เมื่อร่างกายเข้าสู่ ช่วงวัย 40 ปี ขึ้นไป หลายคนย่อมหันมาเริ่มใส่ใจดูแลตนเองมากขึ้น เพราะ สุขภาพวัย 40
เป็นช่วงวัยที่ต้องได้รับการดูแลใส่ใจก่อนที่ร่างกายจะเสื่อมสภาพไปมากกว่านี้ ซึ่งวัยดังกล่าวไม่เพียงความร่วงโรยของร่างกายจะคืบคลานเข้ามาแต่เพียงเท่านั้น
หากแต่ยังเป็นวัยที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคง่ายอีกด้วย เราไปดูกันนะคะว่าจะทำอย่างไรเพื่อเป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิตของคนอายุ 40 ปีขึ้นไปให้แข็งแรง ก้าวสู่วัยชราได้อย่างมีคุณภาพ
การเลือกรับประทานอาหาร
การรับประทานอาหารเป็นปัจจัยหลัก เพราะสามารถที่จะช่วยสร้างสุขภาพที่ดีได้ โดยพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่จะช่วยในการเพิ่มคุณภาพชีวิตได้ มีดังนี้
การดื่มนม : การดื่มนม สำหรับผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ควรที่จะเลือกดื่มนมเป็นนมเต็มมันเนย เพื่อเป็นการให้ร่างกายได้รับสารอาหารได้อย่างครบถ้วน
โดยเฉพาะผู้ที่ออกกำลังกายยิ่งควรดื่มนมเป็นประจำ เพื่อเป็นการสร้างแหล่งแคลเซียมให้กับร่างกาย โดยการเลือกดื่มนมสำหรับผู้สูงอายุ ควรจะต้องแบ่งไปตามสุขภาพของแต่ละคน เช่น
- ผู้ที่เป็นโรคอ้วน ควรที่จะต้องดื่มนมพร่องมันเนย หรือนมที่มีไขมันน้อย เพื่อเป็นการลดการเติมไขมันเข้าไปในร่างกาย เพื่อป้องกันไม่ให้เพิ่มอาการของโรคมากขึ้น
- ผู้ที่แพ้นมวัว ควรที่จะต้องเลือกดื่มนมถั่วเหลือง เพื่อเป็นการให้ร่างกายได้รับโปรตีนจากถั่วแทนโปรตีนจากนมวัว
การทานอาหารเสริม : ถึงแม้ว่าจะมีอายุ 40 ปีขึ้นไป ร่างกายก็ย่อมมีความต้องการที่จะได้รับสารอาหารต่างๆ
ซึ่งหากเลือกรับประทานอาหารเสริมก็ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับอาหารเสริมมากเกินไป เพราะอาหารเสริมสามารถส่งผลเสียต่อร่างกายได้
โดยเฉพาะการทำให้เกิดโรคมะเร็งจากการรับประทานอาหารเสริม หรืออาจจะทำให้เกิดความเสียหายกับระบบอวัยวะภายในร่างกาย
การทานของว่าง : สำหรับการทานของว่างก็ยังสามารถที่จะรับประทานได้ตามปกติ แต่ควรที่จะกำหนดพลังงานของของว่าง
โดยไม่ควรที่จะเกิน 100 แคลอรี่ ควรหลีกเลี่ยงขนมขบเคี้ยวหรือขนมถุง ให้เปลี่ยนของว่างเป็นผักสดหรือผลไม้ที่สามารถดิปกับชีสหรือเนยไขมันต่ำ
หรืออาจจะเป็นคุกกี้ธัญพืช นอกจากนี้ การทานของว่างก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงทานในขณะดูทีวี เพราะจะทำให้รับประทานเพลินจนลืมกำหนดปริมาณที่ร่างกายต้องการนั่นเอง
การเติมโปรไบโอติก : ร่างกายคนเราล้วนต้องการได้รับโปรไบโอติก ซึ่งสามารถหาโปรไบโอติกได้จากแหล่งอาหารที่หลากหลาย
อย่างเช่น การรับประทานโยเกิร์ต แต่ควรจะต้องเป็นโยเกิร์ตรสธรรมชาติ โดยโปรไบโอติกจะช่วยในการดูแลผิวและดูแลสุขภาพร่างกาย ซึ่งดีต่อระบบการทำงานของลำไส้มากทีเดียว
การดื่มกาแฟ : หลายคนติดการดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ ซึ่งแม้ว่าจะอายุมาก แต่ก็ยังสามารถดื่มกาแฟได้ตามปกติ
หรืออาจจะเปลี่ยนจากกาแฟเป็นชา โดยควรที่จะต้องมีการควบคุมปริมาณคาเฟอีน เพื่อไม่ให้มากเกินความต้องการของร่างกาย
การดูแลสุขภาพจิต
การดูแลสุขภาพจิตเป็นอีกปัจจัยที่สามารถส่งผลต่อคุณภาพชีวิตได้ เพราะเนื่องจากว่าสุขภาพจิตถ้าหากว่าไม่ดีก็จะส่งผลทำให้ร่างกายอ่อนแอ
แต่ถ้าหากเป็นคนที่มีสุขภาพจิตดีก็จะส่งผลทำให้ร่างกายแข็งแรงและมีความสุขกับการใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น โดยมีวิธีดูแลสุขภาพจิตดังนี้
ผ่อนคลาย : เพื่อเป็นการป้องกันสุขภาพจิตเสื่อมการที่ให้จิตใจได้รู้สึกผ่อนคลาย วิธีแก้ง่ายๆ คือ การนั่งสมาธิ
หรือการออกไปทำกิจกรรมที่ทำให้รู้สึกสบายใจและมีความสุขมากยิ่งขึ้น อย่างเช่นการออกไปซื้อของ การอ่านหนังสือ
เปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต : สำหรับใครที่ชีวิตดูแล้วไม่ค่อยมีระเบียบ แนะนำว่าการเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตสามารถช่วยได้
โดยอาจจะทำทุกอย่างให้เป็นเวลาตามที่มีการกำหนด อย่างเช่น กินข้าวให้ตรงเวลา และการเข้านอนให้ตรงเวลา
การเข้านอน : การเข้านอนไม่ควรที่จะเข้านอนหลัง 3 ทุ่ม แต่ทั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยให้ร่างกายสามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่
ก็ควรที่จะงดอาหารก่อนที่จะนอนครึ่งชั่วโมง รวมถึงสำหรับเครื่องดื่มเองก็ควรที่จะมีการจำกัด และเลือกให้เหมาะสมเพื่อเป็นการไม่สร้างพลังงานเพิ่มเติมให้กับร่างกาย
จำกัดการเล่นโซเชียล : เพื่อให้สายตาและสมองได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ การหลีกเลี่ยงการเล่นโทรศัพท์หรือการมองหน้าจอคอมพิวเตอร์
เนื่องจากร่างกายจะได้ปล่อยสารเมลาโทนินออกมาในระยะเวลากลางคืน ซึ่งก็จะช่วยให้ร่างกายสามารถนอนหลับพักผ่อนได้อย่างเต็มที่
การคบเพื่อน : เพื่อเป็นการช่วยในการพัฒนาสุขภาพจิตสำหรับบางรายอาจจะไม่เหมาะสำหรับการอยู่คนเดียว การออกไปพบปะเพื่อน
อย่างเช่น การไปกินข้าว การไปท่องเที่ยว จะเป็นวิธีในการป้องกันไม่ให้เกิดภาวะซึมเศร้าสำหรับผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป
การดูแลสุขภาพร่างกาย
สำหรับการดูแลสุขภาพโดยทั่วไปนั้น เป็นเรื่องปกติที่จะต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจ
และเพื่อเป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิตทำให้สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น คุณสามารถดูแลสุขภาพวัย 40 ได้ดังนี้
ไม่สูบบุหรี่ : การไม่สูบบุหรี่เป็นการลดความเสี่ยงในการทำลายอวัยวะอื่นๆ ลงได้ ซึ่งการสูบบุหรี่ยังสามารถทำลายผิวได้อีกด้วย
หากเลิกพฤติกรรมนี้ได้ รับรองว่านอกจากสุขภาพจะแข็งแรงแล้ว ยังส่งผลทำให้ผิวพรรณแลดูอ่อนเยาว์ ไม่เหี่ยวแห้งและหมองคล้ำง่ายแน่นอน
การแปรงฟัน : การแปรงฟันเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สามารถส่งผลต่อสุขภาพได้โดยตรง โดยการแปรงฟันสามารถที่จะช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย และยังช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเหงือกได้อีกด้วย
การเดิน : การเดินเป็นการออกกำลังกายรูปแบบหนึ่งที่สามารถทำได้ทุกที่ โดยควรที่จะต้องใช้รูปแบบการเดินเร็วเป็นตัวช่วย
ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลา 150 นาทีต่อสัปดาห์ หรือจะเดินเร็วสลับกับการเดินช้าบ้างก็ไม่ว่ากัน
การออกกำลังกายแบบเริ่มต้น : สำหรับการออกกำลังกายแบบเริ่มต้นก็อาจจะเหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา หรืออาจจะยังไม่พร้อมในการทำอะไรหนักๆ
เพราะฉะนั้น แนะนำว่าการออกกำลังกายด้วยการเล่นโยคะ ถือเป็นทางเลือกที่ดีในการปรับปรุงบุคลิกภาพ และส่งเสริมสุขภาพที่ดีได้
การยกเวท : การยกเวทเป็นวิธีที่จะช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ทำให้กล้ามเนื้อกระชับและยังช่วยในการเผาผลาญได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
สาเหตุเป็นเพราะกล้ามเนื้อภายในร่างกายสามารถที่จะสลายได้อยู่ตลอดเวลา แต่การยกเวทควรที่จะต้องมีการจัดตารางเพื่อเป็นการป้องกันการบาดเจ็บ
ซึ่งการจัดตารางเพื่อป้องกันการบาดเจ็บนั้น อาจจะเลือกเล่นเวททุกส่วนในทุกๆ วัน แต่จะต้องเริ่มจากท่าเบาๆ ไปก่อน
จนกระทั่งถึงท่าหนักๆ และทำตามจำนวนครั้งที่กำหนดอย่างเหมาะสม เพราะหากเล่นอย่างหนักหรือออกท่าหนักๆ หักโหมในครั้งแรก
กล้ามเนื้อที่ยังไม่เคยชิน อาจจะก่อให้เกิดการบาดเจ็บตามมาได้นั่นเอง
การตรวจสุขภาพ : สำหรับการดูแลสุขภาพวัย 40 ปีขึ้นไป การตรวจสุขภาพสามารถที่จะช่วยป้องกันความเสี่ยงในการเกิดโรค
และยังได้รับคำแนะนำในการดูแลตัวเองได้อย่างเหมาะสม โดยคุณที่จะต้องตรวจสุขภาพทุกๆ 1 ปี หรือตามแต่แพทย์กำหนดของแต่ละราย
Credit : health.haijai.com
วิธีทั้งหมดที่กล่าวมา ล้วนแล้วแต่เป็นเทคนิค ดูแลสุขภาพวัย 40 ปีขึ้นไป โดยสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตให้มากยิ่งขึ้นได้
เป็นการส่งเสริมการมีสุขภาพที่แข็งแรงตามวัย ซึ่งเมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไปแล้ว ความเสื่อมสภาพของร่างกายเริ่มมาเยือนหลายด้านด้วยกัน
แต่หากลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ รับรองจะช่วยให้สุขภาพดี ห่างไกลจากความเจ็บป่วยมากขึ้นแน่นอน