รวมสูตรพลังแห่งความขาวสำหรับผิวสาว ที่เรียกได้ว่าเป็น “มหากาพย์” แห่งการดูแลผิวด้วยวิธีธรรมชาติของคนรักสวยรักงาม
แต่ไม่รู้ว่าทําไงให้ใบหน้าขาวใสได้แบบปลอดภัย วิธีเหล่านี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากให้ผิวของตัวเองต้องสัมผัสกับสารเคมีอันตราย
หรือสาวๆ ที่มีผิวแพ้ง่าย สูตรขัดผิวขาวที่ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย จะมีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร
เนื่องจากผิวหน้าจะมีความบอบบางและไวต่อการระคายเคืองได้ง่าย การเลือกส่วนประกอบที่จะนำมาใช้ขัดจะต้องมีความอ่อนโยน
ส่วนผิวกายจะเป็นพื้นที่ๆ มีความหนาและระคายเคืองได้น้อยกว่า ดังนั้นในการขัดผิวจึงมีสูตรที่แตกต่างกันแบ่งแยกออกไป
วิธีทําให้หน้าใสมีสุขภาพดี เราเลือกแนะนำด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติที่มีหลากหลาย
ให้สาวๆ ทุกสภาพผิวนำไปใช้ปรับสภาพ ดูแลผิวให้เรียบเนียน กระจ่างใส แถมยังปลอดภัยจากสารเคมีได้อย่างเต็มที่อีกด้วย
วิธีทําให้หน้าใส ด้วยการขัดผิวหน้าอย่างเหมาะสม
ดังที่กล่าวไปข้างต้น ว่าสาวๆ คนไหนที่กำลังมองหาวิธีทําให้หน้าใสด้วยการ “ขัด” ที่ผลลัพธ์สัมผัสได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้
เนื่องจาการขัดผิว ภายหลังจะสัมผัสได้ถึงความบางเบาของผิว ความเกลี้ยงเกลา
ดูเปล่งปลั่งและขาวใสมากขึ้น ด้วยการกำจัดเอาผิวหนังกำพร้าที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป
การขัดผิวหน้าจะต้องระมัดระวังในการเลือกใช้วัตถุดิบให้เหมาะสม ไม่เป็นกรด ด่าง
หรือมีความหยาบมากเกินไปจนทำให้ผิวเกิดรอยถลอก ตามมาด้วยผิวหน้าที่พังเสียหาย
การขัดผิวหน้า หรือ การสครับ (Facial Scrub) ที่ดีจะต้องช่วยปกป้องผิวและกระตุ้นให้ผิวกลับมาดีขึ้นกว่าเดิม
แต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่า การขัดผิวไม่ควรทำบ่อยจนเกินไป เพื่อป้องกันชั้นผิวบาง
เกิดอาการระคายเคืองได้ง่าย ผิวหน้าบางคนไม่เหมาะกับสูตรขัดหน้าบางสูตร
ทำให้ผิวแห้ง หรือมัน จนก่อให้เกิดเป็นปัญหาสิวตามมา
ดังนั้นควรเลือกวิธีขัดหน้าที่จะช่วยให้การดูแลผิวเป็นไปอย่างถูกต้อง บำรุงด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ภายหลังทุกครั้ง และหลีกเลี่ยงการทำเป็นประจำด้วย
เคล็ดลับและสูตรขัดผิว ให้ขาวใส ด้วยธรรมชาติ
1.วิธีทําให้หน้าขาวด้วยมะขามเปียกและน้ำผึ้ง
สำหรับมะขามเปียก จะมีส่วนผสมของกรด AHA และวิตามินซีที่ช่วยกำจัดเซลล์ผิวเก่า
ช่วยให้ผิวหน้ามีความขาวใสมากขึ้นได้ แต่ด้วยปริมาณของกรดที่เข้มข้น จึงต้องระมัดระวังในสาวๆ ที่มีผิวหน้าแห้ง
กรณีสาวผิวแห้งให้เลือกใช้ส่วนผสมของน้ำมะขามเปียกประมาณ 1 ส่วน และน้ำผึ้ง 2-3 ส่วน
แล้วคนให้เข้ากัน จะได้เป็นเนื้อครีมที่มีความเนียนและเหลว การผสมด้วยน้ำผึ้งในสัดส่วนที่มากกว่า
จะช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ลดปัญหาผิวแห้งให้น้อยลง เพิ่มความชุ่มชื้น ปกป้องผิวจากความแห้งกร้านได้ดี
ส่วนสาวผิวมัน สามารถลดสัดส่วนของน้ำผึ้งเป็น 1 ส่วนเท่าๆ กับน้ำมะขามเปียกได้
การขัดหน้าควรนวดแบบเบามือวนเป็นวงกลม ให้ทั่วผิวหน้า จากนั้นทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างทำความสะอาดตามปกติ
2.วิธีทําให้หน้าขาวด้วยเบกกิ้งโซดาขัดหน้า
เบกกิ้งโซดาขัดหน้า มีคุณสมบัติหลักๆ คือการกำจัดสิวเสี้ยน ซึ่งพบได้มากในคนที่มีปัญหาผิวหน้ามัน หมองคล้ำ
และมีรูขุมขนกว้าง เบกกิ้งโซดาจะช่วยกำจัดเอาสิวเสี้ยนที่โผล่ออกมานอกชั้นผิวให้หลุดลอกออกไป
พร้อมช่วยให้รูขุมขนเล็กลง ผิวหน้าจึงดูเรียบเนียนมากขึ้น วิธีขัดผิวด้วยเบกกิ้งโซดามีความเสี่ยงอยู่พอสมควรหากทำไม่ถูกวิธี
เพราะความหยาบของส่วนผสมอาจจะทำให้เกิดอาการแสบร้อนและเป็นรอยถลอกตามมาได้
แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาหากทำได้อย่างถูกวิธี หลักการง่ายๆ คือการผสมผสานระหว่างเบกกิ้งโซดากับมะขามและน้ำผึ้ง
หรือจะผสมโยเกิร์ตแทนมะขามเปียกก็ได้ อัตราส่วนให้อยู่ในส่วนเท่าๆ กัน หากต้องการความชุ่มชื้นมากน้อย
ก็ผสมน้ำผึ้งให้มากขึ้นกว่าเดิม ในการขัดผิวจะต้องทำอย่างเบามือมากที่สุด
เพราะตัวเบกกิ้งโซดามีความหยาบอยู่แล้ว ขัดประมาณ 5 นาที แล้วพอกทิ้งไว้ 5-10 นาทีก็พอ
เน้นบริเวณผิวที่มีรูขุมขนกว้าง และบริเวณที่มีสิวเสี้ยนมากเป็นพิเศษจากนั้นก็ล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าก่อน
เพื่อกำจัดเอาเบกกิ้งโซดาออกไป แล้วค่อยล้างผิวหน้าตามปกติ
3.วิธีทําให้หน้าขาวด้วยรังไหมขัดหน้า
รังไหมขัดหน้า ตัวช่วยกำจัดสิวเสี้ยนที่หลายคนอาจมอข้าม เราสามารถใช้รังไหมขัดหนายังไงนั้น
สามารถทำได้ด้วยการนำเอารังไหมมาขัดผิวหน้าเบาๆ ซึ่งด้วยคุณสมบัติที่เป็นเส้นใยบางเบา
จึงไม่ส่งผลให้ผิวหน้าเกิดอาการระคายเคืองมากนัก ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวหน้าเกลี้ยงเกลา
ช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ลดการเกิดสิวบนผิวหน้า โดยเฉพาะสิวหัวดำ
ส่วนประกอบของรังไหมยังมีกรดอะมิโนตามธรรมชาติ ซึ่งเรียกว่า Natural Moisturizing Factor หรือ NMF
กรดอะมิโนชนิดนี้เราพบได้ทั่วไปในร่างกายของมนุษย์ ช่วยให้ความชุ่มชื้นต่อผิวตามธรรมชาติ
และยังช่วยกระตุ้นการจับกันของโปรตีนและเคราตินที่ผิวหนัง ลดการเกิดริ้วรอยด้วยการเข้าไปขัดขวางตัว active-oxygen ที่ทำให้ผิวหน้าเสื่อมสภาพ
วิธีใช้รังไหม ให้นำเอารังไหมไปแช่ในน้ำร้อนประมาณ 3-4 นาที จากนั้นนำมานวดที่ใบหน้าอย่างเบามือ
แต่ก่อนที่จะนำมานวดให้มั่นใจก่อนว่ารังไหมมีความอ่อนนุ่ม ด้วยการบีบรังไหมให้คลายตัวเสียก่อน
เน้นขัดใบหน้าใบส่วนที่มีสิวเสี้ยน หลีกเลี่ยงบริเวณสิวอักเสบ หลังใช้แล้วล้างทำความสะอาดผิวหน้าตามปกติ
รังไหมที่ใช้แล้ว จะสามารถนำกลับมาใช้ได้อีกประมาณ 4-5 ครั้ง จนกว่าขนาดของรังไหมจะบางลงจนไม่สามารถขัดผิวหน้าได้แล้ว นั่นเอง
4.วิธีทําให้หน้าขาวด้วยผงวิเศษกับมะนาว
เราเลือกใช้ผงวิเศษกับมะนาวสำหรับขัดผิวหน้า ด้วยการผสมน้ำมะนาวกับผงวิเศษโดยสังเกตว่าส่วนผสมที่ได้จะต้องเป็นเนื้อครีม
ไม่เหนียวหรือข้นเกินไป ผงวิเศษมีคุณสมบัติช่วยรักษาสิวได้เป็นอย่างดี ส่วนน้ำมะนาวที่มีความเป็นกรด
จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าในระหว่างขัด ให้ผิวหน้าดูขาวใสและเรียบเนียนเพิ่มมากขึ้น
ข้อควรระวังในการใช้ คือส่วนผสมดังกล่าวจะมีความเป็นกรดสูง ต้องระมัดระวังในคนที่มีผิวแห้งและผิวระคายเคืองง่าย
เหมาะสำหรับสาวๆ ที่มีผิวหน้ามันมากกว่า หลังขัดหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที
แล้วล้างทำความสะอาด ให้ทาครีมบำรุงเพื่อความชุ่มชื้น และงดการสัมผัสกับแดดประมาณ 2-3 วัน
5.วิธีทําให้หน้าขาวด้วยขมิ้นขัดผิว
ขมิ้นที่ผ่านการนำมาตากแห้งและบดจนได้ออกมาเป็นเนื้อผงที่มีความละเอียด
สามารถนำมาประยุกต์ใช้ขัดผิวหน้าได้เป็นอย่างดี ด้วยลักษณะของเม็ดบีดส์ธรรมชาติ
และคุณสมบัติด้านความงานที่ถูกใช้มายาวนานตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ การขัดนวดด้วยขมิ้น
เพียงแค่นำเอาผงขมิ้นผสมกับน้ำเปล่าให้เป็นเนื้อครีมข้นๆ ขัดไปที่ผิวหน้าอย่างเบามือ
เน้นในส่วนที่หมองคล้ำ และเป็นสิวบ่อย รวมถึงจุดที่เป็นสิวเสี้ยนด้วย หลังจากขัดแล้วให้ล้างออกทันที
เพื่อป้องกันไม่ให้สีของขมิ้นติดอยู่ที่ผิวหน้า จากนั้นก็ทำการบำรุงด้วยครีมบำรุงผิวตามปกติ
จะสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลของผิวหน้าตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ และความขาวใสภายหลังจากนั้น 1 วันก็จะเริ่มปรากฏให้เห็นถึงความเรียบเนียนอย่างชัดเจน
6.วิธีทําให้หน้าขาวด้วยมะละกอกับข้าวโอ๊ต
ข้าวโอ้ตกับมะละกอสุก ดูจะไม่เข้ากันเลยหากเอามารับประทาน แต่หากนำมาใช้สำหรับการขัดผิวหน้าขาวใสแล้วล่ะก็
นี่คือหนึ่งในสูตรชั้นยอดเลยทีเดียว ด้วยคุณสมบัติของข้าวโอ้ตมีส่วนช่วยลดการเกิดสารอนุมูลอิสระร่วมกับมะละกอ
ทำให้ผิวได้รับการปกป้องเป็นอย่างดี มะละกอสุกที่มีสารบำรุงจากวิตามินหลากหลายชนิด
แถมข้าวโอ๊ตยังช่วยขัดผิวหน้า กำจัดเอาสารเคมี สิ่งสกปรก เชื้อแบคทีเรีย รวมไปถึงการกระตุ้นเซลล์ผิวใหม่ที่มีความกระจ่างใสเข้ามาแทนที่ จึงเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาฝ้ากระแบบบางๆ ให้ดูจางลงหลังใช้ติดต่อกัน 2-3 เดือน
วิธีการทำสูตรขัดผิวขาว ให้นำเอามะละกอสุกมาปั่นรวมกับข้าวโอ๊ตต้มสุก ให้ส่วนผสมเนียนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน
จากนั้นทิ้งไว้ให้พออุ่น นำมาขัดไปที่ผิวหน้าอย่างเบามือ แล้วทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที
จากนั้นล้างทำความสะอาดตามปกติ จะสัมผัสได้ถึงผิงหน้าที่เนียนเรียบ และดูกระจ่างใสขึ้นตั้งแต่ครั้งแรก
7.วิธีทําให้หน้าขาวด้ววยมะเขือเทศกับโยเกิร์ต
ในมะเขือเทศมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง นอกจากนี้มะเขือเทศยังมีส่วนช่วยรักษาการเกิดสิว
ทำหน้าที่ขัดขวางการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย วิตามินหลักๆ ในมะเขือเทศสดเรายังพบวิตามินซีในปริมาณสูง
ซึ่งช่วยทำให้ผิวแลดูขาวขึ้น มีวิตามิเอที่ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น ความเป็นกรดอ่อนๆ
จากมะเขือเทศยังสามารถนำไปขัดกับผิวหน้าของคนที่ผิวแห้งได้ด้วย
เราเผยสูตรการช่วยให้ผิวหน้าขาวใสได้การนำเอาเนื้อมะเขือเทศมาบดรวมกับโยเกิร์ต
โดยใช้อัตราส่วนของโยเกิร์ตเพียง 1 ส่วน และใช้เนื้อมะเขือเทศบดละเอียด 3 ส่วน
เพื่อจะช่วยลดปริมาณกรดธรรมชาติไม่ให้มากเกินไป จากนั้นก็นำมาขัดให้ทั่วผิวหน้า
ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาทีเท่านั้น ก็ทำการล้างออกตามปกติได้เลย
8.วิธีทําให้หน้าขาวด้วยผงถั่วเขียว นมสด และโยเกิร์ต
ผงถั่วเขียวที่นำมาใช้สำหรับขัดผิวหน้า แนะนำว่าควรเลือกใช้เป็นผงถั่วเขียวที่มีความเนียนละเอียดมากเป็นพิเศษ
สามารถเลือกซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป ซึ่งจะมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นผงถั่วเขียวบดละเอียดมากๆ
เอาไว้ให้เราอยู่แล้ว ด้วยความที่เนื้อถั่วเขียวมีความแข็ง จึงต้องหลีกเลี่ยงชนิดที่บดหยาบจนเกินไป เพราะจะทำให้ผิวเกิดความเสียหายตามมาแทนที่ได้
ส่วนผสมระหว่างผงถั่วเขียว นมสด และโยเกิร์ต เรียกได้ว่าเป็นการผสมผสานให้ได้อัตราส่วนของการบำรุงผิวที่ได้ประสิทธิภาพ
ไม่ว่าจะเป็นการช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วด้วยสครับจากผงถั่วเขียว นมสดเพิ่มความชุ่มชื้นไม่ให้ผิวหน้าแห้งจนเกินไป
และโยเกิร์ตที่จะมีความเป็นกรดอ่อนๆ ช่วยกัดเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอก พร้อมกำจัดเชื้อแบคทีเรีย
ต้นตอของการเกิดสิว ช่วยให้ผิวหน้าขาวเนียนมากขึ้นกว่าเดิม
ส่วนวิธีใช้ ให้ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกันตามอัตราส่วนที่เหมาะสมกับผิว
สาวๆ ที่มีผิวหน้ามันเน้นที่โยเกิร์ตและถั่วเขียว สาวผิวหน้าแห้งและระคายเคืองได้ง่าย เน้นปริมาณนมสด
ลดปริมาณโยเกิร์ต ส่วนสาวผิวธรรมดา ก็เลือกเอาเลยว่าจะเน้นบำรุงเพื่อผลลัพธ์แบบไหนเป็นหลัก
จากนั้นก็นำมาขัดให้ทั่วผิวหน้า ทิ้งไว้ 10-15 นาทีค่อยล้างออก แล้วเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอีกขั้นตอน
ประโยชน์ของการขัดผิวหน้าให้ขาวใสแบบธรรมชาติ
1.ช่วยลดการเกิดสิว
เนื่องจากการขัดผิวหน้าจะเป็นตัวช่วยกำจัดเอาเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดลอก
ลึกไปถึงชั้นผิวหนังด้านในที่เข้าถึงได้ยาก เป็นตัวลดอาการระคายเคืองอันเนื่องมาจากเชื้อแบคทีเรียและสิ่งสกปรก จึงทำให้สิวลดน้อยลงนั่นเอง
2.ทำให้ผิวชุ่มชื่นมากขึ้น
การขัดผิวไม่ได้เป็นตัวช่วยทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้นได้เอง แต่ภายหลังการขัด
สาวๆ จะต้องบำรุงผิวด้วยโลชั่นตามสภาพผิว ซึ่งสารต่างๆ จะซึมเข้าสู่ผิวได้ดีเป็นพิเศษภายหลังจากการขัดผิวหน้านั่นเอง
3.ช่วยให้ผิวเรียบเนียนเสมอกัน
เนื่องจากกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ซึ่งมักจะทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอถูกกำจัดออกไปได้อย่างหมดจรด เผยผิวใหม่ที่มีความเป็นธรรมชาติ ทำให้สีผิวเนียนเสมอกันได้อย่างที่ต้องการ
4.ช่วยลดความมันบนผิวหน้า
ด้วยการกำจัดเอาสิ่งสกปรกและไขมันส่วนเกินในรูขุมขนออกไป จึงช่วยทำให้ผิวหน้าไม่มัน ต่อมไขมันทำงานตามปกติ และยังช่วยทำให้การแต่งหน้าติดทนนาน ไม่เยิ้มในระหว่างวันด้วย
Photo Credit : homemademasks.net
ข้อควรระวังกับการสูตรขัดผิวขาวใสของผิวหน้า
ข้อควรระวังที่สาวๆ ควรทราบ สำหรับการขัดผิวหน้า ด้วยสภาพที่ผิวมีความบอบบางมากกว่าผิวกาย
การขัดที่ดีจะต้องหลีกเลี่ยงการใช้ส่วนผสมที่มีความเป็นกรดเข้มข้นจนเกินไป
การขัดผิวที่ถูกวิธีจะต้องหมุนมือให้เป็นวงกลมช้าๆ และเบามือ เพื่อช่วยกระตุ้นให้เซลล์ผิวหลุดลออกออกมา
หากรู้สึกระคายเคืองแสบร้อน ให้รีบล้างทำความสะอาด และไม่ควรทิ้งไว้นานจนเกินไป
สาวๆ ที่มีผิวแห้ง ระคายเคืองและแพ้ง่ายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ควรระมัดระวังการขัดผิวหน้าให้มากหน่อย และหลีกเลี่ยงการขัดผิวทุกวัน
แต่ให้ใช้สูตรขัดผิวหน้าต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นเพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ห่างกัน 3-4 วันเท่านั้น
เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวแห้งและบางจนเกินไป ท้ายที่สุดก็อย่าลืมปกป้องผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ทุกครั้งหลังการขัดหน้า
ซึ่งจะทำให้ผิวชุ่มชื่น และซึมซาบเอาสารอาหารที่มีประโยชน์เข้าสู่ผิวได้มากเป็นพิเศษนั่นเองค่ะ