กลิ่นปาก และกลิ่นลมหายใจที่ไม่พึงประสงค์ เป็นสิ่งที่มักสร้างความกังวลใจให้กับสาวๆ ไม่มากก็น้อย บางคนที่รู้ตัว แม้พยายามจะกำจัดมันออกไปก็ตาม
ด้วยการดูแลรักษาความสะอาดช่องปากเป็นอย่างดี แต่กลิ่นเหล่านั้นก็ยังอยู่ ส่งผลตามมาด้วย อาการปากเหม็นเรื้อรัง
จนเกิดความไม่มั่นใจ ไม่ค่อยกล้าพูดกับใครแบบใกล้ๆ ยิ่งคนที่ไม่รู้ตัวว่ามีกลิ่นด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เสียบุคลิกได้แบบไม่รู้ตัว เพราะไม่ทันระวัง
ทำให้คนรอบข้างเกิดความรู้สึกไม่อยากเข้าใกล้ ไม่กล้าบอกออกมาตรงๆ แบบนี้เห็นทีสาวๆ จะต้องหันมาสังเกตตัวเองกันสักหน่อย
เพราะกลิ่นปากและลมหายใจ เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ แต่ช่วยให้มันหมดไปได้ แค่รู้จักการดูแลตัวเองด้วย วิธีดับกลิ่นปากและลมหายใจ
ปัญหากลิ่นปาก และลมหายใจมีกลิ่นเหม็นจากแบคทีเรีย
กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้นภายในช่องปากและลมหายใจ มีความเชื่อมโยงกันมากพอสมควร ลมหายใจที่พ่นออกมาแล้วมีกลิ่น
ถูกเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า bad breath, fetor oris or fetor ex ore หรือ halitosis ซึ่งมีความหมายว่า กลิ่นเหม็นที่ถูกส่งออกมาจากการหายใจ
ปัญหาเหล่านี้ ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นในยุคของเราเท่านั้น แต่มันถือกำเนิดขึ้นมานานหายพันปี มีหลักฐานระบุเอาไว้ตามหนังสือโบราณมากมาย
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครระบุได้แน่ชัดถึงต้นตอของการเกิดปัญหานี้ นั่นหมายถึงว่า มันมีสาเหตุเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย
เนื่องจากช่ องปากของเราต้องใช้งานสำหรับการบดเคี้ยวอาหารอยู่ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่ตื่นนอน จนถึงเวลาเข้านอน
เชื้อแบคทีเรียภายในช่องปาก จึงสามารถที่จะเจริญเติบโตได้มากพอ ที่จะปล่อยกลิ่นเหม็น อันเป็นลักษณะเฉพาะของมัน ออกมาได้ หากไม่ได้พยายามดูแลรักษาในระหว่างวัน
ปัจจัยที่น่าจะเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ของลมหายใจเหม็นหรือปากเหม็น คือ สภาพความสะอาด ภายในช่องปากของเราเอง
การดูแลอย่างไม่ถูกวิธี ส่งผลให้เกิด กลิ่นปากเรื้อรัง มีเศษอาหารติดอยู่ตามซอกลืบ อีกทั้งยังตกค้างอยู่ภายในช่องปาก
ไม่ว่าจะเป็นการแปรงฟันไม่สะอาด แปรงไม่นานมากพอ ส่งผลให้แบคทีเรียยังคงสะสมตัวอยู่ภายในช่องปาก โดยที่เราไม่สามารถมองเห็น
ตามซอกฟันต่างๆ ยังเกิดเศษอาหารเข้าไปสะสม การกำจัดเพียงแค่บ้วนน้ำ หรือแปรงแบบลวกๆ ไม่ช่วยให้เศษอาหารเหล่านี้หลุดออกไปได้
หากปล่อยทิ้งเอาไว้นาน จะทำให้เกิดโรคเหงือกอักเสบ ฟันผุ หินปูน เหงือกล้นออกมาจนเศษอาหารเข้าไปอุดอยู่ภายใน
เหล่านี้กลายเป็นต้นตอของการมีกลิ่นปาก และลมหายใจเหม็น นอกจากนี้ หากสาวๆ สังเกตให้ดี บริเวณลิ้นที่เป็นฝ้าสีขาว ไม่เป็นสีชมพูอ่อน
นี่ก็คืออีกหนึ่งต้นตอ อันเนื่องมาจาก การสะสมของเศษอาหาร เกิดการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียบนลิ้น
มักถูกปล่อยปละละเลยการทำความสะอาดในขณะแปรงฟัน รวมไปถึง การเกิดแผลในช่องปาก เช่น ปากนกกระจอก และแผลร้อนในตามเนื้อเยื่อต่างๆ เป็นต้น
ต้นตอปัญหากลิ่นปากและลมหายใจมีกลิ่นเหม็นจากสาเหตุอื่น
ไม่เพียงแค่สภาพช่องปากที่ไม่สะอาด จากสาเหตุเบื้องต้นดังกล่าวอันเป็นต้นตอ ทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของเชื้อแบคทีเรียจำนวนมาก
ตามมาด้วยสุขลักษณะแย่ๆ ภายในช่องปาก แต่ยังมีสาเหตุที่มาจากการกินอาหารบางชนิดที่มีกลิ่นแรง เช่น หัวหอม กระเทียม สะตอ เป็นต้น
บางคนมีปัญหาเกี่ยวข้องกับระบบย่อยอาหารภายใน การอักเสบของอวัยวะบางชนิด เช่น โพรงจมูกอักเสบ หนองภายในลำคอ เสมหะ ต่อมทอนซิลอักเสบ และไซนัส เป็นต้น
หากสาวๆ สังเกตให้ดี แม้จะแปรงฟัน ดูแลช่องปากอย่างสะอาดหมดจรด ไร้รอยผุของฟัน และไม่มีปัญหาเหงือกอักเสบใดๆ เกิดขึ้น
อาจจะมาจากสาเหตุเหล่านี้ กลายเป็น กลิ่นปากบอกโรค ที่ควรให้ความใส่ใจ และสังเกตอาการที่ผิดปกติของตัวเอง เพื่อจะได้ทำการรักษาอย่างถูกวิธี
วิธีรักษาและป้องกันกลิ่นเหม็นภายในช่องปากและลมหายใจ
การแก้ไขปัญหากลิ่นปาก และลมหายใจเหม็น สามารถทำได้ไม่ยากในเบื้องต้น
สำหรับผู้ที่มีปัญหามาจากสภาพของช่องปาก ที่สกปรกที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากโรคภายใน สามารถรักษาให้หายด้วยตัวเอง
เริ่มจากการดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ อย่างน้อยวันละ 7-8 แก้ว ซึ่งจะช่วยให้ภายในช่องปากไม่แห้ง ลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย หลังจากกินอาหารหรือเครื่องดื่มอื่นๆ
นอกจากน้ำเปล่า ควรกลั้วปากด้วยน้ำสะอาดอย่างน้อย 5-10 นาที เพื่อกำจัดเอาเศษอาหารและชะล้างแบคทีเรียให้น้อยลง
ในระหว่างวันไ ม่ควรให้น้ำลายแห้ง สามารถกระตุ้นการไหลเวียนของน้ำลายได้ ด้วยการใช้ปลายลิ้นดุนบนเพดานปาก เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำลาย
ที่สำคัญคือการแปรงฟันอย่างถูกวิธี หลังทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีรสกัดกร่อนฟัน ควรรอเวลาประมาณ 30 นาที
เพื่อให้สารเคลือบฟันกลับเข้าสู่ภาวะสมดุล ก่อนทำการแปรงฟันและลิ้นให้ทั่วทุกซอก เมื่อเสร็จแล้ว ควรใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำร่วมด้วย
ซึ่งถือว่าเป็นวิธีดับกลิ่นปากแบบไม่ยุ่งยาก แถมช่วยรักษาสุขภาพภายในช่องปากของเราให้แข็งแรงไปอีกนานเลยทีเดียว
Photo Credti : blog.dentalplans.com
อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถหาต้นตอของกลิ่นปาก และกลิ่นลมหายใจได้แน่ชัด
บางคนอาจมีกลิ่นรุนแรงมากจนกระทบต่อการดำเนินชีวิต ทางที่ดีควรเข้ารับการตรวจเช็คสุขภาพภายในช่องปาก
และสุขภาพร่างกาย ที่อาจเป็นต้นตอโดยไม่รู้ตัว จะช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด สร้างความมั่นใจให้สาวๆ กลับมาได้อีกครั้ง