรรไกร และยังช่วยป้องกันการเกิดพังผืดแข็งที่อยู่บริเวณโดยรอบกรามได้อีกด้วย

พร้อมกันนี้ หากผู้ป่วยพบว่ามีอาการเพิ่มเติมอื่นๆ เช่น อาการปวดแผล หรือหูอื้อก็ไม่ต้องตกใจไปค่ะ

เพราะอาการทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้น เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 2-4 สัปดาห์ ทุกอย่างก็จะเข้าที่ อาการปวดและอาการผิดปกติต่างๆ จะหายไปเอง

อีกทั้งใบหน้าก็จะใช้เวลาในการเข้าที่อยู่ที่ประมาณ 1-2 เดือน ในระหว่างนี้คุณจึงควรดูแลตัวเองดีๆ ไม่เครียด

พักผ่อนให้เพียงพอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เป็นหลักจะดีที่สุด

3.3 การดูแลตัวเองหลังจากผ่าตัด ในช่วงแรก สามารถประคบด้วยถุงน้ำแข็งได้ค่ะ โดยให้ประคบประมาณ 1-2 วัน

ก็จะช่วยลดอาการบวมและรอยเขียวช้ำตรงบริเวณแผลผ่าตัดได้ นอกจากนี้ ในเวลานอนก็ปรับใช้หมอนสูง เพื่อยกศีรษะให้สูงกว่าช่วงลำตัว

ก็จะช่วยลดอาการบวมได้อีกทางเช่นกัน ไม่เพียงเท่านั้นนะคะ ผู้ทำศัลยกรรมผ่าตัดควรได้รับการทำความสะอาดแผลอย่างสม่ำเสมอเป็นอย่างดี

ควรรับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และควรพบแพทย์ทุกครั้งตามนัดด้วย

4.ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัดกราม

การทำศัลยกรรมด้วยการผ่าตัดหรือรูปแบบใดก็ตาม ล้วนมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นหลังทำด้วยกันทั้งนั้น และในส่วนของการศัลยกรรมผ่าตัดกรามก็เช่นเดียวกัน

โดยผลข้างเคียงที่มักพบส่วนใหญ่ก็จะเป็นปัญหาแผลอักเสบ ติดเชื้อ กระดูกกรามไม่เท่ากัน เส้นประสาทได้รับการกระทบกระเทือน

จนอาจทำให้มีอาการชาตามบริเวณริมฝีปาก และที่ร้ายแรงมากที่สุดก็คือ กระดูกกรามหัก สำหรับกรณีที่กระดูกกรามหักนั้น

ก็อาจเกิดขึ้นเนื่องจากกระบวนการผ่าตัดที่เป็นไปอย่างไม่ถูกต้อง แต่โอกาสในการเกิดค่อนข้างมีน้อย

อย่างไรก็ตาม อาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นภายหลังจากผ่าตัดกราม เหลากรามนี้สามารถรักษาได้เช่นเดียวกัน

เพราะฉะนั้น หากสาวๆ ผ่าตัดกรามมาแล้วพบอาการผิดปกติก็ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วจะดีที่สุด

เพราะหากมีความผิดปกติเกิดขึ้นหลังจากผ่าตัดจริง แพทย์จะได้รีบทำการแก้ไขได้อย่างทันการณ์ต่อไป

v-shape-face

Credit : sidekickedintheassff.com

การทำศัลยกรรมทุกรูปแบบ สาวๆ จะต้องใส่ใจศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับ การทำศัลยกรรม นั้นๆ ก่อนเป็นอย่างดี

และควรปรึกษากับทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ไว้วางใจได้ โดยเฉพาะการทำ ศัลยกรรมตัดกราม เหลากราม ก็เช่นเดียวกัน

เพื่อความสวยของใบหน้าที่ไร้ผลข้างเคียงน้อยที่สุด และเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองด้วย