การทำหมันหญิง (Female sterilization) จัดเป็นหนึ่งในวิธีคุมกำเนิดที่ได้รับความนิยม มีความปลอดภัย
ให้ประสิทธิภาพป้องกันการตั้งครรภ์ได้สูง อีกทั้งมีความประหยัด ซึ่งจะเป็นการทำให้ส่วนของหลอดมดลูก
ที่เรียกว่า fallopian tube อุดตัน เป็นการขัดขวางการเคลื่อนที่ของไข่ไม่ให้สามารถเคลื่อนเข้าสู่รังไข่เพื่อไปปฏิสนธิกับอสุจิได้
โดยการทำนิยมทำหลังคลอด ซึ่งจะให้ความสะดวกมากกว่าในช่องไม่ตั้งครรภ์ ช่วยให้สาวๆ เจ็บตัวแค่ครั้งเดียวก็ว่าได้ค่ะ
ทำความรู้จักกับการทำหมันหญิง
การทำหมันหญิง ก็คือหนึ่งในวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง เรียกได้ว่าโอกาสที่จะผิดพลาดมีเพียง 0.5-0.7 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ด้วยความประหยัดและปลอดภัย จึงทำให้การทำหมันในผู้หญิงได้รับความนิยมมากกว่าในผู้ชาย
และมักทำในผู้หญิงที่ผ่านการตั้งครรภ์มาแล้ว มั่นใจว่าตัวเองไม่ต้องการมีบุตรเพิ่มมาอีก
ก็จะทำหมันทันทีหลังคลอดบุตรเรียกว่า “การทำหมันเปียก” และแบบการทำหมันปกติ เรียกว่า “การทำหมันแห้ง”
หรือในกลุ่มที่มีข้อห้ามในการตั้งครรภ์ที่อาจเกิดความเสี่ยง โดยการทำหมันลักษณะนี้
จะเป็นการทำให้ท่อนำไข่ทั้งสองข้างอุดตัน ตัวอสุจิจะเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ไม่ได้นั่นเอง
การทำหมันเปียกคืออะไร ?
การทำหมันเปียกคือการทำหมันหลังคลอดบุตร ได้รับความนิยมมากกว่าการทำหมันธรรมดา
จะทำภายใน 6 สัปดาห์หลังคลอด เนื่องจากทำได้ง่าย มดลูกอยู่ในระดับสะดือ
ช่วยให้แพทย์สะดวกต่อการหาท่อนำไข่ การผ่าตัดไม่ยุ่งยากซับซ้อน รักษาตัวในระยะเวลาเดียวกันกับการพักฟื้นหลังคลอดบุตรได้
ด้วยลักษณะของมดลูกที่ยังขยายใหญ่อยู่ ทำให้แผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก แพทย์จะทำการผูกท่อนำไข่
จากนั้นจะตัดท่อนำไข่บางส่วนทิ้งไป ซึ่งส่วนของแผลผ่าตัดจะอยู่ใต้สะดือ มีขนาดเพียงแค่ 2-5 เซนติเมตรเท่านั้น
การทำหมันแห้งคืออะไร ?
การทำหมันแห้ง เป็นช่วงของการทำหมันที่ไม่ได้อยู่ในระยะ 6 สัปดาห์ภายหลังการคลอดบุตร มดลูกจึงมีขนาดเล็กกว่า
จะมีตำแหน่งอยู่ภายในอุ้งเชิงก้านลึกเข้าไป ทำให้ยากต่อการหาท่อนำไข่ กรณีที่สาวๆ ต้องการทำหมันในช่วงนี้
จะแบ่งการผ่าตัดออกเป็น 2 วิธีด้วยกันคือ ผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง โดยแผลจะอยู่เหนือหัวหน่าว
และอีกวิธีคือการผ่าตัดผ่านกล้อง ข้อดีคือมีแผลขนาดเล็กเพียงแค่ 2-3 แผล เมื่อพบท่อนำไข่จะใช้ไฟฟ้าจี้
ร่วมกับการตัดท่อนำไข่บางส่วนออกทั้งสองข้าง โดยจะมีอุปกรณ์รัดท่อนำไข่เอาไว้ผ่านเครื่องมือที่สอดเข้าไป
ซึ่งวิธีนี้จะมีความเสี่ยงในผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ ความดัน หรือภาวะผิดปกติของระบบหมุนเวียนเลือด
อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของอวัยวะข้างเคียงได้ง่ายในขั้นตอนการจี้ไฟฟ้าอีกด้วย
ใครที่ควรตัดสินใจทำหมันหญิง ?
สาวๆ ที่ต้องการทำหมัน มักจะเป็นในรายที่คิดว่าตนเองมีบุตรเพียงพอแล้ว ซึ่งจะเกิดการตัดสินใจจากการวางแผนครอบครัว
เห็นสมควรกันทั้งคู่สามีภรรยาแล้ว ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์แบบต่างๆ
ดังนั้นก่อนตัดสินใจ จะต้องศึกษาข้อมูลและพิจารณาให้ดีเสียก่อน มิเช่นนั้นการกลับมาแก้หมัน จะเป็นเรื่องยุ่งยาก ทำให้ต้องเจ็บตัวซ้ำซ้อนหลายรอบเอาได้
ข้อดีของการทำหมันหญิง
ข้อดีของการทำหมันหญิงก็คือเป็นวิธีคุมกำเนิดแบบถาวรที่มีประสิทธิภาพสูง โอกาสผิดพลาดต่ำมาก
หลังจากที่แผลหายเป็นปกติแล้ว ไม่มีผลความรู้สึกทางเพศ สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ
ไม่ต้องกังวลกลัวว่าตัวเองจะต้อง ไม่มีผลแทรกซ้อนต่อสุขภาพในระยะยาว คุณแม่ที่มีลูกอ่อนสามารถให้นมบุตรได้ตามปกติ
ไม่มีผลใดๆ กับเด็กที่คลอดออกมา ลดความจำเป็นในการใช้ฮอร์โมนคุมกำเนิดที่มีผลข้างเคียงและความผิดพลาดสูงกว่า
ข้อดีของการทำหมันหญิง
ข้อเสียของการหมันหญิง ตั้งแต่ผลข้างเคียงภายหลังการทำ ซึ่งอาจจะพบในกลุ่มที่มีภาวะแพ้ยาสลบหรือยาชา
ไม่สามารถใช้ยาเหล่านี้ได้ มีอันตรายต่ออวัยวะข้างเคียง หากแพทย์ผ่าตัดไม่มีความชำนาญมากพอ
หรือในระหว่างผ่าตัดมีภาวะเสียเลือดมาก เนื่องจากการฉีกขาดของหลอดเลือดบริเวณท่อนำไข่
ไหมที่ผูกอยู่บริเวณท่อนำไข่หลุดระหว่างที่แผลยังไม่หายดี ก็อาจจะทำให้เลือดออกมาในช่องท้องได้
อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน ลุกลามเข้าสู่อวัยวะข้างเคียงทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิต
ส่วนผู้ที่ทำหมันหายดีแล้ว จะมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้สูงกว่า หากการผ่าตัดทำได้ไม่ดีพอ
Photo Credit : indianhealthguru.com
อีกทั้งการทำหมันชนิดนี้ แม้จะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ แม้ไม่ใส่ถุงยางอนามัย แต่ไม่สามารถป้องกันความเสี่ยงต่อการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ได้
ดังนั้นก่อนตัดสินใจทำหมัน สาวๆ ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน หรือหากไม่มั่นใจ
ก็ควรขอรับคำปรึกษาจากแพทย์ที่เชี่ยวชาญ เตรียมตัวให้พร้อม เพื่อความปลอดภัยของตัวเองในระยะยาวนั่นเองค่ะ