ปวดท้องน้อยรุนแรงช่วงมีประจำเดือน สัญญาณเตือนเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
อาการปวดท้องน้อยในช่วงมีประจำเดือน เป็นสิ่งที่พบได้ทั่วไปในผู้หญิง ส่วนมากเกิดขึ้นจากการบีบตัวของมดลูก เพื่อให้เยื่อบุโพรงมดลูกหลุดออกมากลายเป็นเลือดประจำเดือน อาการปวดมักจะเป็นในช่วง 1-2 วันแรกที่ประจำเดือนมา แล้วก็จะค่อยๆ ดีขึ้นในวันถัดไป อาการเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลอันตรายใดๆ ต่อร่างกาย แต่หากอาการปวดมีความรุนแรงมาก จนแทบทนไม่ไหวทุกครั้งที่ประจำเดือนมา อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อยในหญิงวัยเจริญพันธุ์ ตำแหน่งที่ฝังตัวของเนื้อเยื่อจะอยู่ตามส่วนต่างๆ ภายในช่องท้องที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์ รวมถึงลำไส้ ตับ กะบังลม กระเพาะปัสสาวะ และภายนอกช่องท้องก็ได้เช่นกัน หากปล่อยอาการปวดทิ้งเอาไว้นาน อาจจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมา ดังนั้นหากสาวๆ รู้สึกถึงอาการปวดท้องที่รุนแรงแบบผิดปกติ ควรเข้ารับการตรวจจากแพทย์ เพื่อหาสาเหตุว่าเป็นอาการทั่วไป หรือมีตัวกระตุ้นมาจากโรคอื่นหรือไม่ เข้าใจการเกิดโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือที่นิยมเรียกในทางการแพทย์ว่า โรคเอ็นโดเมททริโอซิส (Endometriosis) เป็นความผิดปกติของเยื่อบุโพรงมดลูกที่เจริญเติบโตในตำแหน่งที่ไม่ใช่ในโพรงมดลูก พบได้มากในตำแหน่งของอุ้งเชิงกราน ซึ่งก็คือท้องน้อย ตามปกติเยื่อบุโพรงมดลูกจะหลุดลอกออกมาในช่วงที่มีประจำเดือนกรณีที่ไม่ได้อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ แม้ว่าจะเกิดการเจริญเติบโตในตำแหน่งที่ไม่ใช่โพรงมดลูก เนื้อเยื่อเหล่านี้ก็จะหลุดลอกออกไปได้เช่นกัน ในภาวะผิดปกติที่ทำให้เยื่อบุไปเจริญเติบโตผิดที่ เมื่อหลุดลอกออกมา เสี่ยงที่จะทำให้บริเวณที่มันเกาะติดอยู่เป็นแผลถลอก ตามมาด้วยอาการอักเสบ เมื่อเกิดขึ้นบ่อยเข้าก็จะทำให้มีพังผืดขึ้นมาเกาะ เกิดถุงน้ำจากการสะสมของเลือดที่ออกมา กลายเป็นถุงน้ำที่มีเลือดอยู่ภายใน เป็นเลือดเก่าที่คั่งค้าง จึงทำให้มีลักษณะเป็นถุงสีแดงคล้ำจนถึงน้ำตาลเข้ม เรียกกันว่า ถุงน้ำช็อกโกแลต หรือช็อกโกแลตซีส (Chocolate […]