อยากสวยตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบไม่ต้องจ่ายแพง ทำได้ยังไงบ้างนะ? หากสาวๆ คนไหนกำลังมองหาสูตรความงามในราคาประหยัดกันอยู่
เราขอแนะนำ สูตรความงามจากธรรมชาติ เหล่านี้เลยค่ะ เพียงหยิบเอาวัตถุดิบรอบตัวมาทำเป็นสูตรบำรุงความงามด้วยตัวคุณเอง
บอกเลยทำง่ายและได้ผลดีจริง ไม่ว่าจะในส่วนของเส้นผม ผิวหน้า และผิวพรรณตามเรือนร่างต่างๆ
อยากดูแลจุดไหนให้สวยมีเสน่ห์สะดุดตา สาวๆ อย่ารอช้า มาดู สูตรความงาม ไปพร้อมๆ กันเลย
สูตรความงามแบบฉบับโฮมเมด ทำได้อย่างไรบ้าง?
1.บำรุงผิวแห้งให้ชุ่มชื้นด้วยน้ำมันมะพร้าวและว่านหางจระเข้
สาวๆ ที่มีปัญหาผิวแห้ง คุณสามารถเติมเต็มความชุ่มชื้นคืนสู่ผิวชั้นในลึกได้อย่างเต็มที่ เพียงนำวุ้นว่านหางจระเข้ มาปั่นผสมกับน้ำมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ
เมื่อได้ส่วนผสมที่เข้ากันดีแล้วก็นำมาทาลงบนผิว จากนั้นนวดวนเบาๆ เพื่อให้ส่วนผสมค่อยๆ ซึมซาบลงไป
ปล่อยไว้เช่นนั้นจนแห้งไปเองตามธรรมชาติ แล้วจึงล้างออกให้สะอาด คุณจะสัมผัสได้ถึงสภาพผิวที่นุ่มชุ่มชื้นขึ้นมาอย่างทันตาเลยทีเดียว
เพราะว่านหางจระเข้และน้ำมันมะพร้าวต่างก็เป็นแหล่งของวิตามินอีซึ่งเปรียบดั่งมอยส์เจอไรเซอร์ชั้นเยี่ยมจากธรรมชาติ
เมื่อนำสองอย่างนี้มาผสมกันก็จะยิ่งกลายเป็นการผสานคุณค่าของสารอาหารที่ดีต่อผิว ผิวแห้งมากแค่ไหน บอกเลยเอาอยู่แน่นอน
2.เครื่องสำอางติดทนนานด้วยสเปรย์อโลเวร่า
เมื่อไรที่แต่งหน้า เคยเป็นกันมั้ยคะที่สาวๆ จะต้องเผชิญกับปัญหาเครื่องสำอางหลุดร่อนออกง่าย หรือเมคอัพไม่ติดทนนานนั่นเอง
แต่งานนี้เพียงคุณหันมาใช้สเปรย์อโลเวร่าช่วย รับรองจะช่วยแก้ปัญหาเครื่องสำอางที่แต่งแต้มมาอย่างดีให้ติดทนนานได้แน่นอนค่ะ
เพียงปั่นวุ้นว่านหางจระเข้จากนั้นกรองเอาแต่น้ำมาใช้ 1 ส่วน แล้วนำมาผสมกับน้ำสะอาด 3 ส่วน เทใส่ลงในกระบอกสเปรย์เล็กๆ
จากนั้นเขย่าจนเข้ากัน แล้วนำมาฉีดประพรมลงบนใบหน้าประมาณ 1-2 ครั้ง เพียงเท่านี้ส่วนผสมของอโลเวร่าก็จะช่วยปลุกความสดชื่นให้ผิว
และยังช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนานขึ้นกว่าเดิมได้แล้ว เห็นไหมล่ะว่าไม่ต้องเปลืองเงินลงทุนซื้อน้ำแร่มาไว้ฉีดหน้าให้สิ้นเปลืองอีกต่อไปเลย
3.ป้องกันความร้อนให้เส้นผมด้วยน้ำมันมะพร้าว
หากต้องใช้อุปกรณ์ทำผมไฟฟ้าเพื่อจัดแต่งทรงผมให้สวยดั่งใจต้องการ แน่นอนว่าอุปกรณ์เหล่านั้นจะต้องมาพร้อมความร้อนระอุ
และนี่ก็คือ ตัวการทำให้ผมแห้งเสียและแตกปลายได้อย่างง่ายดาย ถึงเวลากันแล้วนะคะ ที่สาวๆ ควรหันมาปกป้องความร้อนไม่ให้ทำร้ายเส้นผม
ซึ่งเราก็มีสูตรมาแนะนำค่ะ เพียงใช้น้ำมันมะพร้าวเล็กน้อยมาลูบไล้เส้นผมในบริเวณส่วนปลายเป็นพิเศษ
งานนี้จะช่วยปกป้องผมจากความร้อนต่างๆ ทั้งยังรวมถึงรังสียูวีจากแดดได้ด้วย ไม่เพียงเท่านั้น น้ำมันมะพร้าวยังช่วยบำรุงผมให้ชุ่มชื้นขึ้น
และช่วยลดปัญหาผมแตกปลายลงได้มากทีเดียว นอกจากน้ำมันมะพร้าวจะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่เส้นผมแล้ว
ยังช่วยป้องกันปัญหาผมแห้งชี้ฟูได้อีกด้วย เพราะสารอาหารของมันจะเข้าไปทำหน้าที่เคลือบเส้นผมจากภายนอก ทำให้ผมมีน้ำหนักเงางามมากขึ้นนั่นเอง
4.แก้ปัญหาข้อศอกและหัวเข่าดำกร้านด้วยสครับส้ม
ปัญหาข้อศอก หัวเข่าและตาตุ่มดำ รวมถึงส่วนลับต่างๆ ของร่างกายที่คุณสาวๆ อยากแก้ปัญหาให้ขาวใสขึ้น
รู้มั้ยคะว่า ไม่ต้องไปเที่ยวหาซื้อสครับจากท้องตลาดที่ไหน มาสครับผิวส่วนที่ต้องการให้ขาวใสขึ้นจนสิ้นเปลืองเงินแล้ว
เพราะเพียงคุณนำส้มมาหั่นออก 1/2 ผล จากนั้นนำมาขัดถูลงบนผิวที่ต้องการ เช่น ข้อศอก หัวเข่า ข้อพับ ขาหนีบและตาตุ่ม เป็นต้น
เมื่อหมั่นขัดถูด้วยส้มเช่นนี้เป็นประจำ กรด AHA จากผลไม้ที่มีอยู่อย่างอ่อนๆ จะกระตุ้นกระบวนการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดออก
ทั้งยังช่วยปลุกกระตุ้นเซลล์ผิวใหม่ให้ขึ้นมาทดแทนที่กันได้อย่างขาวใสกว่า จึงทำให้ผิวบริเวณที่ดำกร้านค่อยๆ ขาวใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
หรือหากใครไม่มีส้ม จะหันมาใช้มะนาว 1/2 ซีกขัดถูผิวแทนก็ได้เช่นกัน
5.ลดปัญหาฝ้า กระและจุดด่างดำด้วยว่านหางจระเข้
สาวๆ หลายคนมีปัญหาฝ้า กระ และจุดด่างดำด้วยกันทั้งสิ้น อีกทั้งยังมีริ้วรอยมาเยือนง่ายดาย ซึ่งหากคุณกำลังมองหาสกินแคร์ดีๆ จากธรรมชาติกันอยู่
ขอแนะนำนี่เลยค่ะ เพียงตัดใบว่านหางจระเข้มาปอกเปลือก แล้วล้างยางสีเหลืองๆ ออกให้สะอาด
นำในส่วนเนื้อวุ้นว่านหางจระเข้มาทาลงบนผิวหน้า เน้นบริเวณที่ต้องการเป็นพิเศษ จากนั้นปล่อยไว้จนแห้งโดยไม่ต้องล้างออก
ว่านหางจระเข้จะมีกรดอ่อนๆ ที่จะช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใสขึ้น ดังนั้น เหล่าฝ้า กระ และจุดด่างดำต่างๆ
ก็ย่อมจางลง อีกทั้งสารอาหารจาก สมุนไพรว่านหางจระเข้ ยังช่วยบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้น และสามารถชะลอการเกิดริ้วรอยได้อีกด้วย
Credit : onlymyhealth.com
ว้าว.. ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่า สูตรความงามจากธรรมชาติ เหล่านี้นั้น เราสามารถทำเองได้ง่ายดายมากทีเดียว
ใช้ได้ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เรียกว่าสวยอย่างครบวงจรแบบไม่ต้องจ่ายแพงจริงๆ
ใครอยากสวยเลอค่าในราคาแสนประหยัด อย่าลืมทำตามสูตรที่เรานำมาฝากกันนะคะ