สุขภาพของช่องปากที่ดี คงไม่ใช่แค่การดูแลฟันให้ขาวสะอาดอย่างเดียวเท่านั้น แต่สุขภาพเหงือกก็เป็นส่วนยึดเกาะของฟันที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน
ใครที่กำลังเผชิญปัญหาเหงือกดำ (Black Gums) หรือ เหงือกเป็นสีคล้ำ จนทำให้หมดความมั่นใจ ไม่กล้ายิ้มให้ใครต่อใคร แถมยังหาสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้ว่ามีต้นตอมาจากอะไร
ดังนั้นสาวๆ ลองมาหาคำตอบกันดีกว่าค่ะว่า เราจะสามารถแก้ปัญหาเหงือกดำคล้ำ ให้กลับมาเป็นสีชมพูดูมีสุขภาพดีอีกครั้งได้ไหม ?
แล้วความผิดปกติของเหงือกที่เกิดขึ้นนี้ก็ต้องสังเกตให้ดีด้วยว่า จะเป็นสัญญาณอันตรายตามมาด้วยหรือไม่ ?
เหงือกดำ เหงือกมีสีคล้ำ มีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง ?
ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจสีของเหงือกที่เปลี่ยนไปก่อนว่า ปัญหาเหงือกที่เปลี่ยนจากสีชมพูกลายเป็นสีดำคล้ำนั้น
เนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของเม็ดสีเมลานิน มีการสะสมมากขึ้นกว่าปกติ ซึ่งจะอยู่ในชั้นหนังกำพร้าด้านในของเหงือกที่มีความใส
บางครั้งอาจจะพบความคล้ำเป็นจุดๆ เล็กน้อย หรือบางๆ บางรายก็เป็นสีคล้ำหนา
มองเห็นชัดไปตามแนวของขอบเหงือกกันเลยทีเดียว โดยสาเหตุที่ทำให้เหงือกดำคล้ำเช่นนี้ มีจากหลายปัจจัยด้วยกัน ที่พบได้บ่อยคือ
1.ลักษณะทางกรรมพันธุ์ ที่เป็นสาเหตุทำให้สีของเหงือกมีสีเข้มมากกว่าปกติ ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติของแต่ละคน
ลักษณะเช่นนี้พบได้มากในกลุ่มคนแถบละตินอเมริกา เอเชีย และแอฟริกัน
2.การเกิดขึ้นจากโรคบางชนิด ซึ่งพบได้น้อยมาก จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสีเหงือกไปในทิศทางที่เข้มขึ้น
เช่น โรค chronic pulmonary disease, โรค hemachromatosis และ โรค melanoma เป็นต้น
3.การอักเสบของเหงือกหรือได้รับบาดเจ็บ
4.การสูบบุหรี่จัด เนื่องจากในบุหรี่มีสารกระตุ้นที่ไปทำให้เม็ดสีเมลานินเพิ่มมากขึ้น
บวกกับความร้อนและควันทำให้เนื้อเยื่อเหงือกเกิดความระคายเคือง
จนกลายเป็นภาวะอักเสบซ้ำๆ ทำให้สีเหงือกเข้มขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นสีดำ
5.ภาวะเหล็กเกินในร่างกาย กรณีที่มีการสะสมของแร่ธาตุชนิดนี้ในปริมาณมากตามเนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆ
ซึ่งจะเข้าไปสะสมอยู่ภายในเหงือกด้วย ทำให้สีของเหงือกคล้ำขึ้น
6.ผู้ป่วยโรคปอด และโรคมะเร็งผิวหนัง ส่งผลให้สีเหงือกคล้ำมากขึ้น
7.ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ
8.การได้รับยาบางชนิด ที่จะส่งผลกระทบให้เหงือกเปลี่ยนสี เช่น ยาต้านเชื้อมาลาเรีย
ปัญหาเหงือกดำ มีปัญหาร้ายแรงต่อสุขภาพหรือไม่ ?
ปัญหาเหงือกดำ มีสีคล้ำ ไม่ได้เป็นอันตรายที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพแต่อย่างใด
นอกจากจะเกิดขึ้นจากสาเหตุของโรคอื่นๆ แต่หากมาจากการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีภายในชั้นเหงือกเอง
ความน่ากังวลใจเดียวที่พบได้คือเรื่องความสวยความงาม และความมั่นใจ ยิ่งเป็นคนที่มีปัญหารุนแรง
ซึ่งเรียกกันว่า “ยิ้มเหงือก” หรือ Gummy smile เป็นภาวะที่สามารถเห็นเหงือกได้ชัดเจนมากกว่าคนทั่วไปขณะยิ้ม
วิธีรักษาเหงือกดำให้กลับมาเป็นสีเหงือกตามปกติ
ในปัจจุบันการรักษาเหงือกดำ มีด้วยการหลายวิธี ซึ่งจะช่วยเปลี่ยนปัญหาเหงือกสีเข้มให้กลับมาเป็นสีชมพูอ่อนได้
แต่กรรมวิธีต่างๆ เหล่านี้ ล้วนขึ้นอยู่กับลักษณะสีเหงือกของแต่ละคน การรักษาแต่ละวิธีจะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไปด้วย
1.ในอดีตจะมีการใช้สารเคมีจำพวกฟีนอล ซึ่งในปัจจุบันไม่ค่อยได้รับความนิยมแล้ว
เนื่องจากพอหยุดใช้ ไม่นานสีเหงือกก็จะกลับไปเข้มเหมือนเดิม และสารเคมียังส่งผลอันตรายต่อเนื้อเยื่ออีกด้วย
2.การผ่าตัดด้วยความเย็น หรือที่เรียกกันว่า cryosurgery เป็นวิธีที่จำเป็นต้องใช้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญมากเป็นพิเศษ
ซึ่งต้องทำหน้าที่ควบคุมไนโตรเจนเหลวเข้าไปให้ได้ความลึกที่พอดี
ภายหลังการรักษามักจะทำให้เนื้อเยื่อเหงือกเกิดอาการบวมตามมาได้
3.การกรอผิวเหงือกเป็นอีกวิธีที่ได้รับความนิยม ในกลุ่มคนที่มีสีเหงือกเข้มแค่จุดเล็กๆ ไม่มากนัก
โดยจะใช้หัวกรอฟันเป็นตัวช่วย จะไม่เหมาะกับคนที่มีสีเหงือกเข้ม เนื่องจากเครื่องกรอควบคุมความลึกได้ยากนั่นเอง
4.การปลูกถ่ายเนื้อเยื่อเหงือก ซึ่งจะใช้การผ่าตัดเข้ามาช่วย ตัดเอาส่วนของเหงือกที่มีสีเข้มออกไป
แล้วใช้ผิวเหงือกส่วนอื่นที่เป็นสีปกติมาปิดทดแทน วิธีนี้มักจะมีปัญหาตามมานั่นก็คือ
สีของเหงือกทั้งสองตำแหน่งที่ถูกนำมาใช้ จะมีสีเหงือกไม่เหมือนกัน แลดูไม่เป็นธรรมชาติ
การใช้เลเซอร์รักษาเหงือกดำคล้ำ วิธีการรักษาที่ได้ผลมากที่สุดในปัจจุบัน
เนื่องจากการรักษาดังกล่าวข้างต้นที่พูดถึง มักไม่ค่อยได้รับความนิยม มีผลข้างเคียงมาก
และผลลัพธ์ที่ออกมาไม่ค่อยเป็นที่น่าพอใจนัก ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่
ทำให้การใช้เลเซอร์ (Laser De-pigmentation) กลายมาเป็นทางออกที่ดีที่สุดในเวลานี้
โดยจะใช้พลังงานเลเซอร์ไปทำการระเหิดผิวเหงือก กระบวนการที่ทำไม่ยุ่งยาก
ผลที่ได้คือการเปลี่ยนแปลงสีเหงือกได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง ปลอดภัย และลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้เป็นอย่างดี
การใช้เลเซอร์ระเหิดผิวเหงือก จะทำให้ทันตแพทย์เข้าไปแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด
ผู้ป่วยมีบาดแผลบ้างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่แทบจะไม่มีอาการเจ็บปวดใดๆ เลย
อีกทั้งยังสามารถควบคุมความลึกของเหงือกได้ ช่วยกำจัดเม็ดสีได้ตรงตำแหน่ง
ภายหลังการรักษาแทบจะไม่พบอาการแทรกซ้อนใดๆ เกิดขึ้นตามมาเลย ไม่มีเลือดออก
หรืออาการบวม ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ และแผลจะหายดีภายใน 1-2 อาทิตย์
โดยในระหว่างนี้ก็ไม่ต้องมีการดูแลเป็นพิเศษใดๆ แต่ขั้นตอนการลอกผิวเหงือกด้วยเลเซอร์
ต้องทำอย่างน้อย 2-3 ครั้ง เพื่อให้เกิดการกำจัดเม็ดสีได้อย่างมีประสิทธิภาพ สีเหงือกไม่กลับมาดำคล้ำได้อีก
Phot Credit : chandigarhdentist.com
แม้ปัญหาเหงือกดำ จะไม่ใช่อาการที่มีความรุนแรงหรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ทว่าการมีสีเหงือกที่ไม่เป็นสีชมพูสดใส จะทำให้เกิดความรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง เหมือนคนสุขภาพไม่ดี
ใครที่มีปัญหาเหงือกสีคล้ำเข้มมาก ลองปรึกษาทันตแพทย์เพื่อหาทางรักษา
ที่เชื่อในปัจจุบันเทคโนโลยีการแพทย์ จะช่วยแก้ไขสีเหงือกให้กลับมาสวยและสุขภาพดีได้อีกครั้งอย่างแน่นอนค่ะ