สิวผด หรือสิวเทียม หรือสิวหิน เป็นสิวที่มักจะเข้ามาสร้างความรบกวนในช่วงหน้าร้อน
ช่วงที่อากาศร้อนชื้นเหนียวเหนอะหนะตัว สิวผดก็จะปรากฏขึ้นมาอย่างชัดเจน
ในแต่ละคนความรุนแรงของสิวชนิดนี้จะแตกต่างกันออกไป แต่โดยส่วนมากจะพบได้ที่หน้าผากและโหนกแก้ม
เป็นลักษณะเหมือนผดเม็ดเล็กๆ เมื่อใช้มือลูบจะรู้สึกว่ามีความแข็ง สิวผดไม่ได้เป็นอันตรายร้ายแรงแต่อย่างใด
แต่คนที่ต้องเผชิญกับสิวชนิดนี้แบบเป็นๆ หายๆ มันกลายเป็นตัวสร้างความไม่มั่นใจให้เกิดขึ้น
เราเลยมีเคล็ดลับวิธีรักษาสิวผดดีๆ ที่จะช่วยรักษาและป้องกันการเกิดสิวผดที่เกิดขึ้นแบบซ้ำๆซากๆ ด้วยตัวเอง
โดยเน้นที่การป้องกัน ลดสิวผดที่มีอยู่ในยุบลงก่อน ด้วยการทำความเข้าใจกับสิวชนิดนี้ (ทำความรู้จักกับสิวผดได้ที่นี่)
เพื่อจะได้แก้สิวผดได้อย่างถูกวิธี ลดปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้น ให้ใบหน้าของสาวๆ กลับมาเรียบเนียนไร้ริ้วรอยได้อย่างที่ต้องการอีกครั้งนั่นเองค่ะ
1.หลีกเลี่ยงแสงแดดเอาไว้ก่อน
นี่คือปัจจัยหลักๆ ที่เป็นตัวการทำให้เกิดสิวผดได้ง่ายมาก เพราะความร้อนและแสงแดดที่กระทบกับผิวหน้าโดยตรง
จนเกิดเป็นความมัน สิ่งสกปรกในอากาศเข้าเกาะติดกับผิวได้ง่าย ทั้งความร้อน ความชื้นจากเหงื่อและสิ่งสกปรก
เมื่อรวมตัวกันเข้าแล้ว ก็จะกลายเป็นตัวการทำให้เกิดสิวผดขึ้น ดังนั้นหากสาวๆ กำลังอยู่ในช่วงที่มีอาการ
พยายามหลีกเลี่ยงตัวเองจากแสงแดดให้มากที่สุด หากจำเป็นก็ต้อเลือกสวมหมวกบังแดด
ทาครีมกันแดดที่ผิวหน้า แล้วรีบหาที่ร่มหลบแดดเอาไว้ก่อน อย่างไรก็ตามอย่าลืมเข้าใจด้วยว่าในขณะเป็นสิวผด
ไม่ใช่ว่าจะเลือกใช้ครีมกันแดดแบบไหนก็ได้ แต่ให้เน้นเป็นเนื้อบางเบา ชนิดน้ำ ปราศจากแอลกอฮอล์ โดยมีค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป ซึ่งจะมีคุณสมบัติในการปกป้องผิวได้ดีที่สุด
2.ล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิธรรมดาก็เพียงพอแล้ว
บางคนมีเครื่องอาบน้ำอุ่นที่บ้าน เลยใช้น้ำอุ่นในการล้างหน้าไปด้วยเลย
โดยหารู้ไม่ว่าน้ำอุ่นจะเป็นตัวการทำให้ผิวหน้าเกิดอาการระคายเคือง เปิดรูขุมขนให้กว้างมากขึ้น
ในขณะที่เป็นสิวผดหรือคนที่เป็นสิวชนิดนี้แบบเป็นๆ หายๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำอุ่นล้างหน้าอย่างเด็ดขาด
เปลี่ยนความเข้าใจผิดของตัวเองเสียใหม่ เพราะน้ำอุณหภูมิที่ดีที่สุดสำหรับการล้างหน้าคือ “น้ำอุณหภูมิห้อง”
ธรรมดา แล้วล้างด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ให้ความสะอาด อ่อนโยน และกำจัดสิ่งสกปรกในรูขุมขนออกไปให้ได้มากที่สุด
3.แชมพูและครีมนวด อย่าได้มองข้าม
เชื่อหรือไม่ว่าผลิตภัณฑ์สระผมก็เป็นหนึ่งในตัวการที่ทำให้ผิวหน้าของเราเกิดสิวผดขึ้นมาได้
ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับการสระและหมักผม เมื่อสัมผัสโดนผิวหน้าบ่อยๆ ซึ่งสิวผดที่หน้าผากจะเป็นตัวปัญหาที่พบได้มาก
เนื่องจากผิวหน้าสัมผัสกับสารเคมีที่ไม่เหมาะสม จนเกิดอาการระคายเคือง การแก้ปัญหาที่ดีคือหลังจากสระผมด้วยแชมพูแล้ว
ควรล้างผมด้วยน้ำให้แชมพูถูกชำระล้างออกไปทางด้านหลังศีรษะให้มากที่สุด
ส่วนครีมนวดให้ล้างทำความสะอาดให้เกลี้ยงเกลา โดยเฉพาะตามโคนผมที่อยู่ใกล้กับผิวหน้าและกรอบหน้า
4.เป็นสิวผดห้ามแกะเด็ดขาด
การรักษาสิวผดที่เป็นอยู่ให้ค่อยๆ กลับมาหายเป็นปกติแบบไม่มีแผลเป็น คือจะต้องหลีกเลี่ยงการแกะ กด
หรือบีบ ยิ่งเป็นสิวที่ไม่มีหัว แต่เราพยายามแกะมันให้หัวเปิดออก จะยิ่งไปกระตุ้นการแพร่กระจายของเชื้อโรค
อาการหายช้า สามารถลุกลามกลายเป็นสิวอักเสบตามมาได้ การรักษาที่ดีจึงควรใช้วิธีอื่น
ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยารักษาสิวผด หรือการใช้วิธีรักษาสิวผดแบบธรรมชาติก็ได้ ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของแต่ละคน
5.ผมหน้าม้า ตัวการสร้างปัญหาสิวผด
เส้นผมของเรามักจะมีต่อน้ำมันที่คอยช่วยทำให้ผมมีน้ำหนัก และเคลือบอยู่บนเส้นผม
ในแต่ละวันเส้นผมของเราจึงสัมผัสกับสิ่งสกปรกและเชื้อโรคและเกาะติดมาด้วย
สาวๆ ที่ชอบตัดผมหน้าม้า จะต้องดูแลเส้นผมให้สะอาดอยู่เสมอ โดยเฉพาะในส่วนที่ปรกหน้าผาก
เพราะไม่เพียงแค่เชื้อโรคจากเส้นผมจะถูกส่งทอดต่อมายังผิวจนเกิดอาการระคายเคืองเท่านั้น
แต่มันยังเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดความอับชื้นด้านใน จนก่อให้เกิดสิวผดตามมา
ดังนั้นสาวๆ ที่มีปัญหาสิวชนิดนี้จะต้องหลีกเลี่ยงการตัดผมหน้าม้า
และอย่าให้เส้นผมมาสัมผัสกับผิวหน้าให้มากนัก จะได้ลดสิวผิดให้น้อยลงได้อีกทางหนึ่ง
6.รักษาสิวผดด้วยมะเขือเทศ
ใครที่ไม่อยากใช้สารเคมีในระยะแรกๆ ลองรักษาสิวผดด้วยวิธีง่ายๆ จากธรรมชาติที่ให้ผลลัพธ์ดีเยี่ยมไม่แพ้กัน
เนื่องจากในมะเขือเทศ มีสารที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียอันเป็นตัวการทำให้เกิดสิวผดขึ้นมา
ด้วยการนำเอามะเขือเทศสดมาล้างทำความสะอาด แล้วฝานเป็นแว่นบางๆ วางเอาไว้ให้ทั่วผิวหน้าเหมือนการมาร์ค
โดยเน้นส่วนที่มีปัญหาสิวผดให้มากที่สุด วางทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที แล้วค่อยหยิบออก
ต่อด้วยการล้างทำความสะอาดผิวหน้าตามปกติ แนะนำควรทำในช่วงเวลาก่อนนอน
เพราะผิวจะได้รับการพักผ่อนในช่วงกลางคืน อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ไม่เพียงแค่ลดสิวผิดเท่านั้น แต่ยังช่วยทำให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสมากขึ้นด้วย
Photo Credit : plus.google.com
สาวๆ ที่มีปัญหาสิวผดไม่มากนัก สามารถใช้วิธีการรักษาดังกล่าวข้างต้นได้ ซึ่งจะช่วยให้สิวค่อยๆ ลดลงอย่างเห็นได้ชัดในไม่ช้า
โดยสังเกตว่าการปรับเปลี่ยนนิสัยตัวเองที่เป็นตัวการทำร้ายผิวโดยไม่รู้ตัวคือสาเหตุหลัก
ส่วนที่เหลือคือการรักษาให้ถูกวิธีไปพร้อมๆ กัน ก็จะช่วยลดสิวผด ให้ผิวหน้ากลับมาเนียนใสได้อย่างแน่นอนค่ะ
บทความแนะนำสำหรับแก้ปัญหาสิวผด