สเต็มเซลล์ (Stem cell) เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เพิ่งถูกค้นพบได้ไม่นาน มีประโยชน์ในด้านการรักษาและยังถูกใช้ในด้านการเสริมความงามด้วย
ในทางการแพทย์ ได้รับการศึกษาวิจัยเพื่อนำเอาเซลล์เหล่านี้ มาใช้เป็นทางเลือกเพื่อการรักษาผู้ป่วยจากโรคทั่วไป
ไปจนถึงโรคร้ายแรงที่ไม่มีทางรักษาหายได้ด้วยยา หรือในกลุ่มผู้ป่วยที่มีโอกาสรอดต่ำ ให้สามารถยืดอายุให้มีชีวิตได้นานมากขึ้น
ซึ่งความหมายของสเต็มเซลล์ คือ เซลล์ต้นกำเนิด หรือเซลล์ที่กำลังจะก่อรูปเป็นเซลล์ต่างๆ ภายในร่างกาย
ยังไม่มีความจำเพาะในหน้าที่ของมัน นอกจากจะเจริญเติบโตเพื่อไปทำหน้าที่ตามความเหมาะสมในภายหลัง
ในปัจจุบัน เสต็มเซลล์ถูกใช้ในวงการแพทย์และอยู่ในการควบคุมอย่างเคร่งครัด
เนื่องจากเป็นการนำเอาเซลล์ของสิ่งมีชีวิตที่อาจจะขัดจากจรรยาบรรณหรือกฎหมายอะไรก็ตามแต่
บางส่วนยังให้ความสนใจและสนับสนุน แต่ก็มีอีกส่วนหนึ่งที่รู้สึกว่าเป็นการเข้าไปก้าวก่ายอีกชีวิตหนึ่งโดยไม่ได้รับอนุญาต
แต่ประเด็นเหล่านี้ดูเหมือนจะถูกก้าวข้ามไป เมื่อข้อดีของสเต็มเซลล์ถูกนำมาใช้ในด้านธุรกิจความงามกันอย่างแพร่หลาย
โดยเฉพาะในหมู่คลินิกเสริมความงามต่างๆ ที่ต่างโฆษณาถึงคุณสมบัติของการฉีดสเต็มเซลล์เพื่อชะลอวัย
ทำให้หลายคนสนใจและหันไปใช้บริการกันเป็นจำนวนมาก โดยหารู้ไม่ว่านั่นอาจจะกลายเป็นอันตรายและการจ่ายเงินที่ไม่คุ้มค่าเอาเสียเลยก็เป็นได้ค่ะ
สเต็มเซลล์ คืออะไร?
สเต็มเซลล์ จัดได้ว่าเป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่มีความพิเศษในตัวเอง ในสิ่งมีชีวิตที่กำลังเจริญเติบโต ความสามารถหลักของมันคือการเพิ่มจำนวน แบ่งตัวได้อย่างไม่จำกัด
เซลล์ที่ถูกแบ่งออกมาจะเปลี่ยนรูปร่างเป็นเซลล์ทุกชนิดภายในร่างกายได้ จึงเปรียบเสมือนจุดกำเนิดของการสร้างเซลล์ที่จะก่อรูปไปเป็นอวัยวะต่างๆ ต่อไป
ช่วยให้เซลล์ที่เสื่อมสภาพได้รับการฟื้นฟู กลับมาใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกครั้ง
ลักษณะของเซลล์ต้นกำเนิดนี้ จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือ เซลล์ต้นกำเนิดที่ได้มาจากตัวอ่อน และเซลล์ต้นกำเนิดที่ได้มาจากสิ่งมีชีวิตที่โตเต็มวัยแล้ว
คุณสมบัติของเซลล์ทั้งสองมีความแตกต่างกัน หากได้มาจากตัวอ่อน จะสามารถนำไปเปลี่ยนแปลงให้เป็นเซลล์อื่นๆ ได้แบบไม่จำเพาะ
แต่หากได้จากสิ่งมีชีวิตโตเต็มวัย ซึ่งส่วนมากมาจากเนื้อเยื่อ ก็จะถูกเปลี่ยนแบบจำเพาะกับเนื้อเยื่อประเภทเดียวกันเท่านั้น
ในทางการแพทย์ สเต็มเซลล์สามารถช่วยรักษาโรคได้ แต่จากผลการวิจัย การรักษายังมีข้อจำกัด
เนื่องจากใช้สำหรับการรักษาความผิดปกติที่เกิดขึ้นในระบบเลือดเท่านั้น
จึงนิยมนำไปใช้รักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว และภาวะโลหิตจางเป็นหลัก
ส่วนการนำมาใช้ในด้านเสริมความงาม สาวๆ ต้องเข้าใจเสียใหม่ว่าการแช่แข็งเซลล์เหล่านี้เอาไว้ จะทำให้มันสูญสลายไป
จึงจำเป็นต้องใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจเสริมความงามให้ดีเสียก่อน อย่าหลงเชื่อเพียงแค่คำโฆษณาเกินจริงเพียงอย่างเดียว
อันตรายจากสเต็มเซลล์ และการลวงโลกของสถานเสริมความงาม
คงจะพอตอบคำถามหัวข้อกันไปได้แล้วว่าสเต็มเซลล์ไม่ได้มีประโยชน์ในด้านเสริมความงามจริง
แต่เป็นเพียงเครื่องบังหน้าของศูนย์เสริมความงามให้สามารถเรียกเก็บเงินผู้เข้ารับการฉีดได้มากขึ้น
และสเต็มเซลล์ที่พวกเขากล่าวเอาไว้นั้นก็ไม่ใช่สเต็มเซลล์แท้แต่อย่างใด
เนื่องจากการใช้สเต็มเซลล์จะต้องเป็นเซลล์ที่ยังมีชีวิตอยู่เท่านั้นถึงจะเอามาใช้งานได้
ทั้งนี้มันต้องใช้ขั้นตอนดูแลที่ซับซ้อนจึงจะคงสภาพชีวิตเอาไว้ได้ จนสามารถที่จะนำมาใช้งาน
ดังนั้นในหมู่สถานเสริมความงามทั้งหลายที่ระบุเอาไว้ถึงการฉีดสเต็มเซลล์จึงไม่มีอยู่จริง
แม้จะมีส่วนผสมอยู่บ้างก็เป็นส่วนที่ตายแล้วและไม่มีประโยชน์เกิดขึ้นกับร่างกายแต่อย่างใด
นอกจากนี้อันตรายที่ไม่ถูกกล่าวถึงของมันยังเสี่ยงที่จะเข้าไปอุดตันการหมุนเวียนของเลือดเมื่อถูกฉีดเข้าไป
บางรายเกิดอาการแพ้ต่อสารที่มีอยู่ในสเต็มเซลล์ ทำให้เซลล์ข้างเคียงถูกทำลาย กระตุ้นให้เซลล์มะเร็งเจริญเติบโต
Photo Credit : imtj.com
คนที่มีอาการแพ้เกิดขึ้น อาจรุนแรงจนทำให้ช็อก หมดสติ และเสียชีวิตตามมาได้อีกด้วย
ก่อนที่จะเชื่อมั่นในค่านิยมของการเสริมความงามจากสเต็มเซลล์ โดยเฉพาะคนที่วิ่งตามกระแสการดูแลผิวของดาราจะต้องตรวจหาข้อมูล
และความเป็นไปได้ให้มั่นใจเสียก่อน เพราะมิเช่นนั้น นอกจากจะเสียเงินทองอย่างมากมาย
ยังอาจจะเป็นตัวการ ทำให้เกิดผลร้ายต่อสุขภาพของสาวๆ ตามมาได้อีกด้วยค่ะ