อุปสรรคหนึ่งของการลดน้ำหนักคือความพ่ายแพ้ให้แก่ “ความอยาก”
ที่มักจะทำให้สาวๆ ส่วนมาก ต้องยกธงขาวเพราะไม่สามารถต้านทานอาการหิวกระหายในระหว่างวันได้
อาการหิวที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ในแต่ละวันจึงมักทำให้วินัยในการกินไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง
แม้ว่าจะพยายามอดทนอย่างมาก แต่กลับยิ่งทำให้รู้สึกหงุดหงิด ทำงานไม่ได้ กระวนกระวาย
ยิ่งทำให้เข้าไปเพิ่มความรู้สึกอยากให้รุนแรงมากขึ้น ซึ่งอาหารที่เลือกกินในช่วงที่มีอาการเช่นนี้ ก็มักจะเป็นของโปรดส่วนใหญ่
โดยเฉพาะขนมหวาน ขนมกรุบกรอบ เบเกอรี่ หรือน้ำอัดลม
หากพฤติกรรมนี้ยังไม่ได้รับการแก้ไขหาสาเหตุที่แน่ชัด ก็จะทำให้การลดความอ้วน ถูกยืดเวลาออกไปให้นานขึ้น เมื่อนั้นผลของความพยายามก็อาจจะล้มเหลวเอาได้ง่ายๆ
ดังนั้น เราจึงควรทำความเข้าใจของอาการหิวบ่อยที่เกิดขึ้น เพื่อจะได้ควบคุมแคลอรี่ในการกินแต่ละมื้อ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเองค่ะ
“น้ำตาล” ตัวการสร้างความหิว
อาหารส่วนมากที่ถูกนึกถึงในช่วงที่เกิดอาการอยากอาหาร จะทำให้เราไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
ซึ่งนั่นก็จะทำให้เราโฟกัสไปที่อาหารประเภทแป้ง น้ำตาล ไขมัน และของหวานเป็นหลัก
หลังจากที่น้ำตาลถูกย่อยเข้าสู่กระแสเลือด น้ำตาลในเลือดจะพุ่งสูงขึ้น ร่างกายจะถูกกระตุ้นให้หลั่งฮอร์โมนอินซุลิน
เพื่อปรับสมดุลเมื่อน้ำตาลที่กินเข้าไปให้พลังงานเกินความจำเป็นก็จะถูกเปลี่ยนรูป ให้กลายเป็นไขมันสะสมอยู่ตามชั้นผิวหนังและตับ กลายเป็นพลังงานสำรอง
ในช่วงที่เรากินของหวานเข้าไป จะสังเกตได้ว่าร่างกายจะกระปรี้กระเปร่า อารมณ์ดี มีชีวิตชีวาและมีพลังในการทำงานต่างๆ มากขึ้น
ซึ่งภาวะนี้เกิดขึ้นจากปริมาณน้ำตาลในเลือดพุ่งสูง แต่จะเกิดขึ้นได้เพียงชั่วขณะหนึ่ง
หลังจากน้ำตาลลดต่ำลงก็จะกลับสู่ความง่วงเหงาหาวนอน รู้สึกหิวบ่อยจนต้องกลับมากินจุกจิกเช่นเดิม
เป็นวัฏจักรไปเรื่อยๆ จนทำให้การลดความอ้วนของสาวๆ ล้มเหลวตามมา
ข้อแนะนำเมื่อรู้สึกอยากอาหารหรือของหวานขึ้นมา ควรตั้งสติตัวเองให้ดีก่อน
และพยายามอย่าสร้างความเครียดให้กับร่างกายมากนัก เพราะมันจะยิ่งเข้าไปเพิ่มอาการหิวโหยให้รุนแรงกว่าเดิม
ต้องรู้จักปรับพฤติกรรมการกินของตัวเองเสียใหม่ด้วยคำแนะนำต่อไปนี้ที่จะช่วยให้รู้สึกอิ่มไปตลอดทั้งวันได้
อย่ากินหนักในมื้อเดียว
หลายคนมักจะมีนิสัยกินจุ โดยเฉพาะในช่วงเช้าที่คิดว่ากินมากจะไม่ทำให้อ้วนเพราะแคลลอรี่ที่จะถูกนำไปใช้จนหมด
ในความเป็นจริงการกินมากๆ ในมื้อเดียวและคิดว่ามันจะจบทำให้สามารถอยู่ได้ตลอดทั้งวันเป็นสิ่งที่ผิด
เพราะนอกจากจะทำให้รู้สึกหิวในระหว่างวัน การกินคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป
ก็จะยิ่งทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงจนรู้สึกหิวกระหายอย่างหนักตามมาได้
เมื่อกินเพิ่มขึ้นปริมาณพลังงานที่ได้รับก็จะเกินความต้องการของร่างกาย เข้าสู่โหมดเก็บจนเกิดความอ้วนตามมา
ดังนั้นทางที่ดี ควรแบ่งมื้ออาหารออกเป็นมื้อเล็ก 5-6 มื้อต่อวัน โดยให้มีพลังงานทั้งหมดเท่ากับพลังงานที่ควรได้รับ
การกินเช่นนี้นอกจากจะทำให้ไม่รู้สึกหิว ยังทำให้ระบบเผาผลาญถูกกระตุ้นอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย
ทดแทนความอยากด้วยอาหารพลังงานต่ำ
หากไม่สามารถอดทนต่อความหิวโหยในระหว่างวันได้ ควรจัดเตรียมอาหารว่างที่มีประโยชน์
ทดแทนพวกขนมหวาน น้ำอัดลมหรือแป้ง ด้วยผลไม้รสเปรี้ยว เครื่องดื่มที่ให้พลังงานต่ำ
ส่วนมื้ออื่นๆ ให้เลือกกินเป็นข้าวกล้อง ธัญพืชไม่ขัดสี ขนมปังโฮลวีต ไข่ขาว โปรตีนไม่ติดมัน และเน้นผักในมื้ออาหารให้มากขึ้น
ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ และถูกนำไปใช้อย่างเพียงพอต่อความต้องการ โดยไม่เกินปริมาณของแคลลอรี่ ที่ควรได้รับต่อวัน
ปล่อยให้หัวใจของคุณได้เป็นอิสระเสียบ้าง
แม้ว่าการลดน้ำหนัก จะเป็นเรื่องที่ต้องมีวินัยเป็นหลัก แต่อย่างไรก็ตามความเคร่งครัดที่มากเกินไป
จะกลายเป็นการสร้างความกดดันให้กับตัวเอง และรู้สึกว่าการลดความอ้วนเป็นเรื่องที่ทุกข์ทรมาน จนนำไปสู่การล้มเลิกในที่สุด
ดังนั้นจึงควรหันมาเดินทางสายกลางไม่ตึงไม่หย่อน กินของหวานได้บ้าง
เพื่อเป็นรางวัลให้แก่ตัวเองและให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่า
Photo Credit : blackburntraining.com
หรือจะเลือกเป็น 1 มื้ออาหารใน 1 สัปดาห์ที่สามารถกินตามใจปากได้อย่างอิสระ หรือที่เรียกกันว่าวัน Cheat day ก็จะช่วยให้การลดความอ้วนมีแรงจูงใจ และความสุขมากขึ้นได้
สาวๆ ที่รู้สึกอยากอาหารบ่อย อาจจะมีสาเหตุมาจากตัวกระตุ้นเหล่านี้
ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ความกระหายเข้าครอบงำ ก็ต้องลองหันมาปรับพฤติกรรมการกินใหม่กันดูค่ะ