เพราะ สิว เป็นปัญหาใหญ่บนใบหน้าที่ทำลายความมั่นใจของหลายคนให้หมดไป ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย เมื่อสิวมาเยือนย่อมต้องสรรหาวิธีรักษาสิวโดยด่วน
และวันนี้เราก็จะพาคุณไปทำความรู้จัก กรด tca แต้มสิว กันค่ะ จะเป็นอย่างไร และรักษาสิวหายได้จริงไหม ไปติดตามกันเลย
สิวคือ อะไร?
ตุ่มนูนแดง ตุ่มหนอง ตุ่มเนื้อลึกใต้ผิวหนัง ตุ่มนูนเล็ก ๆ หัวดำ-หัวขาว คือเม็ดสิวที่เกิดจากการอักเสบเรื้อรังของรูขุมขนกับต่อมไขมัน
มักจะพบมากที่บริเวณใบหน้า และพบได้ทุกเพศทุกวัย โดยส่วนมากแล้วสิวมักจะเกิดขึ้นในช่วงวัยรุ่น
ซึ่งเด็กผู้หญิงจะเริ่มมีสิวขึ้นตั้งแต่ช่วงระหว่าง 9-12 ปี ส่วนเด็กผู้ชายจะเริ่มมีสิวขึ้นช้ากว่าเด็กผู้หญิงที่ฮอร์โมนเพศจะโตเร็วกว่า
คือช่วงระหว่าง 12-14 ปี และตั้งแต่สิวขึ้นครั้งแรก สิวจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั้งอายุราว 30 ปี สิวถึงจะค่อย ๆ บรรเทา และหมดไปเองในที่สุด
สิวมีกี่ชนิด?
สิวอุดตัน เกิดจากการอุดตันของต่อมไขมัน เป็นสิวที่พบได้มากที่สุด มีลักษณะเป็นเม็ด ตุ่ม ผื่น
แตกต่างกันออกไปตามแต่ละชนิด ซึ่งสิวอุดตันจะแบ่งออกเป็น 3 ชนิดด้วยกันคือ
1.สิวผด มักจะเกิดขึ้นตอนที่เหงื่อออกมาก ๆ และเช็ดหน้าแรงมากเกินไป มีลักษณะเป็นผดเม็ดเล็ก ๆ
แต่ไม่มีหัวสิว พบมากตรงบริเวณจมูก แก้ม ไรผมกับหน้าผาก
2.สิวหัวดำหรือสิวหัวเปิด เกิดจากเซลล์ผิวที่ตายแล้วมารวมตัวกับไขมัน ทำให้เกิดการอุดตันอยู่ในรูขุมขน
มีลักษณะเป็นตุ่มนูนเม็ดเล็ก ๆ มีรูเปิดออกจนเห็นหัวสิวได้อย่างชัดเจน มองเห็นเป็นจุดสีดำ
3.สิวหัวขาวหรือสิวหัวปิด เกิดจากการอุดตันสะสมของรูขุมขนกับต่อมไขมัน มีลักษณะเป็นตุ่มนูน
หากปล่อยทิ้งเอาไว้นาน ๆ สิวหัวขาวจะมีขนาดใหญ่ขึ้นหรืออาจพัฒนากลายเป็นสิวอักเสบ
สิวอักเสบ มีลักษณะเป็นเม็ดขนาดใหญ่ มีอาการบวมแดงและเป็นหนองร่วมด้วย ซึ่งเกิดขึ้นจากการอักเสบของเซลล์ผิวหนัง โดยสิวอักเสบมีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิดดังนี้
1.สิวเสี้ยน พบมากบริเวณใต้คาง จมูกกับแก้ม เกิดจากการอุดตันของไขมันและสิ่งสกปรกในรูขุมขน
มีลักษณะเป็นตุ่มไขมันสีขาวหรือจุดดำ ๆ เมื่อส่องกระจกจะเห็นว่าเป็นจุดไขมันสีขาวหรือจุดดำ ๆ อยู่เต็มไปหมด
2.สิวหนอง เกิดขึ้นจากการที่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปอุดตัน หรือเกิดขึ้นจากการอุดตันของไขมันที่ร่างกายทำการขับออกมาทางรูขุมขน
และเมื่อแบคทีเรียในสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ตัว เข้าไปทำปฏิกิริยาเพื่อที่จะย่อยสลายไขมันเหล่านั้น
แล้วเกิดการย่อยสลายที่ไม่สมบูรณ์ ก็จะทำให้เกิดการอักเสบกลายเป็นสิวที่มีลักษณะตุ่มนูนสีขาวเป็นหนองอยู่ด้านใน
ซึ่งหากเป็นสิวหนองขนาดใหญ่มักจะมีอาการปวดหรือเจ็บบริเวณสิวร่วมด้วย
3.สิวหัวช้าง คือสิวขนาดใหญ่ที่เกิดการอักเสบมากกว่าปกติ จนทำให้เกิดเป็นสิวเม็ดใหญ่ที่มีเลือดกับหนองรวมกันอยู่ในสิว
ซึ่งโดยส่วนมากแล้วหากเป็นสิวหัวช้างมักจะมีอาการเจ็บปวดมากร่วมด้วย และหากปล่อยทิ้งเอาไว้ อาจพัฒนากลายเป็นผิวหนังอักเสบหรือฝี
การรักษาสิวด้วยกรด TCA
หลายคนอาจคิดว่าสิวขึ้นมาเองได้ก็สามารถหายเองได้ ไม่จำเป็นที่จะต้องทำการรักษาแต่อย่างใด
อันที่จริงแล้วคนเป็นสิวควรจะรีบทำการรักษาสิวตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อไม่ให้สิวลุกลามกลายเป็นสิวอักเสบจนรักษาให้หายขาดได้ยาก
ซึ่งการรักษาสิวอย่างได้ผลก็คือ การแต้มสิวด้วยกรด TCA
กรด TCA คืออะไร?
ยากรดไทรคลอโรอะซีติค (Trichloroacetic acid) หรือที่เรียกว่า กรด TCA เป็นยาสำหรับใช้ภายนอก
มีฤทธิ์ในการกัดกร่อน การลอกชั้นเซลล์ผิวหนัง ใช้สำหรับในการรักษาสิวอักเสบ รอยดำ ไฝ กระ และหลุมสิว
ซึ่งตัวกรดจะกัดลงไปในผิว ส่งผลให้ผิวเกิดบาดแผล จึงช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทนหลุมสิว
ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น และหากนำตัวกรด TCA มาแต้มสิว ก็จะช่วยให้สิวยุบตัว สิวอักเสบแห้งอย่างรวดเร็ว
ซึ่งความเข้มข้นของกรด TCA จะมีตั้งแต่ 10% จนถึง 100% โดยความแรงของกรดจะอันตรายและกัดผิวแรงขึ้นตาม %
ความเข้มข้นของกรด โดยการเลือกความเข้มข้น ควรเลือกใช้ตามอาการของแต่ละบุคคล หากนำมาใช้ในการรักษาสิว
ก็ควรใช้ที่มีความเข้มข้นน้อยกว่ารายที่มีปัญหาหลุมสิว ซึ่งจะต้องใช้ความเข้มข้นมากกว่าปกติเล็กน้อย คือไม่ควรเกิน 50%
การใช้กรด TCA ในการแต้มสิว
1.ทำความสะอาดผิวหน้า
2.แต้มกรด TCA โดยใช้ไม้จิ้มฟันปลายแหลม โดยจิ้มลงไปที่กรด TCA แค่เล็กน้อยเท่านั้น ห้ามเป็นหยดหรือเยิ้มอย่างเด็ดขาด
3.นำไม้จิ้มฟันมาจิ้มที่บริเวณหัวสิว
4.ทิ้งเอาไว้ราว ๆ 3-4 นาที จนมีฝ้าสีขาวขึ้น รู้สึกแสบยิบ ๆ ให้ล้างออกกโดยน้ำเปล่าหริอนำสำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ดออก
5.สำหรับการแต้มสิวอุดตันด้วยกรด TCA เมื่อหัวสิวแห้งหรือเกิดการตกสะเก็ด ให้นำที่กดสิวมากดสิวออก
ข้อควรรู้ในการใช้กรด TCA แต้มสิว
ซึ่งในการใช้งานกรด TCA ในการแต้มสิว หลังทำการแต้มสิวอย่าปล่อยเอาไว้นานเกิน 3-4 นาที เพราะตัวกรดจะกัดผิวนานเกินไป
ทำให้เกิดรอยไหม้หรืออาจทำให้แผลหลุมสิวมีขนาดที่ใหญ่กว่าเดิม และต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากในการแต้มสิว
หากไม่มีความรู้หรือความเชี่ยวชาญ ควรให้แพทย์ผิวหนังทำการแต้มสิวให้ และการแต้มสิวด้วยกรด TCA
ไม่ควรที่จะทำบ่อย ๆ อย่างเด็ดขาด ควรทำเพียงแค่เดือนละครั้งเท่านั้น
Credit : weather.com
จะเห็นได้ว่าแม้ว่าการใช้ กรด TCA แต้มสิว จะได้ผลในการรักษาสิวให้หาย แต่ก็ต้องใช้อย่างระมัดระวังเช่นกัน
เพราะมีผลข้างเคียงต่อผิวซึ่งจะทำให้เกิดรอยไหม้หรืออาจยิ่งทำให้เกิดรอยหลุมสิวที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
และควรทำการแต้มด้วยแพทย์ผิวหนังที่เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยต่อผิว