ช่วงนี้จะได้ยินคำถามจากใน Pantip กันเยอะเลยค่ะว่า จะซือเครื่องฟอกอากาศมาใช้ดีมั้ย เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี กันฝุ่น pm2.5 ได้มั้ย เป็นต้นค่ะ
นั่นก็เพราะ เริ่มปี 2019 มานี้ คนที่อาศัยอยู่ในหัวเมืองใหญ่ๆ จะได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราได้ง่ายเลยนะคะ อยากเช่น ในเมืองใหญ่ อย่างกรุงเทพกำลังเจอวิกฤติ ค่าฝุ่นละอองพุ่งขึ้นสูงจากเมื่อก่อนมาก จนอาจเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ และเสี่ยงต่อการป่วยด้วยโรคต่างๆ ได้ง่าย เช่น โรคหอบหืด ภูมิแพ้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฝุ่น pm2.5 นี้ มีผลต่อภาวะสมรรถภาพทางเพศเสื่อม นกเขาไม่ขัน ได้นะคะ
ดังนั้น เครื่องฟอกอากาศ จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่ทุกบ้านควรมี เพื่อใช้ในการกำจัดฝุ่นละอองในอากาศให้ลดน้อยลงที่สุด
โดยเราก็มี 5 เครื่องฟอกอากาศที่ดีที่สุด มาแนะนำกันด้วย รับรองว่าใช้แล้วได้ผลดีจริง ให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าแบบไม่ผิดหวังแน่นอน
- เครื่องฟอกอากาศ คืออะไร?
- หลักการเลือกซื้อ เครื่องฟอกอากาศ
- 5 เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี 2019
- เครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่น FP-J30TA
- เครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่นใหม่ 2019 FP-J80TA-H
- เครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่น FP-FM40B พร้อมฟังก์ชั่นดักยุง
- เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Air Purifier PRO
- เครื่องฟอกอากาศ Dyson PURE Cool Cool
เครื่องฟอกอากาศ คืออะไร?
เครื่องฟอกอากาศ ก็คืออุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่จะช่วยในการฟอกเอาสิ่งสกปรกที่อยู่ในอากาศออกไป โดยเฉพาะฝุ่นละอองที่แทบมองไม่เห็น แต่เป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างมาก โดยเครื่องฟอกอากาศจะทำหน้าที่กำจัดสิ่งเหล่านี้ให้หมดไป ทำให้อากาศมีความสะอาดและบริสุทธิ์มากขึ้น
ซึ่งก็ส่งผลดีต่อสุขภาพของคุณและคนในครอบครัวมากทีเดียว เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงการเจ็บป่วยที่อาจเกิดจากปัญหาฝุ่นละอองได้ โดยเฉพาะในภาวะที่ฝุ่นกทม มีปริมาณมากแบบนี้ การใช้เครื่องฟอกอากาศควบคู่ไปกับหน้ากากกันฝุ่น n95 จะช่วยแก้ปัญหาได้ดีที่สุด
หลักการเลือกซื้อ เครื่องฟอกอากาศ
เพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความคุ้มค่ามากที่สุด จะต้องเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะสมกันด้วย โดยมีคำแนะนำในการเลือกซื้อดังนี้
1.ต้องมีค่า Air Volume หรือ Air Flow สูง
สิ่งสำคัญอันดับแรกในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ ก็คือค่า Air Volume หรือ Air Flow นั่นเอง โดยควรมีค่าดังกล่าวนี้สูงพอสมควร เพราะนั่นแสดงได้ถึงความเร็วในการกรองฝุ่นละออง และสิ่งสกปรกออกจากอากาศ
ซึ่งยิ่งมีค่านี้สูงมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีประสิทธิภาพสูงมากเท่านั้น ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อ ก็ควรลองเปรียบเทียบเครื่องฟอกอากาศ หลายรุ่นกันดู โดยสังเกตจากค่า Air Volume หรือ Air Flow ว่ารุ่นไหนมีค่าดังกล่าวนี้สูงกว่ากัน
2.ควรมีขนาดที่เหมาะสม
ขนาดของเครื่องฟอกอากาศก็มีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยควรเลือกขนาดที่เหมาะสมไม่เล็ก ไม่ใหญ่จนเกินไป สามารถนำไปติดตั้งภายในบ้านหรือภายในห้องของคุณได้โดยไม่เกะกะ ดังนั้นก็ต้องดูด้วยว่า ห้องหรือบริเวณที่จะนำเครื่องฟอกอากาศไปติดตั้งนั้น มีความเหมาะกับเครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดเท่าไหร่
3.ค่า CADR ยิ่งสูงยิ่งดี
CADR คือค่าที่บอกถึงปริมาณของสิ่งสกปรกในอากาศที่สามารถฟอกออกไปได้ในแต่ละนาทีว่ามากน้อยเพียงใด ดังนั้น ยิ่งมีค่า CADR มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีมากเท่านั้น เพราะเท่ากับว่า จะสามารถกำจัดฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกภายในบ้านออกไปได้ในปริมาณมากด้วยนั่นเอง
4.เสียงต้องไม่ดังจนเกินไป
เครื่องฟอกอากาศแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นจะมีเสียงดังแตกต่างกันไป โดยเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมนั้น ควรมีระดับเสียงที่พอเหมาะ ยิ่งเงียบเท่าไหร่ยิ่งดี เพื่อไม่ให้เกิดการรบกวนจนน่ารำคาญ และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้นั่นเอง
ทั้งนี้ก็อาจจะต้องพิจารณาจากบริเวณที่จะนำเครื่องฟอกอากาศไปใช้งานด้วย กล่าวคือ หากเป็นในห้องโถงหรือห้องนั่งเล่น เสียงที่ดังเพียงเล็กน้อย อาจไม่เป็นอุปสรรคมากนัก แต่หากเป็นห้องนอนที่ต้องการความเงียบสงบ ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่แทบจะไม่มีเสียงให้ได้ยินเลยจะดีกว่า
5.มีอัตราการกินไฟต่ำ
โดยส่วนใหญ่จะต้องเปิดใช้งานเครื่องฟอกอากาศตลอดทั้งวัน เพื่อกรองเอาสิ่งสกปรกภายในอากาศออกมาตลอดเวลา ดังนั้นจึงควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีอัตราการกินไฟต่ำด้วย ซึ่งอาจจะลองเปรียบเทียบกันสักประมาณ 2-3 ยี่ห้อก็ได้ แล้วเลือกเอายี่ห้อที่กินไฟน้อยที่สุด เพื่อช่วยให้คุณได้ประหยัดค่าไฟให้น้อยลงนั่นเอง
6.มีคุณภาพและได้มาตรฐาน
เครื่องฟอกอากาศ ควรจะมีคุณภาพและได้มาตรฐาน เพื่อให้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่า ยาวนาน โดยส่วนใหญ่ที่ตัวเครื่องก็จะมีเครื่องหมายรับรองความมีมาตรฐานอยู่ หรืออาจสอบถามกับพนักงานขายก็ได้
5 เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี 2019
มาดูกันเลยว่ามี เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนบ้าง ที่ใช้ดี และกำลังได้รับความนิยมในปี 2019 นี้ โดยเราก็ได้รวบรวมมาแนะนำ 5 ยี่ห้อด้วยกัน รับรองว่าถูกใจใครหลายคนอย่างแน่นอน
เครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่น FP-J30TA
Sharp แบรนด์ดังที่ได้รับความนิยมในวงการเครื่องใช้ไฟฟ้ามาอย่างยาวนาน เนื่องจากเป็นยี่ห้อที่ได้รับการยอมรับว่ามีคุณภาพดีจริง ได้มาตรฐาน และใช้งานได้อย่างยาวนาน คุ้มค่าที่สุด โดย เครื่องฟอกอากาศ sharp รุ่น FP-J30TA ก็มาพร้อมกับดีไซน์การออกแบบที่ดูสวยงาม มีขนาดกะทัดรัดน่าใช้ สำหรับห้องขนาด 23 ตารางเมตร สามารถปรับความแรงในการฟอกอากาศได้มากถึง 3 ระดับ และยังมีแผ่นกรอง HEPA ที่จะช่วยดักจับฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กมากได้อย่างดีเยี่ยม
จึงมั่นใจได้เลยว่า จะสามารถกำจัดสิ่งสกปรกและฝุ่นละอองในอากาศให้หมดไปได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ก็มีการนำ เทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์เข้ามาช่วย จึงก่อให้เกิดผลดีต่อสุขภาพในระยะยาวกันเลยทีเดียว
เครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่นใหม่ 2019 FP-J80TA-H
เครื่องฟอกอากาศรุ่นใหม่ล่าสุดองปี 2019 จาก sharp ที่มีการออกแบบมาให้ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีที่สุด ซึ่งก็มาพร้อมกับฟังก์ชั่นการใช้งานสุดพิเศษมากมาย ที่จะทำให้คุณใช้งานได้อย่างคุ้มค่า และส่งผลดีต่อสุขภาพอีกด้วย
โดย เครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่นใหม่ 2019 FP-J80TA-H มีเซ็นเซอร์การตรวจจับฝุ่นในอากาศ จึงสามารถกำจัดฝุ่นผง สิ่งสกปรกได้อย่างหมดจด แทบไม่เหลือให้ต้องระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจเลยทีเดียว
ทั้งยังมีแผ่นกรองฝุ่น HEPA ที่สามารถดักจับฝุ่นที่มีขนาดเล็กได้มากถึง 0.3 ไมครอน มีระบบ IOT ให้คุณควบคุมการใช้งานเครื่องฟอกอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟนและอินเทอร์เน็ตได้
ที่สำคัญเลยก็คือ มีระบบพลาสม่าคลัสเตอร์ที่เข้มข้นมากถึง 3 เท่าจากปกติ จึงสามารถกำจัดสิ่งสกปรกและเชื้อโรคภายในอากาศได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งต้องบอกเลยว่าดีต่อสุขภาพจริงๆ
เครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่น FP-FM40B พร้อมฟังก์ชั่นดักยุง
เครื่องฟอกอากาศที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะมีฟังก์ชั่นเสริมช่วยดักยุงได้เป็นอย่างดี โดย เครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่น FP-FM40B มีระบบพลาสม่าคลัสเตอร์แบบเข้มข้น ที่จะช่วยฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
ซึ่งนอกจากจะกำจัดฝุ่นละอองที่อยู่ในอากาศได้ดีแล้ว ก็จะช่วยฆ่าเชื้อโรคที่เป็นภัยต่อสุขภาพและสลายกลิ่นอับให้หมดไปได้อีกด้วย ประกอบกับมีระดับเสียงที่เงียบมาก จึงหมดกังวลกับเรื่องเสียงดังรบกวนไปได้เลย สามารถนำมาใช้ในห้องนอนได้อย่างสบายใจ เพราะจะไม่รบกวนการนอนหลับของคุณอย่างแน่นอน
เพราะฉะนั้น หากคุณกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศที่มีคุณภาพดี น่าใช้งานอยู่ล่ะก็ เครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ก็จะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด
เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Air Purifier PRO
ต้องบอกเลยว่าขายดีที่สุดเลยทีเดียวสำหรับเครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ ซึ่งก็มีขนาดมอเตอร์ที่ใหญ่พอสมควร จึงมีประสิทธิภาพในการฟอกอากาศสูงขึ้น สามารถกำจัดฝุ่นผง สิ่งสกปรกที่อยู่ภายในอากาศได้มากกว่าปกติ ทั้งยังมีหน้าจอ OLED ที่จะช่วยบอกถึงความชื้น ค่าอากาศ และอุณหภูมิของห้องในขณะนั้นได้อีกด้วย
ที่สำคัญมีระบบการควบคุมการทำงานผ่าทางสมาร์ทโฟน จึงทำให้คุณใช้งานเครื่องฟอกอากาศยี่ห้อนี้ได้ง่ายมากขึ้นไปอีก ทั้งยังมีโหมดการทำงานให้เลือกมากถึง 3 โหมด อยากใช้โหมดไหนก็เลือกได้ตามความเหมาะสมกันเลย
นอกจากนี้ เครื่องฟอกอากาศ mi air purifier pro ก็มีการกินไฟน้อยมาก โดยใช้ไฟน้อยสุดแค่ 1.5 วัตต์เท่านั้น จึงช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟได้เยอะเลยทีเดียว
เครื่องฟอกอากาศ Dyson PURE Cool Cool
เครื่องฟอกอากาศ Dyson Pure Cool Cool มีระบบการทำงานผ่านการควบคุมด้วยสมาร์ทโฟนจากระยะไกล สามารถกำจัดฝุ่นละอองในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ภายในห้องหรือบริเวณบ้านของคุณสะอาด ปราศจากมลพิษถึง 99.95% โดยเครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ ก็จะสามารถกรองได้ทั้งละอองเกสร สารก่อภูมิแพ้ เชื้อรา แบคทีเรีย รวมไปถึงเชื้อโรคที่มีอนุภาคเล็กมาก พร้อมทั้งปล่อยอากาศที่บริสุทธิ์ออกมาหมุนเวียนไปทั่วห้อง ให้คุณได้สูดอากาศที่มีความสะอาด ปลอดภัยต่อสุขภาพ แถมยังมีหน้าจอ LCD ที่จะบอกได้ว่าขณะนั้นมีก๊าซและอนุภาคอยู่ภายในห้องมากน้อยเท่าไหร่อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงจริงๆ
https://youtu.be/eRgJ-2nJJWM
และนี่ก็คือ 5 เครื่องฟอกอากาศที่ดีที่สุดในปี 2019 นี้นั่นเอง ใครที่อยากให้อากาศภายในบ้านเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ สะอาด ปลอดภัย ก็ต้องเลือกเครื่องฟอกอากาศเหล่านี้ เพื่อสุขภาพของคุณและคนในครอบครับที่รัก แล้วคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
แหล่งอ้างอิง
https://www.dailynews.co.th/bangkok/687661, http://www.dooddot.com