โรคนิ่วในไต สาเหตุ อาการ พร้อมวิธีรักษาป้องกันอย่างถูกต้อง

โรคนิ่วในไต อาการ สาเหตุ วิธีการรักษา

โรคนิ่วในไต เป็นโรคที่อยู่ใกล้ตัวเรา โดยที่หลายคนอาจจะไม่ทันนึกถึง และมีผู้ป่วยด้วยโรคนี้เป็นจำนวนมาก

บางคนเป็นแล้วไม่รู้ตัว วันนี้เราตามไปดูกันดีกว่าว่าโรคนี้เป็นอย่างไร มีอาการ สาเหตุ และวิธีรักษาป้องกันอย่างไรบ้าง

โรคนิ่วในไต คืออะไร

โรคนิ่วในไต มีชื่อเรียกภาษาอังกฤษว่า Kidney Stones เป็นโรคที่เกิดจากแร่ธาตุแข็งชนิดต่าง ๆ

ที่เกิดการรวมตัวกันจนกลายเป็นก้อน ก้อนนิ่วมีหลายชนิด ซึ่งมีขนาดที่แตกต่างกันออกไป โดยปกติจะเกิดขึ้นบริเวณไต

แต่สามารถพบได้ตลอดทางเดินปัสสาวะ จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้สูงหากปัสสาวะมีความเข้มข้นจนทำให้ธาตุต่าง ๆ ตกตะกอน

จนจับตัวกันกลายเป็นก้อนนิ่ว นิ่วในไตจะสร้างความทุกข์ทรมานให้แก้ผู้ป่วยได้เป็นอย่างมาก

หากก้อนนิ่วมีขนาดใหญ่จนไปปิดกั้นและสร้างบาดแผลที่ไต จะทำให้ปัสสาวะออกมาเป็นเลือด

อาการของนิ่วในไต

ก้อนนิ่วที่มีขนาดเล็กมาก อาจหลุดออกไปพร้อมกับปัสสาวะโดยไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองหรือเจ็บปวดใด ๆ

อาการของนิ่วในไตจะยังไม่ปรากฏอาการจนกว่านิ่วจะเริ่มเคลื่อนตัวรอบ ๆ ไตไปยังท่อไต

เป็นท่อที่เชื่อมระหว่างไตและกระเพาะปัสสาวะ จะส่งผลทำให้ผู้ป่วยที่มีนิ่วในไต มีอาการดังต่อไปนี้

  • ปวดบริเวณหลังหรือช่องท้องด้านล่างข้างใดข้างหนึ่ง อาจเกิดอาการปวดร้าวลงมาจนถึงบริเวณขาหนีบ
  • จะมีอาการปวดบีบเป็นระยะ มีอาการปวดรุนแรงเป็นช่วง ๆ ที่บริเวณดังกล่าว
  • เวลาปัสสาวะมีเลือดปนออกมา อาจมีสีแดง ชมพู และน้ำตาล
  • เวลาปัสสาวะจะรู้สึกเจ็บ
  • ปวดปัสสาวะบ่อย
  • ปัสสาวะขุ่น มีกลิ่นแรง
  • รู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน
  • หนาวสั่น เป็นไข้

สาเหตุของนิ่วในไต

นิ่วในไตเกิดจากปริมาณของเกลือ แร่ธาตุ และสะสารต่าง ๆ เช่น แคลเซียม กรดออกซาลิก และกรดยูริกในปัสสาวะที่เปลี่ยนแปลงไป

โดยมีปริมาณมากเกินกว่าของเหลวในปัสสาวะจะละลายหรือทำให้ความเข้มข้นน้อยลง จึงทำให้เกิดการเกาะตัวของนิ่วในไต

นิ่วในไตยังอาจเกิดจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม เช่น การทานเกลือ น้ำตาล และอาหารที่มีโปรตีนสูง

การดื่มน้ำน้อยในแต่ละวัน รวมถึงอาจเกิดจากโรคอื่นที่เป็นอยู่ เช่น การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ โรคเมตาบอลิก

รวมถึงการใช้ยาบางชนิด การรับประทานวิตามินดีเสริมมากเกินไป ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดนิ่วในไตได้

สาเหตุของนิ่วในไตจะแบ่งตามประเภทของก้อนนิ่วที่เกิดขึ้น จากสารหลัก 4 ชนิด ดังต่อไปนี้

1.แคลเซียม ก้อนนิ่วในไตที่เกิดจากแคลเซียมเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยมาก โดยส่วนใหญ่จะเป็นก้อนนิ่ว

ที่เกิดจากแคลเซียมรวมกับออกซาเลตซึ่งเป็นสารอาหารที่พบได้ในอาหารและเครื่องดื่มที่นิยมดื่มกัน

เช่น สตรอว์เบอร์รี่ ผักใบเขียว ถั่วเต้าหู้ โซดา เบียร์ ชา กาแฟ ส่วนก้อนนิ่วชนิดอื่นที่มารวมกับแคลเซียม อาจเป็นฟอสเฟตหรือกรดมาลิก

2.กรดยูริก ก้อนนิ้วชนิดนี้จะพบได้บ่อยในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง พบได้ในผู้ป่วยโรคเก๊าท์รวมถึงผู้ป่วย

ที่กำลังเข้ารับการเคมีบำบัด ก้อนนิ่วที่เกิดจากกรดยูริก จะเกิดขึ้นต่อเมื่อปัสสาวะมีกรดสูงมากจนเกินไป

3.สตรูไวท์ เป็นก้อนนิ่วที่ส่วนใหญ่แล้วจะพบได้ในผู้หญิงที่มีการติดเชื้อที่ระบบทางเดินปัสสาวะ

ก้อนนิ่วชนิดนี้จะเป็นก้อนนิ่วซึ่งเกิดจากการติดเชื้อที่ไต มีขนาดใหญ่ จนไปขัดขวาง ทำให้การขับปัสสาวะถูกปิดกั้น

4.ซีสทีน เป็นนิ่วที่พบได้ไม่บ่อย สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งกับเพศชายและเพศหญิง เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรมของซีสทีน

ซึ่งเป็นกรดที่เกิดขึ้นในร่างกายโดยธรรมชาติ และรั่วจากไตออกมายังปัสสาวะ

วิธีรักษานิ่วในไต

นิ่วในไตเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้ โดยจะใช้วิธีรักษาที่หลากหลายซึ่งก็ขึ้นอยู่กับชนิดของก้อนนิ่วและสาเหตุของการเกิด

สำหรับแนวทางการรักษานิวในไตนั้นจะพิจารณาไปตามขนาดของก้อนนิ่วเพื่อให้การรักษาอย่างตรงจุดตามลักษณะดังต่อไปนี้

1.การรักษานิ่วในไตขนาดเล็ก

การรักษานิ่วในไตที่มีขนาดเล็กเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 5 มิลลิเมตร สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ

จะช่วยขับก้อนนิ่วให้หลุดออกมาพร้อมปัสสาวะ ควรดื่มน้ำให้มากพอ จะทำให้ปัสสาวะเจือจาง จนไม่มีสีเหลืองและสีน้ำตาล

นิ่วอาจจะหลุดลงมาเป็นก้อนนิ่วในท่อไต ในบางกรณีแพทย์แพทย์อาจพิจารณาเอาก้อนนิ่วออก

ก้อนนิ่วขนาดเล็กอาจก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดได้ ถึงแม้จะไม่มากก็ตาม แพทย์อาจจะให้ยาบรรเทาปวด

การใช้ยาขับก้อนนิ่วก็เป็นวิธีการรักษาอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยม โดยแพทย์จะสั่งจ่ายยากลุ่มแอลฟา – บล็อกเกอร์

ซึ่งเป็นยาขับก้อนนิ่วออกมาทางปัสสาวะ ยาจะออกฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย

ทำให้นิ่วในไตถูกขับออกมาได้เร็ว ทำให้รู้สึกเจ็บน้อยเพียงแค่ดื่มน้ำช่วย

2.การรักษานิ่วในไตขนาดใหญ่

ก้อนนิ่วจะมีขนาดใหญ่มากว่า 5 มิลลิเมตร สามารถทำให้เลือดออกได้ ทำให้เกิดแผลที่ท่อไต

หรือติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ จนไม่สามารถหลุดออกมาเองได้ จะต้องใช้การรักษาดังต่อไปนี้

การใช้คลื่นเสียง เหมาะสำหรับนิ่วในไตที่มีขนาดไม่เกิน 2 เซ็นติเมตร เป็นการใช้แรงสั่นสะเทือนของคลื่นเสียง

ทำให้นิ่วแตกตัวออกมาเป็นชิ้นเล็ก จนถูกขับออกมาทางปัสสาวะ ใช้เวลาในการรักษาประมาณ 45 – 60 นาที

การผ่าตัดก้อนนิ่วออก เหมาะสำหรับก้อนนิ่วที่มีขนาดไม่เกิน 3 เซ็นติเมตร แพทย์จะใช้การผ่าตัด

โดยการส่องกล้องโทรทรรศน์ขนาดเล็ก และสอดเครื่องมือเข้าไปบริเวณหลังของผู้ป่วย เป็นวิธีรักษาที่มีประสิทธิภาพถึง 72 – 99 %

การผ่าตัดต่อมไทรอยด์ โรคต่อมไทรอยด์สูง ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดนิ่วในไตที่เกิดจากแคลเซียมฟอสเฟต

โดยมีสาเหตุมาจากก้อนเนื้องอกที่เจริญเติบโตบนต่อมไทรอยด์ การผ่าตัดเอาเนื้องอกออก จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไตได้

วิธีป้องกันโรคนิ่วในไต

วิธีการป้องกันโรคนิ่วในไต สามารถทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเอง โดยการดื่มน้ำในแต่ละวันให้เพียงพอ

ก็จะช่วยลดความเข้มข้นของปัสสาวะ ทำให้เจือจางลง ดังนั้นการดื่มน้ำจึงเป็นวิธีป้องกันโรคนิ่วในไตที่ทำได้ง่าย

Credit : emedicinehealth.com

โรคนิ่วในไต เป็นโรคที่เกิดจากการสะสมของแร่ธาตุต่าง ๆ จนรวมตัวกันกลายเป็นก้อนนิ่ว เป็นโรคที่ก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดแก่คนไข้

ถึงแม้ว่าก้อนนิ่วจะมีขนาดเล็กก็ตาม การรักษานิ่วในไตก็สามารถทำได้ด้วยการผ่าตัด การใช้คลื่นเสียง การดื่มน้ำให้เพียงพอ

จะก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคนิ่วในไตได้ รู้กันแบบนี้แล้ว ก็เฝ้าระมัดระวังและดูแลใส่ใจสุขภาพกันให้มากขึ้นนะคะ