ไมเกรน อาการ ปวดหัวข้างเดียว เรื้อรัง สาเหตุ และวิธีป้องกันรักษา

ไมเกรน (Migraine Headache) คือ อาการปวดหัวเรื้อรัง ซึ่งแตกต่างจากอาการปวดหัวธรรมดาทั่วไปตรงที่จะเริ่มปวดเฉพาะแค่บางจุด ปวดตุ๊บๆ เป็นระยะๆ แบบที่หลายคนมักบอกว่า ปวดหัวข้างเดียว โดยอาการปวดหัวไมเกรนจะปวดรุนแรงในระดับปานกลางถึงรุนแรงมาก อาการปวดจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นทีละน้อย อาการปวดหัวจะคงอยู่นานหลายชั่วโมง แล้วจึงค่อยบรรเทาลง ซึ่งระหว่างที่ปวดหัวไมเกรน ผู้ป่วยมักรู้สึกคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย สาเหตุของไมเกรน ปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยที่ยืนยันชัดเจนว่า สาเหตุของอาการปวดหัวไมเกรนที่แท้จริง เกิดขึ้นเพราะอะไร แต่ในทางการแพทย์เชื่อว่า น่าจะเกิดจากความผิดปกติของระดับสารเคมีและระบบไฟฟ้าในสมอง เป็นเหตุให้เกิดการกระตุ้นที่เส้นประสาทในสมอง เกิดการหลั่งสารบางชนิดที่มีผลทำให้หลอดเลือดในสมองขยายตัวจนเกิดการอักเสบ เป็นผลทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่บ่งชี้ว่า อาการปวดหัวไมเกรนสามารถถ่ายทอดได้ทางพันธุกรรม อาการของไมเกรน อาการปวดหัวไมเกรน มักเป็นอาการปวดหัวข้างเดียว หรืออาจเริ่มจากปวดข้างเดียวแล้วจึงปวดเพิ่มขึ้นพร้อมกันทั้ง 2 ข้าง เป็นอาการปวดที่เกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน ระดับความปวดมีตั้งแต่ปานกลางจนถึงรุนแรง และจะยิ่งรู้สึกปวดมากขึ้นเมื่อขยับตัวเคลื่อนไหว โดยอาการปวดจะมีผลต่อเนื่องหลายชั่วโมง บางหลายอาจปวดนานถึง 72 ชั่วโมง นอกจากนี้อาจมีอาการอื่นๆ เกิดขึ้นพร้อมกันขณะปวดหัวไมเกรน เช่น ปวดเมื่อย มึนศีรษะ คลื่นไส้ เห็นภาพซ้อน รู้สึกเพลีย แขนขาอ่อนแรง ผู้ป่วยไมเกรนบางรายจะรู้สึกปวดหัวไมเกรนเมื่อเจอกับสิ่งกระตุ้น เช่นเจอแสงจ้า หรือได้ยินเสียงดัง รวมทั้งการที่ร่างกายต้องเจอกับความเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ […]

mahosot

October 11, 2019

ตาพร่ามัว มองไม่ชัด ปวดหัว เห็นภาพซ้อน เกิดจากอะไร?

ตาพร่ามัว มองไม่ชัด ปวดหัว เห็นภาพซ้อนเกิดจากอะไร อาการเหล่านี้เชื่อว่าหลายคนเป็นกันไม่น้อย และหลายคนก็อยากรู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เพื่อจะได้รู้เท่าทันปัจจัยที่ก่อให้เป็น จะได้รับมือป้องกัน และหาวิธีรักษาต่อไปได้อย่างถูกต้อง บทความนี้เราเลยมีรายละเอียดเกี่ยวกับอาการดังกล่าวมาฝาก ไปติดตามกันเลยค่ะ โรค Computer Vision Syndrome (CVS) ตาพร่ามัว มองไม่ชัด ปวดหัว เห็นภาพซ้อน เป็นอาการของโรค Computer Vision Syndrome (CVS) ซึ่งเกิดจากการที่ทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ประมาณ 2-3 ชั่วโมงติดต่อกัน และเกิดจากพฤติกรรมการมองจอภาพในระยะใกล้เกินกว่าครึ่งฟุตหรือประมาณ 6 นิ้ว เป็นเวลานาน ๆ ทำให้ต้องใช้กล้ามเนื้อรอบดวงตากับประสาทตาในลักษณะที่เพ่งจออยู่ตลอด ส่งผลให้เกิดอาการดวงตาตึงเครียด ตาช้ำ ตาล้า ตาแดง แสบตา ตาพร่ามัว มองภาพไม่ชัดเจน มองเห็นภาพซ้อน ตาฝืดแห้งและมีอาการปวดบริเวณรอบดวงตา ซึ่งบ่อยครั้งมักจะมีอาการปวดหัว ปวดคอ ปวดไหล่หรือปวดหลังร่วมด้วย โดยความรุนแรงของอาการจะเพิ่มมากขึ้น ตามระยะเวลาที่ใช้สายตาอยู่หน้าจอ และหากปล่อยอาการทิ้งเอาไว้โดยไม่ทำการรักษา อาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อดวงตาในระยะยาว และเสี่ยงต่อโรคดวงตาต่าง ๆ เช่น โรคต้อหิน […]

kaewsai

September 12, 2017