7 สัญญาณเตือนโรคมะเร็งในผู้ชาย ความผิดปกติของร่างกายที่ควรระวัง !

โรคมะเร็งในผู้ชาย

โรคมะเร็ เป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศและทุกวัย โดยเฉพาะเพศชายที่อาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเป็นโรคมะเร็ง

ดังนั้น เราไปดูกันดีกว่าว่า สัญญาณเตือนที่บ่งบอก โรคมะเร็งในผู้ชาย มีอะไรบ้าง ไปติดตามได้เลยดังนี้

ทำความรู้จักโรคมะเร็งในผู้ชาย

โรคมะเร็ง (Cancer) คือ โรคที่เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ภายในร่างกาย จนทำให้เกิดการรวมตัวเป็นก้อนมะเร็ง

และที่สำคัญยังสามารถที่จะลุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆ ได้ โดยโรคมะเร็งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับเพศชายเป็นส่วนใหญ่ คือ

  • มะเร็งตับ
  • มะเร็งปอด
  • มะเร็งต่อมลูกหมาก
  • มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
  • มะเร็งเม็ดเลือดขาว
  • มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
  • มะเร็งกระเพาะอาหาร
  • มะเร็งช่องปาก

สัญญาณเตือนโรคมะเร็งในผู้ชาย มีอะไรบ้าง?

การเกิดโรคมะเร็งขึ้นในผู้ชาย ร่างกายจะมีสัญญาณเตือนเพื่อแสดงอาการให้เราสังเกตได้ดังนี้

1.การปัสสาวะ : สำหรับผู้ชายส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยได้สนใจในเรื่องของการปัสสาวะเท่าไรนัก เพราะมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย

แต่คุณรู้หรือไม่ว่าแค่การสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นจากการปัสสาวะ ด้วยความผิดปกติที่เกิดขึ้นย่อมสามารถบ่งบอกอาการของโรคมะเร็งในเบื้องต้นได้แล้ว โดยอาการที่คุณสามารถสังเกตได้ก็คือ

  • ปัสสาวะบ่อย
  • ปัสสาวะเล็ด ไม่สามารถกลั้นปัสสาวะได้นาน หรือเพียงระยะเวลาเล็กน้อยก็ไม่สามารถกลั้นปัสสาวะได้
  • รู้สึกแสบที่อวัยวะเพศเมื่อปัสสาวะ
  • มีเลือดออกในขณะปัสสาวะ
  • ปัสสาวะไหลช้า

ลักษณะอาการเหล่านี้ที่เกิดขึ้นถือเป็นสัญญาณเตือนที่จะต้องระวังโรคมะเร็งในผู้ชาย โดยอาการเหล่านี้ถือเป็นสัญญาณเตือนของโรคมะเร็งได้หลากหลายชนิด

เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งไต ซึ่งเมื่อพบความผิดปกติดังกล่าว

คุณจะต้องรีบไปปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจเลือดในการหาเซลล์มะเร็ง เพราะลักษณะอาการที่กล่าวมา

มีความคล้ายคลึงกับการเป็นโรคติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ จึงต้องรีบไปตรวจเพื่อหาเซลล์มะเร็งให้รวดเร็วที่สุด เพื่อช่วยรักษาให้ทันการณ์

2.ระบบทางเดินอาหาร : ในเรื่องของความผิดปกติที่ระบบทางเดินอาหารนั้น เริ่มตั้งแต่ปัญหาที่เกี่ยวกับการกลืนอาหาร

ไปจนถึงระบบทางเดินอาหาร อย่างเช่น กระเพาะอาหาร ลำไส้ โดยจะมีอาการที่แสดงให้เห็นคือ

  • กลืนอาหารได้ลำบาก
  • อาเจียนในระหว่างกลืนอาหาร
  • แสบร้อนในอก

เป็นอาการที่สามารถเห็นได้ชัดเจนจากความผิดปกติที่เกิดขึ้นในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งโดยทั่วไปอาการผิดปกติเหล่านี้

ผู้ที่ป่วยจะมองว่าเป็นเพียงแค่อาการที่เกิดจากความเครียด จึงส่งผลทำให้เกิดความเครียดลงกระเพาะ

แต่สิ่งสำคัญ คือ เมื่อเริ่มทำการรักษาหรือเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในเรื่องของการใช้ชีวิต การรับประทานอาหาร

การจัดการกับความเครียด แต่อาการเหล่านี้ยังไม่หายไปก็ถือว่าเป็นความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งลำคอ

มะเร็งกระเพาะอาหาร ซึ่งเซลล์มะเร็งเหล่านี้จะส่งผลอันตรายต่ออวัยวะที่มีความเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหารโดยตรง

เพราะฉะนั้นควรที่จะรีบไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุรวมถึงเซลล์มะเร็ง แต่ทั้งนี้ในการวินิจฉัยแพทย์จะมีรูปแบบในการตรวจที่แตกต่างกัน

เพื่อหาเซลล์มะเร็งในแต่ละจุด โดยหากจะต้องมีการเอ็กซเรย์ก็จะต้องมีการกลืนแร่ที่อยู่ในลักษณะของเหลว แล้วจึงนำไปเอ็กซเรย์จึงจะเห็นความผิดปกติด้านในได้อย่างชัดเจน

3.น้ำหนักตัวลดลง : น้ำหนักเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ผู้ชายส่วนใหญ่มักจะมองข้าม เนื่องจากผู้ชายในยุคปัจจุบันมักจะไม่ค่อยได้ใส่ใจในเรื่องของรูปร่างมากนัก

แต่หากน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ได้มีการตั้งใจให้ลด เช่น ปริมาณน้ำหนักที่ลดลงอาจจะมากกว่า 5 กิโลกรัม

ก็ถือว่าเป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกาย โดยเฉพาะผู้ชายจึงควรที่จะต้องรีบไปตรวจ ซึ่งบางคนอาจจะมีข้อสงสัยว่าเมื่อน้ำหนักลดลงแล้ว

จะเกี่ยวข้องอะไรกับการเป็นโรคมะเร็งหรือไม่ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วอาจจะมีผลมาจากปัญหาด้านการกลืนอาหาร

ซึ่งเป็นอาการเสี่ยงที่จะทำให้เป็นโรคมะเร็งชนิดต่างๆ ตามมา เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งตับอ่อน

เพราะฉะนั้นจึงควรที่จะต้องไปตรวจให้ละเอียด โดยแพทย์จะต้องมีการทำ CT Scan เพื่อช่วยในการวินิจฉัยและการตรวจเลือด

4.หน้าอก : เป็นอีกหนึ่งส่วนของอวัยวะภายในร่างกายที่ผู้ชายส่วนใหญ่มักมองข้าม เพราะอาจจะเคยได้ยินในเรื่องของมะเร็งเต้านมกันมาบ้างแล้ว

เนื่องจากเป็นโรคที่มักจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงเป็นส่วนมาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว เพศชายก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมได้ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ โดยอาการผิดปกติ คือ

  • ขนาดหน้าอกมีความเปลี่ยนแปลง
  • คลำเจอก้อนเนื้อบริเวณหน้าอก

หากเกิดอาการแปลกๆ 2 รูปแบบที่กล่าวมา ควรที่จะต้องรีบพบแพทย์โดยทันที เพราะมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมได้

5.ต่อมน้ำเหลือง : ต่อมน้ำเหลืองเป็นส่วนที่อยู่ภายในร่างกาย ซึ่งเราไม่สามารถที่จะมองเห็นต่อมน้ำเหลืองได้ด้วยตาเปล่า

แต่สามารถสังเกตอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับต่อมน้ำเหลืองได้ คือ ต่อมน้ำเหลืองจะมีอาการโตผิดปกติ โดยจะส่งผลทำให้จุดต่างๆ ภายในร่างกาย

ที่เป็นศูนย์รวมของต่อมน้ำเหลืองบวมขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุ โดยมีบริเวณในร่างกาย เช่น รักแร้ ลำคอ ซึ่งหากบริเวณที่มีต่อมน้ำเหลืองบวมหรือโตขึ้นมา

ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย เนื่องจากเป็นอาการที่คล้ายคลึงกันกับกระบวนการภายในร่างกายที่ใช้เพื่อการกำจัดเชื้อโรค

แต่หากบวมจากสาเหตุที่กำจัดเชื้อโรค ต่อมน้ำเหลืองจะยุบลงไปได้เองในระยะเวลาไม่เกิน 4 สัปดาห์

แต่หากเกินกว่านั้นก็ควรที่จะต้องไปปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจเลือดหาเซลล์มะเร็งต่อไป

6.ถุงอัณฑะ : ถุงอัณฑะเป็นส่วนที่หลายคนเข้าใจว่าเป็นส่วนเดียวกับต่อมลูกหมาก แต่ทั้ง 2 ส่วนนี้ถือเป็นคนละส่วนกัน โดยอาการผิดปกติที่สามารถสังเกตได้คือ

  • มีก้อนอยู่บริเวณถุงอัณฑะ
  • รู้สึกถึงความผิดปกติที่ถุงอัณฑะ

สำหรับความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับถุงอัณฑะ ควรที่จะต้องรีบไปปรึกษาแพทย์เพื่อช่วยในการวินิจฉัยโรค

เพราะมีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นโรคมะเร็งอัณฑะได้ โดยแพทย์จะมีการตรวจร่างกาย ตรวจเลือด และเพื่อความละเอียดในการตรวจถุงอัณฑะ

อาจจะต้องมีการทำอัลตร้าซาวด์บริเวณนั้นร่วมด้วย ดังนั้น หากพบว่าถุงอัณฑะมีความผิดปกติก็จะต้องรีบไปพบแพทย์

เนื่องจากหากเป็นมะเร็ง เซลล์มะเร็งจะลุกลามได้รวดเร็วกว่ามะเร็งต่อมลูกหมากนั่นเอง

7.ผิวหนัง : เป็นบริเวณที่สามารถพบเห็นได้ง่ายมากที่สุด แต่ผู้ชายส่วนใหญ่ก็มักจะไม่ค่อยสนใจในส่วนนี้

เนื่องจากผู้ชายมักเป็นเพศที่ไม่ค่อยใส่ใจหรือดูแลในเรื่องผิวพรรณ สำหรับความผิดปกติของผิวหนังสามารถสังเกตได้คือ

  • ขี้แมลงวัน
  • ไฝ
  • สีผิวที่เปลี่ยนไป

สำหรับอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นบนสภาพผิวหนังนั้น สามารถที่จะสังเกตจากการเปลี่ยนแปลงได้เพียงเล็กน้อย

โดยอาจจะเป็นขนาดหรือลักษณะรูปร่างที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้ค่อนข้างสูง

เพราะฉะนั้นแล้ว หากพบอาการผิดปกติดังกล่าว ไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรรีบไปตรวจ โดยแพทย์จะตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ และอาจจะมีการตรวจรูปแบบอื่นๆ ร่วมด้วย

ข้อควรระวัง

เนื่องจากผู้ชายมักเป็นเพศที่ชื่นชอบการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่อยู่บ่อยๆ ดังนั้น หากใครมีพฤติกรรมเหล่านี้

แนะนำว่าควรที่จะต้องไปตรวจสุขภาพอยู่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อจะได้รู้เท่าทันโรคและยังเป็นการรับมือรักษาป้องกันโรคมะเร็งได้อย่างทันการณ์นั่นเอง

Credit : cheatsheet.com

โรคมะเร็ง เป็นโรคที่แอบแฝงมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะการเกิด โรคมะเร็งในผู้ชาย

เนื่องจากผู้ชายมักจะไม่ค่อยใส่ใจดูแลสุขภาพร่างกายตนเองเท่าไรนัก อีกทั้งเมื่อมีความผิดปกติเกิดขึ้นในร่างกายก็มักจะปล่อยเลยผ่าน

เพราะคิดว่าตนเองแข็งแรงอาจจะไม่เป็นอะไร อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโรคมะเร็งเป็นโรคที่อยู่ใกล้ตัวทุกคนไม่เว้นแม้แต่ชายหรือหญิง

ดังนั้น การหมั่นเฝ้าสังเกตสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นในร่างกาย ย่อมสามารถทำให้เรารับมือกับโรคได้อย่างทันการณ์แน่นอน