กลิ่นปาก เกิดจากสาเหตุอะไร? แก้ไขได้หรือไม่?

ปากเหม็น กลิ่นปาก เกิดจากสาเหตุอะไร?

กลิ่นปาก สาเหตุหลักที่ทำให้ หลายๆ คนวิตกกังวล จนถึงขั้นขาดความมั่นใจ พอจะพูดคุยปรึกษากับใคร ต้องยืนรักษาระยะห่าง จนถึงขั้นไม่กล้าพูดคุยทักทายใครเลย

จนทำให้กลายเป็นปัญหา ในการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะที่บ้าน หรือที่ทำงาน การคบหาเพื่อน หรือ หาคนรักเลยทีเดียว

แล้วทำใมเราถึงมี กลิ่นปาก บางคนมีไม่ค่อยได้กลิ่นปาก หรือบางคนไม่มีกลิ่นปากเลยก็มี

สาเหตุของกลิ่นปาก เกิดจากอะไร?

1.เกิดจากมีเศษอาหาร หรือสิ่งที่เรารับประทานเข้าไป แล้วทำความสะอาดไม่หมด ดูแลไม่ทั่วทั้งช่องปาก ทำให้มีเศษอาหารหลงเหลืออยู่ในช่องปาก

ไม่ว่าจะตาม ซอกฟัน กระพุ้งแก้ม หรือลิ้นของเรา ทำให้เกิดเชื้อแบคทีเรียสะสม ที่เป็นสาเหตุของกลิ่นปาก ที่พบได้บ่อยที่สุด

สามารถดูแลง่ายๆ คือ ให้ใช้ไหมขัดฟัน ขัดบริเวณที่เราไม่สามารถใช้แปลงสีฟันได้ เช่น ตามซอกฟัน ร่องระหว่างฟัน และใช้น้ำยาบ้วนปากในปริมาณที่พอดีกับช่องปาก เพื่อดูแลรักษาอย่างล้ำลึกยิ่งขึ้น

2.โรคทางช่องปากและฟัน เช่น ฟันผุ ฟันมีคราบหินปูน มีแผลบริเวณกระพุ้งแก้ม หรือเป็นโรคเหงือก เป็นต้น เศษอาหารจะเข้าไปสะสมในบริเวณซอกฟันผุ หรือสะสมบริเวณบาดแผลในช่องปาก

ถึงแม้เราจะทำความสะอาดดูแลรักษาฟันดียังไง ก็ยังคงเหลือเศษอาหารตกค้างอยู่ เมื่อมีเศษอาหารสะสมเข้าอีกเรื่อยๆ ก็จะเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย ทำให้มีกลิ่นปากได้

แม้ว่า เราจะดูแลช่องปากอย่างดีเท่าไหร่ แต่ก็ยังคงมีกลิ่นปาก ควรไปหาทันตแพทย์ เพื่อทำการรักษาช่องปากและฟันอย่างถูกวิธี จะดีกว่า

3.ใส่ฟันปลอม หรือทำการจัดฟัน เศษอาหารจะอุดในบริเวณที่ไม่คุ้นเคย จนเราเผลอหรือลืมทำความสะอาดบริเวณนั้น และทำความสะอาจไม่ถูกวิธี

จนทำให้เกิดกลิ่นปาก ตามเศษที่ตกค้างในบริเวณนั้น ตัวอย่างเช่น ตามซอกเหล็กดัดฟัน อาจแปรงฟันเหมือนปกติ ที่ยังไม่ใส่เหล็กดัดฟัน ลืมไปว่า ต้องมีวิธีแปรงฟันและดูแลที่ถูกวิธี

ควรศึกษาวิธีการทำความสะอาดฟัน จากแพทย์ ผู้ที่เราเข้ารักษาให้ละเอียด และลงมือทำความสะอาดจนมั่นใจ

4.น้ำลาย ก็เป็นอีกสาเหตุของกลิ่นปากอีกเช่นกัน ที่เรามองข้าม ถ้าเรามีน้ำลายน้อย หรือลิ้นแห้ง จะล้างเศษอาหารบนลิ้น ระหว่างรับประทานอาหาร หรือหลังรับประทานอาหารได้ไม่สะอาด

จนเกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย และยิ่งเรากินอาหารกลิ่นแรงๆ จะได้กลิ่นปากอย่างชัดเจน ควรแปรงฟันหลังรับประทานอาหารทุกมื้อ และควรดื่มน้ำวันละ 8 แก้วต่อวันเพื่อให้มีน้ำลาย และทำให้ร่างกายสดชื่น

5.โรคทางระบบหายใจ เช่น คออักเสบ โรคหลอดลมอักเสบ โรคปอดเรื้อรัง รวมถึงมะเร็งปอดและลำไส้ เป็นต้น สาเหตุของโรค ตัวอย่างเช่น …

การสูบบุหรี่ ซึ่งจะทำให้ระบบทางเดินหายใจของเรา สะสมสารก่อมะเร็ง ระบบทางเดินหายใจ ก็จะสูญเสียอย่างหนักในการดูแลสิ่งแปลกปลอม

จนทำให้เกิดกลิ่นปากที่เหม็นอย่างมาก และจะสะสมจนกายเป็นโรคมะเร็งต่างๆ ทางระบบลมหายใจ ควรปรึกษาแพทย์ และรักษาให้หายขาด

เพราะถ้าไม่รีบรักษา นอกจาก จะมีกลิ่นปากแล้วจะมีโรคต่างๆ ที่ทำร้ายร่างกายตามมาอีกมากมาย จนยากแก่การจะรักษาได้ และค่าใช้จ่ายก็จะเยอะตามไปด้วย

วิธีรักษากลิ่นปากอย่างถูกวิธี

เลือดออกตามไรฟัน ลักปิดลักเปิด

[wpsm_list type=”bullet”]

  • แปรงฟันให้ทั่วทุกซีก และบริเวณลิ้น และใช้ไหมขัดฟันบริเวณที่เราไม่สามารถ แปรงฟันได้ และสุดท้ายตามด้วยน้ำยาบ้วนปากในปริมาณที่พอดีกับช่องปาก
  • หลังเราแปรงฟันเสร็จ ควรล้างแปรงสีฟันให้สะอาด และควรเปลี่ยน แปรงสีฟันเป็นประจำ 3 เดือน/ครั้ง เพราะแปรงสีฟันจะสะสมเชื้อแบคทีเรีย ที่เรามองไม่เห็น
  • ดื่มน้ำอย่างน้อย วันละ 8 แก้วต่อวัน
  • เมื่อตื่นเช้า ควรรีบบ้วนปากก่อน ทำกิจกรรมต่างๆ เพราะตอนเราหลับน้ำลายจะขับสารที่มีกลิ่นปากออกมา
  • จิบน้ำตลอดเวลา จะทำให้ปากไม่แห้ง
  • ฟันฟุ มีคราบหินปูน ฟันโยก ฟันคุด รีปไปให้ทันตแพทย์ รักษาฟันทันที่ ที่รู้ตัวเพราะจะได้มีการรักษาที่ถูกต้อง และไม่ลุกลามจนรักษายากในตอนหลัง
  • เลิกสูบบุหรี่ เพราะบุหรี่ทำให้มีกลิ่นปากรุนแรง และเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ
  • กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และควรลดปริมาณการกินเนื้อสัตว์ให้พอดี กับ ผักและผลไม้
  • กิน กาแฟ หรือ น้ำอัดลมต่างๆให้น้อยที่สุด
  • พกสเปรย์ระงับกลิ่นปากไว้ตลอดเวลาให้เป็นนิสัย เมื่อเราจะปรึกษาพูดคุยกับคนอื่น ให้ใช้สเปรย์ระงับกลิ่นปากกับตัวเอ งก่อนเข้าไปพูดคุยด้วย เพราะไม่ว่าเราจะมีกลิ่นปากหรือไม่ เราจะมั่นใจมากขึ้น ในการพูดคุยปรึกษางานต่างๆ ในการเข้าหาคนอื่น

[/wpsm_list]

ถ้ามีกลิ่นปากรุนแรง และไม่ทราบสาเหตุ ควรรีบไปปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุด เพราะอาจเป็นโรคอันตรายได้

เพราะกลิ่นปาก ก็เป็นตัวช่วยหนึ่ง ของการตรวจเช็กสภาพว่า ร่างกายของเรานั้นว่า มีอาการโรคภัยไข้เจ็บอะไรบ้างเช่นกัน