โรคเซ็บเดิร์ม (Seborrheic Dermatitis – Seb derm) เป็นชื่อที่สาวๆ ส่วนใหญ่ค่อยคุ้นหู เนื่องจากชื่อเรียกที่เป็นศัพท์เฉพาะ
ยังไม่มีบัญญัติอย่างเป็นทางการสำหรับภาษาไทย แต่เราก็มักเรียกตามลักษณะอาการว่า โรคแพ้เหงื่อ หรือ โรคผิวหนังอักเสบ
หรือโรคต่อมน้ำมันอักเสบ หรืออาการแพ้น้ำมัน หรือโรครังแคบนใบหน้า เป็นต้น
ซึ่งโรคนี้จัดได้ว่า เป็นภูมิแพ้ผิวหนัง ที่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งกรรมพันธุ์และปัจจัยภายนอก พบได้บ่อยทั่วโลก
เชื่อกันว่า มีราวๆ 3-5 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั่วโลก ซึ่งบางกลุ่มก็มีอาการเกิดขึ้นไม่มากนัก
ทำให้ไม่ค่อยได้ใส่ใจกับความผิดปกติ ไม่ถูกนับรวมอยู่ในโรคนี้ได้อย่างแน่ชัดราวๆ 10-15 เปอร์เซ็นต์
อีกทั้ง อัตราการพบโรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่วัยเด็กอายุต่ำกว่า 3 เดือนไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ช่วงอายุ 40-70 ปี กันเลยทีเดียวค่ะ
ลักษณะของโรคผิวหนังเซ็บเดิร์ม
สำหรับลักษณะของโรคนี้ มักแตกต่างจากโรคผิวหนังทั่วๆ ไป เนื่องจากไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดได้
มีเพียงการคาดเดากันไปตามทฤษฎี เช่น เกิดจากความผิดปกติของต่อมน้ำมันตามธรรมชาติของร่างกาย
ที่ผลิตออกมาแต่กลับไปกระตุ้นทำให้ผิวหนังเกิดความระคายเคือง พบได้บริเวณข้างจมูก คิ้ว หนังศีรษะ
และส่วนอื่นๆ ที่มีต่อมไขมัน หรือบางกลุ่มอาจจะเกี่ยวข้องกับภูมิแพ้ที่มีต่อเชื้อรา เกลื้อน
ก็ทำให้ผิวหนังของสาวๆ เกิดการอักเสบเป็นโรคนี้ขึ้นมาได้เช่นกัน ส่วนมากเชื้อราที่เป็นปัญหาของโรคนี้มีชื่อว่า Malassezia
เชื้อราที่มักเกิดขึ้นบนผิวหนัง เติบโตได้ดีหากมีสภาพผิวมัน (เป็นเชื้อราที่ชอบไขมัน) เมื่อมันอาศัยอยู่บนผิวหนัง
จะมีการผลิตเอนไซม์ย่อยไขมันบนผิวหนังเกิดขึ้น ซึ่งสารชนิดนี้จะเข้าไปกระตุ้นให้เกิดภาวะอักเสบ
นอกจากนี้โรคเซ็บเดิร์มยังสามารถเกิดขึ้นได้จากการเกาหรือขัดอย่างรุนแรงจนทำให้เป็นรอยถลอก
สภาพอาการเกิดการเปลี่ยนแปลง พบได้มากในช่วงหน้าหนาวที่มีความชื้นต่ำ ภาวะเครียด
การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ผู้ป่วยที่เป็นโรคพากินสัน ไปจนถึงผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นต้น
ลักษณะอาการของโรคผิวหนังอักเสบ เซบเดิร์ม
อาการของโรคนี้ มักพบได้บ่อยในกลุ่มคนที่มีผิวมัน และคนที่มีภูมิต้านทานโรคบกพร่อง ซึ่งพบได้บ่อยในกลุ่มผู้ป่วยเอดส์
สังเกตได้ว่า อาการเบื้องต้นจะไม่ค่อยปรากฏให้เห็นเด่นชัดนัก เริ่มด้วยอาการคันตามศีรษะ เหมือนมีรังแค
ส่วนบางกลุ่มที่มีอาการรุนแรงจะมีผื่นขึ้นทั่วตัว ทว่าพบได้ไม่บ่อยนัก ซึ่งลักษณะของผื่น จะขึ้นบริเวณต่อมที่เป็นแหล่งผลิตน้ำมันมากกว่าส่วนอื่น
หากไม่ทำการรักษา จะทำให้เกิดการแพร่กระจายตัวเป็นบริเวณกว้าง ผื่นที่เกิดขึ้นสามารถลุกลาม
กลายเป็นการอักเสบ เป็นรอยแดง คัน ผิวหนังลอกเป็นสะเก็ดแห้งๆ เป็นแผ่นมีพื้นผิวมัน เมื่อเหงื่อออกหรือโดนแดดจะรู้สึกแสบผิว
อย่างไรก็ตามอาการของโรคจะมีหลายระดับ ตั้งแต่อาการเพียงเล็กน้อย ไปจนถึงอาการที่รุนแรง ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของสาวๆ อย่างหนัก
การรักษาและป้องกันโรคเซบเดิร์ม
สำหรับการรักษา แพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยโรคเสียก่อนว่าผู้ป่วยมีภาวะผิวหนังอักเสบ
อันเกิดจากโรคเซ็บเดิร์มหรือไม่ หากใช่ จะทำการรักษาตามความรุนแรง ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์
มีการใช้ยาในกลุ่มสเตียรอยด์แบบเข้มข้นต่ำ เพื่อควบคุมไม่ให้โรคลุกลาม และต้องอยู่ในการควบคุมดูแลของแพทย์มากที่สุด
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงตามมา ผู้ป่วยจะได้รับการควบคุมไม่ให้เข้าใกล้ปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้น
หลีกเลี่ยงตัวการที่ทำให้โรคลุกลาม หากรู้สึกคันที่ศีรษะเป็นรังแค การสระผมไม่ได้ช่วยให้อาการดีขึ้น
ผู้ป่วยจะได้รับการแนะนำให้ใช้แชมพูแบบพิเศษ ที่มีส่วนผสมของยาที่ช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ให้ดีขึ้น
Photo Credit : dermandlaser.com
เนื่องมาจากโรคนี้ไม่สามารถหาสาเหตุที่แน่ชัดได้ว่าเกิดจากอะไร การป้องกันคือการสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับผิวหนังตัวเอง
หากพบแม้เพียงเล็กน้อย ก็ควรเข้ารับการตรวจจากแพทย์ผิวหนังเฉพาะ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้อักเสบลุกลาม
และหากพบว่า ตัวเองเป็นโรคเซ็บเดิร์มจริงๆ จะได้ทำการรักษาไม่ให้โรคแพร่กระจายรุนแรงมากขึ้น นั่นเองค่ะ