อีกหนึ่ง วิธีลดความอ้วน ที่มั่นใจว่าสาวๆ ทั้งหลายต้องคิดหนักแน่ๆ กับวิธีแก้การกินจุกจิก กินจุกจิบ ไม่ให้อ้วน สาวๆ ส่วนมากปากก็บอกว่า จะลดวามอ้วน จะลดน้ำหนัก
แต่มือก็ยังไม่วายหาของกินอยู่ร่ำไป และโดยเฉพาะคนที่อยากลดความอ้วน ไม่รู้ทำไมมักจะเป็นประเภทที่แบบว่า
กินจุกจิก กินจุกจิบ แล้วอย่างนี้ จะลดความอ้วนได้สมใจอย่างไรหล่ะค่ะ
วันนี้ เราได้นำวิธีแก้ มาฝากกันค่ะ สำหรับสาวๆ ที่รู้ตัวว่าคุณเป็นคนที่ กินจุกจิก กินจุกจิบ แล้วเลิกกินไม่ได้ วันนี้คุณไม่ควรพลาดเคล็ดลับดีๆ ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้นะค่ะ
รับรองได้เลยว่า คุณจะเปลี่ยนตัวเอง และสามารถมีหุ่นที่สวยกระชับ สมใจแน่นอนค่ะ
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร การออกกำลังกาย ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญอยู่ดี ถ้าได้ลองทำควบคู่กับวิธีที่เรานำมาแนะนำ
รับรองได้เลยว่า คุณจะมีหุ่นสวยสมใจ แถมยังมีสุขภาพที่ดีแถมมาด้วยแน่นอนค่ะ
วิธีการแก้การกินจุกจิก ให้ไม่อ้วน ทำไงดี
1. กินเล็กกินน้อย
วิธีที่ทำให้คุณกินไม่จุ ในช่วงที่อาหารเหลือเฟือนี้ ก็คือ การเริ่มต้นกินอาหารปริมาณน้อยๆ ก่อน แล้วรอสัก 20 นาทีก่อนจะคิดเติม
เพราะกว่าร่างกายจะสื่อกับสมองว่า “อิ่ม” คุณอาจจะกำลังจะกิน จานที่สองใกล้หมดแล้วก็ได้
และถ้าคุณได้รับเชิญให้ไปกินในร้านอาหาร ซึ่งจัดอาหารเป็นเซ็ตเมนู ก็มักทำให้คุณอิ่มจนจุก มากจนเกินไป
ดังนั้น จึงควรฉลาดในการเลือก เซ็ตเมนูอาหาร โดยให้เริ่มต้นด้วยซุปใส หรือสลัดก่อน จานหลักให้เป็นอาหารจำพวกเนื้อปลา หรือเนื้อสัตว์ปีก ก่อนจะจบท้ายด้วย ผลไม้ หรือไอศกรีมซอเบต์
2. ไม่ต้องงดขนมหวาน
จริงอยู่ที่ว่า ของหวานๆ จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือด พุ่งสูงขึ้น และทำให้หิวบ่อย แต่เพื่อป้องกัน ไม่ให้ความอยากของหวานๆ ในระหว่างวัน พุ่งกระฉูดจนตบะแตก
ก็ขอให้เลือกรับประทาน คุ้กกี้ขิงเผ็ดร้อน หรือช็อคโกแลตที่ระบุว่า มีส่วนผสมของโกโก้ 60-70%
ซึ่งจะมีผลกับน้ำตาลในเลือดน้อยกว่า ช็อกโกแลตแบบอื่นๆ หรือเลือกขนมหวานไทยๆ ที่ใสๆ เช่น วุ้นหรือน้ำแข็งใส แทนเขนมหวาน ที่เน้นกะทิและไข่แดง
3. กดจุดชะลอความหิว
โดย ใช้นิ้วกดบริเวณร่องระหว่างใต้จมูก กับเหนือริมฝีปากบน สักประมาณ 20 วินาที ก่อนเริ่มต้นรับประทานอาหาร ก็จะช่วยให้คุณมีสติกับรสชาติอาหารทุกรสในขณะรับประทาน
4. ชะลอการรับประทาน
หลังจากงานฉลอง 2-3 วันผ่านไป ก็ถึงเวลาต้องคืนความบริสุทธิ์ให้กับร่างกายอีกครั้ง เพื่อลดอาการหิวค้าง และลดการทำงานของอวัยวะย่อยทุกชนิด
แล้วค่อยๆ จิบเครื่องดื่ม สำหรับเสริมอาหาร ที่สกัดจากหางนมตลอดวัน ร่วมกับ น้ำผลไม้หรือชาสมุนไพร
ถ้าได้ดื่มน้ำ wheat grass อีกสัก 50 มล. ร่วมด้วยก็จะช่วยการทำงานของหางนมได้ดีขึ้น ถ้าหิวก็ให้รับประทานผลไม้
5. ชามะละกอผสมขิงลดความพอง
ให้ฝานขิง 1 แผ่น แล้วสับก่อนจะคั้นเอาน้ำ แล้วเคี่ยวกับน้ำ 1 ลิตร สัก 10 นาที บี้เนื้อสับปะรด และมะละกออย่างละครึ่งแว่น ให้แหลกแล้ว นำไปปั่นรวมกับ น้ำขิงที่เคี่ยวเสร็จ อุ่นอีกทีก่อนดื่ม
ชาสูตรนี้ ช่วยเผาผลาญไขมัน และลดความอยากของหวานๆ ได้ดี
6. ธรรมชาติสกัดความป่อง
ชาเปปเปอร์มินต์ (Peppermint Tea) จะมีกรดตามธรรมชาติที่ช่วยย่อยอาหาร
7. ดื่มน้ำต้านความพอง
ใส่ขิง 1 แว่น ลงในน้ำดื่ม 1 แก้ว แช่ทิ้งไว้สักพักก่อนดื่ม น้ำมันธรรมชาติที่กระจายออกมาจากขิงจะช่วยลดกรดในกระเพาะ กระตุ้นการย่อยอาหาร ทั้งยังลดอาการพองของหน้าท้องจากอาการรับประทานจนท้องอืดท้องเฟ้อ
8. กลิ่นสยบความอยาก
ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน คุณก็มักจะได้กลิ่นขนมอบ ขนมเค้ก และช็อกโกแลตตลอดเวลา ซึ่งมักทำให้คุณน้ำลายสอ อยากรับประทานขึ้นมาทันที
แต่ก็มีวิธีหยุดยั้งอารมณ์อันตรายนั้น ก็คือ การจุดเทียนหอม หรือ น้ำมันหอมระเหยกลิ่นส้ม มะนาว มะกรูด วนิลลา หรือชินนามอน
เพราะกลิ่นเหล่านี้ จะช่วยลดความอยาก ในการรับประทานอาหาร เพราะสมองจะสั่งร่างกายว่า ยังอิ่มอยู่
9. เล่นเกมกีฬาในหมู่มิตร
พวกเราส่วนใหญ่ จะปล่อยตัวขี้เกียจออกกำลังกาย ปัญหาเหล่านี้ อาจทำให้หน้าท้องขยาย พุงยื่นได้ ฉะนั้น คุณจึงควรชวนเพื่อน คนใกล้ตัวหรือครอบครัวไปเดินเล่น
หรือวิ่งเล่น ตามสวนสาธารณะ หรือจะเลือกเล่นเกม เล่นกีฬาร่วมกันในช่วยวันหยุด กิจกรรมนี้เหล่านี้ จะช่วยให้คุณได้ทั้งความอบอุ่น และความสุขภาพร่างกายดีอีกด้วย
10. อาบน้ำให้ตัวเบาสบาย
หากคุณรู้สึกอึดอัดตัวเหลือเกิน ก็ลองใช้สมุนไพร สำหรับอาบน้ำที่ช่วยทำให้คุณรู้สึกตัวเบาสบาย
ด้วยการใส่ใบชาเขียว ให้เต็มถุงกรองชา แล้วแช่ในน้ำร้อนในอ่าง พร้อมทั้งใส่น้ำมันหอมระเหยกลิ่นมะนาว 2-3 หยด
ก่อนหยอดน้ำผึ้งอีกสัก 1-2 ช้อนชา เพื่อให้ความชุ่มชื่นผิว คนให้ละลาย แล้วลงไปแช่ให้สบายอารมณ์สัก 20 นาที และเมื่อความผ่อนคลายมาเยือน คุณจะรู้สึกว่าตัวเบาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
และนี่คือเคล็ดไม่ลับ ระงับการกินจุกจิก ระหว่างวัน ที่จะช่วยให้คุณสาวๆ ไม่ต้องปวดหัวกับปัญหาพุงป่องดูไม่สวยดั่งใจ
สำหรับช่วงเวลาแห่งการโชว์หุ่น หน้าท้องแบนราบของคุณ ลองทำกันดูจ้า ได้ผลยังไงแล้วก็มาบอกกันมั่งนะคะ