ร่างกายของมนุษย์ มีสิ่งอัศจรรย์ที่คอยปกป้องร่างกายในระดับหนึ่ง เพื่อให้เราสามารถอยู่รอดได้ โดยเฉพาะ การส่งสัญญาณเตือนบางอย่าง
ที่จะบอกว่า ร่างกายตอนนี้มีสุขภาพแข็งแรงดี หรือกำลังเจ็บป่วย ยกตัวอย่างง่ายๆ คือ อาการเป็นไข้ ตัวร้อน
ซึ่งในทางการแพทย์แผนโบราณ ไม่ถือว่า เป็นอาการป่วย แต่เป็นการรักษาตัวเองของร่างกาย เพื่อช่วยลดระดับอุณหภูมิให้ร่างกายกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
เช่นเดียวกันกับ ประจำเดือน (Menstruation) ของสาวๆ ที่หลายคนไม่เคยสังเกตว่า มันสามารถบอกถึงสภาพร่างกาย
และอาการเจ็บป่วยของเราได้เช่นกัน หากใครที่ยังอยู่ในวัยเจริญพันธุ์ ควรหันมาสังเกตสีและอาการต่างๆ
ที่เกิดขึ้นขณะมีประจำเดือน ที่อาจเป็นสัญญาณเตือนโรคบางชนิดให้กับสาวๆ ก็เป็นได้ค่ะ
วิธีสังเกตลักษณะของประจำเดือน
สีประจำเดือนโดยทั่วไปจะเป็นสีแดงเข้ม แดงสด สีน้ำตาล สีเชอรี่ ไปจนถึงสีชมพู ซึ่งก็คือเลือดและเยื่อบุที่หลุดลอกออกมา
เฉดสีเหล่านี้ ในแต่ละคนมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป แต่ก็ถือว่า ไม่ใช่ความผิดปกติ หากไม่มีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย
ความผิดปกติที่สาวๆ ควรสังเกต ตามหลักของแพทย์สูตินารี คือ รอบเดือนว่ามาสม่ำเสมอหรือไม่ โดยทั่วไปจะอยู่อยู่ที่รอบละ 28 วัน
ก่อนหรือเพิ่มไปกว่านี้ไม่เกิน 7 วัน และมาตรงตามกำหนดในทุกๆ เดือน คลาดเคลื่อนบ้างเล็กน้อยเท่านั้น
ต่อมาคือ ปริมาณ ตามปกติจะต้องมาอย่างน้อย 3-7 วัน แต่บางคนอาจมาเกินนี้ได้บ้างแต่ไม่ควรเกินไปกว่า 10 วัน
โดยปริมาณที่มาต้องไม่มากจนทำให้อ่อนเพลีย กลายเป็นภาวะเลือดจาง หรือมาน้อยแบบกระปิดกระปรอย
ส่วนอีกจุดหนึ่งที่ควรสังเกต คือลักษณะของประจำเดือนที่ออกมา ให้สังเกตสีของประจำเดือนด้วย ว่า
มีก้อนเลือดหรือสีผิดปกติอื่นใด นอกเหนือข้างต้น ขนาดของลิ่มเลือดที่ออกมาไม่ควรเกิน 2 เซนติเมตร
จะต้องไม่มีเศษชิ้นเนื้อขนาดใหญ่ปะปนออกมาด้วย เพราะเนื้อเยื่อของโพรงมดลูกจะมีรูปร่างเหมือนเยื่อไม้ไผ่
จึงมีลักษณะยุ่ยๆ ไม่ใหญ่จนดูผิดปกติ ไม่มีมีของเหลว กลิ่น และอาการผิดปกติ เช่น ปวดท้องอย่างรุนแรงทุกครั้ง
ที่มีประจำเดือน ปวดหน่วงเหมือนมีก้อนอยู่ข้างใน มีไข้ตัวร้อน อาเจียน ปวดศีรษะ หรือรู้สึกเหมือนจะเป็นลม เหล่านี้
หากเป็นไปได้ สาวๆ ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์และตรวจภายในเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป
สาเหตุของประจำเดือนที่ผิดปกติ
เมื่อสาวๆ พบว่า ตัวเองมีประจำเดือนผิดปกติ มามาก มาน้อย หรือแทบจะไม่มาเลย รวมถึงอาการอื่นๆ อีกมากมาย
มีต้นตอเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ หากแบ่งย่อยออกไป ลักษณะประจำเดือนที่มามากจนผิดสังเกตมานานเกินเวลา
อาจมีความเสี่ยงเกี่ยวข้องกับการอักเสบของโพรงมดลูก มะเร็งภายในอวัยวะสืบพันธุ์ มีเนื้องอกโพรงมดลูก
ส่วนในกรณีที่ประจำเดือนมาน้อยแบบกระปิดกระปรอย นานๆ มาครั้ง ไม่มีกำหนดที่แน่นอน
ซึ่งบางคนอาจมีประจำเดือนมาเพียงแค่ 3-4 ครั้งต่อปี สามารถเกิดขึ้นได้จากความผิดปกติของระบบฮอร์โมน
มีการอักเสบภายในช่องคลอด ปากช่องคลอด โพรงมดลูก มีเนื้องอกอยู่ภายใน มะเร็ง หรือโรค PCOS ที่พบได้บ่อย
แต่หากมีความผิดปกตินอกเหนือจากนี้ เช่น มีไข้ มีก้อนขนาดใหญ่หลุดอกมาด้วย ประจำเดือนมีกลิ่นเหม็นรุนแรง
แบบนี้ ควรเข้ารับการตรวจภายในจากแพทย์โดยด่วน ไม่ควรปล่อยทิ้งเอาไว้นาน เพราะอาจเป็นโรคร้าย ที่ลุกลามเข้าสู่อวัยวะข้างเคียงจนสายเกินแก้ได้
Photo Credit : sinicropispine.com
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นอาการผิดปกติแบบไหน ทางที่ดีที่สุดคือการเข้ารับการตรวจภายในอย่างสม่ำเสมอ
แม้จะพบว่า ตัวเองมีประจำเดือนมาแบบปกติก็ตาม เพราะบางครั้งอาการเจ็บป่วยภายใน
ของอวัยวะสืบพันธุ์ของผู้หญิง มีความซับซ้อนมากกว่าในผู้ชาย ความผิดปกติสามารถเกิดขึ้นได้
โดยไม่มีอาการ กว่าจะรู้ตัวอีกที อาจเข้าสู่ระยะที่รุนแรงเกินรักษาให้หายได้แล้วก็เป็นได้ค่ะ