วิธีเลือกยารักษาสิวผดให้ได้ผล กำราบตัวปัญหาให้อยู่หมัด !

วิธีเลือกยารักษาสิวผด

สิวผด คือปัญหาที่สาวๆ ส่วนใหญ่จะต้องเผชิญ เป็นหนึ่งในสิวที่สร้างปัญหาในเรื่องความสวยความงาม

อาการโดยมากจะเกิดขึ้นแบบเป็นๆ หายๆ เนื่องจากสภาพอากาศ

การกระตุ้นจากปัจจัยหลายอย่างทั้งภายนอกภายใน นอกจากการดูแลตัวเองให้ดีแล้ว

บางครั้งก็จำเป็นต้องเลือกใช้วิธีรักษาสิวผดด้วยการใช้ “ยา” ซึ่งเป็นยาเคมีที่ช่วยลดสิวผดให้น้อยลง

นิยมในกลุ่มที่กังวลกับเรื่องความสวยความงามเป็นพิเศษ หรือคนที่มีปัญหาสิวผดรุนแรง

จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขก่อนที่ผิวหน้าจะเสียหายไปมากกว่านี้ แต่การเลือกใช้ยาให้ได้ประสิทธิภาพ

และปลอดภัย ทางที่ดีคือการใช้ยาตามสั่งจากแพทย์รักษาผิวหนัง

และศึกษาข้อมูลของยาแต่ละตัวให้เหมาะสมกับสภาพผิวของตัวเองมากที่สุดด้วยค่ะ

ข้อควรตระหนักก่อนเลือกซื้อยารักษาสิวผด

ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาแต้มหรือครีมรักษาสิวผด สิ่งแรกที่ควรทำคือการศึกษาข้อมูลของยาชนิดนั้นว่ามีส่วนประกอบของสารอะไรอยู่บ้าง

ซึ่งแต่ละชนิดจะมีระดับความเข้มข้นของตัวยาที่แตกต่างกันออกไป แม้จะเป็นยาตัวเดียวกัน

แต่ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถใช้ได้กับทุกคน ทุกสภาพผิวแต่อย่างใด

เพรายาบางชนิดจะผสมยาปฏิชีวนะอยู่ด้วย หากทำการรักษาแบบผิดวิธี แทนที่สิวผดจะหาย

กลับเป็นว่ายิ่งเพิ่มความรุนแรง เพราะเชื้อที่เป็นตัวการทำให้เกิดสิวเกิดภาวะดื้อย

หรือบางคนมีสภาพผิวแพ้ง่าย ทำให้เกิดอาการแสบร้อนที่ผิวหน้า สิวเห่อเพิ่มมากขึ้น จนทำให้การรักษายุ่งยากซับซ้อนมากขึ้นไปอีก

วิธีรักษาสิวผดด้วยยาสำหรับคนที่มีผิวธรรมดาและผิวมัน

1.ยาที่มีส่วนผสมของกรดวิตามิน A ที่เรียกว่า “Tretinoin”

ซึ่งมีระดับความเข้มข้นให้เลือกหลากหลาย เหมาะกับสภาพผิวที่แตกต่างกันออกไป

ตามมาตรฐานแล้วจะมีระดับความเข้มข้นตั้งแต่ 0.0125 เปอร์เซ็นต์ และ 0.025 เปอร์เซ็นต์

หรือบางรายอาจจะต้องใช้ระดับความเข้มข้นสูงถึง 0.05 เปอร์เซ็นต์ก็มี ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับแต่ละสภาพผิวหน้าด้วย

วิธีการใช้ยา : ตามปกติยาในกลุ่มที่มีส่วนผสมของกรดวิตามิน A แพทย์ผิวหนังจะแนะนำให้ใช้ทาก่อนเข้านอน

ซึ่งให้สาวๆ สังเกตอาการหลังจากทาไปแล้วสัก 30 นาที ซึ่งบางครั้งจะมีอาการระคายเคืองได้บ้างเล็กน้อย

แต่บางคนที่แพ้อย่างรุนแรง ก็ควรรีบล้างทำความสะอาดผิวหน้า เอาตัวยาออกไป

นอกจากนี้จะต้องระมัดระวังด้วยว่า การใช้ยาจะมีผลข้างเคียงคือทำให้ผิวบางและไวต่อแสงแดด

ก่อนออกจากบ้านสาวๆ จึงควรทาครีมกันแดดที่มี SPF ตั้งแต่ 30++ ขึ้นไปก่อนด้วย

2.ยาที่มีส่วนผสมของ Benzoyl Peroxide

เป็นยาที่มีระดับความเข้มข้นต่ำ ซึ่งจะอยู่ที่ไม่เกิน 2.5 เปอร์เซ็นต์ เป็นตัวยาที่ใช้รักษาสิวผดที่มีความรุนแรงระดับกลางๆ

จัดว่าเป็นตัวยาที่ได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อย เราเรียกยาตัวนี้กันย่อๆ ว่า BP ซึ่งไม่เพียงแค่รักษา

แต่ยังทำหน้าที่ช่วยลดสิวผดให้น้อยลงได้ด้วย นอกจากนี้คุณสมบัติของตัวยายังช่วยลดการเกิดสิวชนิดอื่นๆ ได้ด้วย

ไม่ว่าจะเป็นสิวอักเสบ (บทความแนะนำ : วิธีแก้สิวอักเสบ สิวอุดตัน รักษาสิวด้วยตัวเอง) และสิวอุดตัน

วิธีใช้ยา : ยา BP เป็นยาที่ใช้ทาก่อนล้างหน้า ไม่ว่าจะเห็นส่วนผสมของยาชนิดนี้ในผลิตภัณฑ์รักษาสิวผดยี่ห้อไหนก็ตาม

จะเป็นการรักษาที่ทาเอาไว้สักครู่ก่อนแล้วล้างออก ซึ่งจะทาทิ้งไว้ประมาณ 5-20 นาที วันละ 1-2 ครั้ง

ซึ่งในสาวๆ ที่มีผิวธรรมดาและผิวมัน ก็จะเกิดอาการระคายเคืองได้ แต่ไม่มากนัก ผิวจะแห้งมากขึ้นและไวต่อแสงแดดเหมือนตัวยาชนิดแรก

เพิ่มเติม : สาวๆ ที่ใช้ยา Benzoyl Peroxide แล้วเกิดอาการแพ้จนไม่สามารถใช้ได้ สามารถแก้ปัญหาด้วยการเลือกใช้ครีมรักษาสิวผด หรือแป้งบางชนิดที่เคลมสรรพคุณเอาไว้ว่าช่วยแก้สิวผดได้ โดยทั่วไปให้สังเกตว่าจะมีส่วนผสมของ Resorcinol ที่ช่วยลดอาการแพ้ลงไปได้

วิธีรักษาสิวผดด้วยยาสำหรับคนที่มีผิวไวต่อสารเคมีและผิวแห้ง

1.ยาที่มีส่วนผสมของ Selenium Sulfide

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของยาชนิดนี้จะมีสรรพคุณที่ไม่ได้ใช้สำหรับการรักษาสิวผดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

แต่ยังมีส่วนช่วยรักษาโรคผิวหนังในด้านอื่นๆ อีก การออกฤทธิ์ยังช่วยลดผดผื่นที่มีอาการคัน

ลดการอักเสบของผิวหนัง และยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียอันเป็นต้นเหตุของการเกิดสิว

จึงเหมาะสำหรับสาวๆ ที่มีผิวแพ้ง่ายเป็น ไม่ทำให้ผิวแห้งมากขึ้นกว่าเดิมด้วย

วิธีใช้ยา : ให้ทาผิวหน้าทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออก

ซึ่งตัวยาจะซึมเข้าไปละลายหัวสิวให้ยุบลง ใช้ทาวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น แก้ปัญหาสิวผดได้เป็นอย่างดี

2.ยาที่มีส่วนผสมจาก Zine PCA

ซึ่งเป็นชนิดหนึ่งของธาตุสังกะสี ที่ให้ประสิทธิภาพการรักษามากกว่า Zinc ธรรมดา

จะเหมาะอย่างยิ่งในกลุ่มสาวๆ ที่มีผิวแพ้ง่าย ไม่กระทบต่อสภาพผิวแห้ง

และมักจะเป็นตัวยาที่รักษาได้ดีในกลุ่มคนที่เกิดสิวผิดจากการแพเครื่องสำอางช่วยลดความมันบนใบหน้า และแก้ปัญหาไม่ให้สิวกลับมาเป็นซ้ำซากบ่อยๆ

วิธีใช้ยา : ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารชนิดนี้ นิยมใช้เป็นยาแต้มสิวผด

ที่ไม่จำเป็นต้องล้างออก ให้แต้มในพื้นที่ๆ เป็นสิว สามารถแต้มในช่วงเช้า และก่อนนอน

เพื่อให้ตัวยาทำงานได้ยาวนานเป็นพิเศษ ส่วนอาการระคายเคืองสามารถเกิดขึ้นได้บ้าง โดยเฉพาะในสาวๆ ที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย

วิธีรักษาสิวผด

Photo Credit : howtogetridofacnemarks.org

อย่างไรก็ตามการเลือกใช้ยาดังกล่าวข้างต้น ทางที่ดีเพื่อความปลอดภัยในการรักษาสิวผด

และได้ประสิทธิภาพสูงสุด ก็ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังที่มีความเชี่ยวชาญและเชื่อถือได้

พร้อมปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ก็จะช่วยให้สิวผดลดจำนวนลง ผิวหน้ากลับมาสวยใสและเรียบเนียนได้อีกครั้งแล้วล่ะค่ะ

[wpsm_titlebox title=”บทความแนะนำ” style=”3″]

[/wpsm_titlebox]